การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์หรือจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ตึกแถว หรืออาคารพาณิชย์ และที่หลายๆ คนชอบเรียกทับศัพท์ว่า ช้อปเฮ้าส์ ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการ SME เพราะนอกจากจะใช้เป็นสถานประกอบการแล้ว ยังเป็นทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่าในอนาคตด้วย โดยในหลายแหล่งชุมชนที่การเดินทางสะดวก มีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมาก ส่วนใหญ่แล้วจะมีโครงการอาคารพาณิชย์เปิดขาย หรือในบางพื้นที่ผู้พัฒนาโครงการก็สร้างเป็นโครงการช้อปเฮ้าส์ขนาดใหญ่ เพื่อเจาะกลุ่มผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการมีหน้าร้าน หรือมีสำนักงานเป็นของตัวเอง
สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการขยายกิจการ ขยายสถานประกอบการก็มีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งการเช่าอาคารพาณิชย์ หรือการซื้ออาคารพาณิชย์เป็นของตัวเอง โดยผู้ประกอบการที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน สภาพคล่อง ก็สามารถลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์เป็นของตัวเองได้ โดยในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลง ต้องโยกย้ายทำเลที่ตั้งหน้าร้านหรือสำนักงาน ก็สามารถปล่อยเช่า แล้วนำรายได้จากค่าเช่ามาผ่อนชำระธนาคาร หรือถ้าต้องการขาย ก็มีโอกาสที่จะได้กำไรส่วนต่างจากราคาขายที่สูงขึ้นหรือที่เรียกว่า Capital Gain ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ SME ต้องประเมินสภาพคล่องของตัวเองเป็นสำคัญ และต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า ระหว่างการจ่ายค่าเช่าเพื่อประกอบกิจการกับจ่ายเงินผ่อนแบงก์ แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เช่น อาคารพาณิชย์ ต้นทุน 5 ล้านบาท กู้ในอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5% ระยะเวลา 30 ปี ต้องผ่อนต่อเดือนประมาณ 33,000 บาท ก็เทียบกับต้นทุนค่าเช่าในบริเวณนั้นว่าการลงทุนซื้อคุ้มหรือไม่
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ SME ที่ตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์เป็นของตัวเองส่วนใหญ่จะมีกิจการที่มั่นคง พร้อมลงหลักปักฐานมีหน้าร้านหรือมีสำนักงานบนทำเลนั้นๆ แบบระยะยาว การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์เป็นของตัวเองก็มีความคุ้มกว่า เพราะหากไม่ได้ขาย แต่ในอนาคตต้องการกู้เงินเพื่อการลงทุนเพิ่ม สามารถนำอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้ได้ แต่หากยังไม่มีความพร้อม และรูปแบบธุรกิจมีโอกาสที่จะโยกย้ายทำเล การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ข่าวดี! ลดภาษี SMEs หนุนเสริมสภาพคล่อง
การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ส่วนใหญ่แล้ว นิยมใช้วิธีการกู้มากกว่าการซื้อด้วยเงินสด เพราะดอกเบี้ยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ถูกกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทอื่น ดังนั้น เจ้าของกิจการหลายรายจึงเก็บเงินสดไว้หมุนเวียนในกิจการ หรือต่อยอดการลงทุนอื่น แล้วซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ด้วยการกู้สินเชื่อ จึงอาจกล่าวได้ว่าสินเชื่อ SME เพื่อขยายธุรกิจมีมากกว่าที่คิด และสินเชื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกสินเชื่อเพื่อการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ SME
ด้านคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแบงก์ เช่น ต้องเป็นนิติบุคคลจดทะเบียน ประกอบธุรกิจ มีกิจการอยู่ในประเทศไทย มียอดขายรวมของกลุ่มบริษัท (Group Sales) ต่อปีไม่เกิน 400 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี งบการเงินที่ตรวจสอบแล้วไม่มีผลขาดทุนติดต่อกันในช่วง 3 ปีล่าสุด หรือไม่มีส่วนทุนติดลบ เป็นต้น ส่วนระยะเวลาการผ่อนชำระ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแบงก์เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะดูเกณฑ์อายุของผู้กู้เป็นหลัก และมีระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี
คิดต่อเติม ขยายกิจการ หรือเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ รวมถึงใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ของกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ทดลองใช้เครื่องมือคำนวณสินเชื่อ http://www.ddproperty.com/bank/uob หรือ ติดต่อศูนย์ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ SMEs ธนาคารยูโอบี โทร. 0-2343-3555