อารียา รุกหนักครึ่งปีหลัง เปิดไฮไลต์บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ระดับลักชัวรี่ “The AVA” ซอยสุขุมวิท 77 ราคาสวยเริ่ม 30 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมหรู “เฉลิมนิจ ลาเมซอง” ซอยสุขุมวิท 53 ราคาสตาร์ทต่อตารางเมตรไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนบาท ขณะที่เอสเปซ ไอดี อโศก-รัชดา คอนโดพร้อมอยู่ ล่าสุดกวาดยอดขายแล้วเกินครึ่ง มั่นใจยอดขายทั้งปีเข้าเป้า 7,000 ล้านบาท
นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ (A) เปิดเผยว่า สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง และต่อเนื่องปี 2560 ทางบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 5-6 พันล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ รวมมูลค่า 3.6-4 พันล้านบาท
โดยไฮไลท์ของครึ่งปีหลังจะเปิดบ้านเดี่ยวใหม่ระดับลักชัวรี่ 3 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 77 “The AVA” ขนาดที่ดินเริ่ม 55 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 500- 600 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 30-80 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 80 ยูนิตจะเปิดขายในไตรมาส 4 และจะเปิดโครงการแนวสูงระดับลักชัวรี่ แบรนด์ “เฉลิมนิจ ลาเมซอง” ซอยสุขุมวิท 53(เข้าในซอยประมาณ 500 เมตร) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น จำนวน 100 กว่ายูนิต ราคาเริ่ม 2.5 – 3แสนบาทต่อตารางเมตร มูลค่าประมาณ 1,000-1,300 ล้านบาท
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมหรูย่านราชดำริ “สุนทรี” มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายไตรมาส 1/60 หรือ ต้นไตรมาส 2/60 ขณะนี้อยู่ระหว่างกหารปรับเปลี่ยนการออกแบบโครงการใหม่ สำหรับโครงการดังกล่าวจะสร้างบนที่ดินเช่าสำนักงานพระคลังข้างที่ โดยก่อนหน้านี้เป็นที่ตั้งของสถาบันสอนภาษา AUA ปัจจุบันได้ทำการการเคลียร์พื้นที่และล้อมรั้วเพื่อเตรียมการก่อสร้างต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโครงการใหม่ส่วนใหญ่จะเปิดในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้บริษัทมั่นใจว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้าที่ได้ว่างไว้ทั้งปีที่ 7 – 8 ล้านบาท แม้ว่าครึ่งปีแรกจะทำรายได้เพียง 2.4 พันล้านบาท
โดยล่าสุดได้เปิดขายโครงการ เอสเปซ ไอดี อโศก-รัชดา คอนโดมิเนียมใหม่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ สูง 29 ชั้น มูลค่า 2.6 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยโอนบางส่วนแล้ว 100 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายที่ทำได้แล้ว 50% หรือจำนวน 235 ยูนิต จากทั้งหมด 543 ยูนิต โดยสัดส่วนลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย และอีก 20% เป็นลูกค้าชาวต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้นำโครงการดังกล่าวไปโรด์โชว์ในต่างประเทศเช่นสิงคโปร์และไต้หวันด้วย
“ราคาที่ดินย่านพระราม 9 เมื่อช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมา 2 เท่าตัว แต่เดิมขายตารางวาละไม่ถึง 2 แสนบาท ปัจจุบันขายอยู่ตารางวาละ 7 – 8 แสนบาทบางแปลงอยู่ติดถนนขายตารางงวาละ 1 ล้านบาท ส่วนในแง่ของการลงทุนปล่อยคอนโดมิเนียมในย่านนี้ โดยเฉพาะ คอนโดมิเนียม เอ สเปซ อโศก – รัชดา ห้องขนาด 31 ตารางเมตร ค่าเช่าอยู่ที่ 1.2 หมื่นบาทต่อเดือน มองว่าราคาค่าเช่าดังกล่าวยังสามารถทำยิวด์ได้สูงขึ้นอีก
สาเหตุคือปัจจุบันย่านพระราม 9 เป็น New CBD มีอาคารสำนักงานเกิดขึ้นมากมายเช่น อาคารสำนักงานใหญ่ AIA ตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย และอนาคต The super tower ของ G land เปิดตัวจะยิ่งทำให้ย่านพระราม 9 กลายเป็น แลนด์มาร์คในย่านนี้ และส่งให้ราคาที่ดิน และ ราคาคอนโดมิเนียมปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ไม่ถึง 1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ที่เปิดขายและโอนได้ทันที ขณะที่มีโครงการคอนโดมิเนียมรอขายอีกมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท หรือเท่ากับ 700-800 ยูนิต
อย่างไรก็ดีปีนี้สัดส่วนรายได้เปลี่ยนเป็นมาจากคอนโดมิเนียมเพิ่มเป็น 30% จาก 10% ในปีก่อน ส่วนแนวราบปรับลดสัดส่วนมาที่70%จากปีก่อนอยู่ที่90%
ส่วนของงบในการซื้อที่ดินนั้นปีนี้ได้เตรียมไว้ 1.5-2.0 พันล้านบาท แบ่งเป็นเพื่อรองรับการพัฒนาคอนโดฯ 500 ล้านบาท และรองรับแนวราบ 1-1.5 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่ 300 ไร่ อยู่บริเวณบางนา 100 ไร่ และย่านบางใหญ่ 200ไร่
ส่วนความคืบหน้าโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐนั้น ที่ได้มาพัฒนาบนทำเลพหลโยธิน 1 โครงการนั้น บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับกรมธนารักษ์ ซึ่งในสัญญาเบื้องต้นได้รับงานก่อสร้างออกแบบ ซึ่งบริษัทจะมีรายได้จากค่าเช่า ประมาณ 4,000 บาท/ห้อง/เดือนเป็นเวลา30ปี แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็มองว่าโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐนั้นเรามิได้มุ่งหวังกำไรจากโครงการนี้มากนัก เพราะโครงการดังกล่าวมีมาร์จิ้นเพียง 4-5% เท่านั้น
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
