[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] หลังจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี มีความคืบหน้าที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะการได้ผู้รับเหมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้โซนรามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลีได้รับความสนใจจากผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น จากเดิมการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ดังกล่าว จะกระจุกตัวอยู่โซนพระราม 9-อโศกดินแดง รัชดาฯ – พระราม 9 ซึ่งปัจจุบันก็มีราคาขายที่ค่อนข้างสูงแล้ว
ขณะที่รามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลีถือว่าเป็นทำเลน้องใหม่มาแรงสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม จากก่อนหน้านี้ โซนนี้ก็มีคอนโดมิเนียมเปิดขายในตลาดบ้าง แต่ไม่มากนัก แต่การมีรถไฟฟ้าสายสีส้มเกิดขึ้น จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หน้าดินพื้นที่โซนนี้เปลี่ยนไป และกลายเป็นทำเลทองในอนาคต
คล้ายกับโซนสุขุมวิทตอนปลายที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากการมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย โดยหากวิเคราะห์ย้อนกลับไปช่วงก่อนที่จะมีรถไฟฟ้า สุขุมวิทขยายตัวจำกัดอยู่แค่ไม่เกินทองหล่อ เอกมัย จนเมื่อมีรถไฟฟ้า การขยายตัวเริ่มกระจายไปยังพระโขนง อ่อนนุช และเมื่อรถไฟฟ้าขยายไปอีกเป็นอ่อนนุช-แบริ่ง ก็มีผลให้พื้นที่สุขุมวิทตอนปลายเปลี่ยนแปลงไป นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายตั้งแต่ยังไม่เริ่มก่อสร้าง ก็มี Capital Gain (ส่วนต่างของราคาทรัพย์สิน) ที่สูงขึ้นมาก เพราะราคาคอนโดมิเนียมในช่วงเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าจะยังไม่สูง แล้วก็ค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้นตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างรถไฟฟ้า จนเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว ราคาก็จะขยับอีกครั้ง
โซนรามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลี จึงเป็น “โซนการลงทุนแห่งใหม่” ที่มีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางเดียวกับโซนสุขุมวิทตอนปลาย โดยเฉพาะโครงการที่เปิดตัวใหม่ก่อนที่โครงการรถไฟฟ้าจะเปิดให้บริการ ราคาจะยังไม่สูงมากนัก ยิ่งเมื่อเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียงกันอย่างแยกพระราม 9 จะเห็นได้ชัดว่าราคาแตกต่างกันมาก
สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินแห่งชาติของไทย
ในเชิงความต้องการที่อยู่อาศัยตั้งแต่ภาครัฐยังไม่มีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้า บริเวณรามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลีก็เป็นอีกหนึ่งโซนที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยค่อนข้างสูง จากทั้งกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Abac และมหาวิทยาลัยรามคำแหง คนที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยย่านนี้และคุ้นเคยการอยู่อาศัยในพื้นที่นี้ เมื่อเรียนจบ ทำงานก็ยังนิยมหาที่อยู่อาศัยย่านนี้ เพราะแม้ว่าการจราจรบริเวณนี้จะหนาแน่น แต่ก็มีหลากหลายเส้นทางให้เลือกเชื่อมต่อเพื่อเข้าเมืองได้อย่างสะดวก ทำให้คนที่คุ้นเคยย่านนี้ก็ยังมองว่าเดินทางสะดวก
นอกจากนี้ ชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวันบางส่วนก็นิยมอยู่อาศัยย่านนี้เช่นกัน เพราะสามารถเชื่อมต่อไปยังห้างที่รองรับต่างชาติอย่าง Show DC ใกล้แหล่งคลังสินค้าของหลายแห่ง ใกล้กับแอร์พอร์ตลิงค์ ใกล้ทางด่วนที่เชื่อมต่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวกและใช้เวลารวดเร็วมาก ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสนามบินไม่สูงมาก ที่พักอาศัยโซนรามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลีจึงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่นักธุรกิจกลุ่มนี้ให้ความสนใจเช่า
ตลาดเช่าโซนรามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลีจึงเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีทั้งกลุ่มหอพัก อพาร์ทเมนต์ และคอนโดมิเนียม กลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา คนทำงาน เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยประมาณ 1-2 คน/ห้อง ไม่ใช่กลุ่มครอบครัว โดยจากการสำรวจการขายหรือปล่อยเช่าของนักลงทุนในพื้นที่เขตบางกะปิ รามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลีผ่านเว็บไซต์ DDProperty ตั้งแต่ปี 2558-2560 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 10-15% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเช่าที่ขยายตัว
อัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมโซนรามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลี
จากปัจจัยด้านความต้องการเช่าที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้โซนรามคำแหง หัวหมาก แยกลำสาลีเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่
าลงทุน โดยเฉพาะในอนาคตที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่านบริเวณแยกลำสาลี จะยิ่งทำให้โซนนี้มีความต้องการเช่าที่สูงขึ้น และมีแนวโน้มว่าอัตราค่าเช่าจะปรับตัวตามความต้องการด้วย โดยการเลือกลงทุนในช่วงที่โครงการเพิ่งเปิดตัว และรถไฟฟ้ายังอยู่ระหว่างก่อสร้าง เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ คาดว่าจะมี Capital Gain เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากและมีผลได้โอกาสของผลตอบแทนจากการลงทุนคอนโดมิเนียมใหม่ในพื้นที่นี้สูงคล้ายกับบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย
ไม่เพียงแต่รถไฟฟ้าสายสีส้ม อย่างที่กล่าวแล้วว่า บริเวณแยกลำสาลียังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ผ่านด้วย จึงนับเป็น Interchage หรือพื้นที่จุดตัดที่สำคัญของย่านหัวหมากกับลาดพร้าว ซึ่งหากวิเคราะห์ทำเลจุดตัดของสถานีรถไฟฟ้าทุกสายในปัจจุบันล้วนเป็น “ฮับ” ของการเดินทาง และเมื่อมองกลับมายังเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มาตัดกับสายสีส้มบริเวณแยกลำสาลียังเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่น่าสนใจ เพราะสายสีเหลือง จะมีจุดตัดกับรถไฟฟ้าสายสีแดง แอร์พอร์ตลิงค์ที่สถานีพัฒนาการ จะยิ่งเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ย่านนี้มีความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยจากชาวต่างชาติมากขึ้น
เส้นทางนี้จะคล้ายกับรถไฟฟ้า “สายอาสะคุซะ” ในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นวงไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสนามบินนาริตะ ทำให้การเดินทางเข้าออกสนามบินมีความสะดวก นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะพักอาศัยตามเส้นทางนี้ ซึ่งการที่แยกลำสาลี จะมีรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญตัดผ่าน คือ สายสีส้มตัดกับสายสีเหลือง บวกกับอีก 1 สายสีแดง แอร์พอร์ตลิงค์ที่สถานีพัฒนาการ กลายเป็น Interchange แห่งใหม่ ก็จะมีโอกาสดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เข้าสู่พื้นที่ใกล้เคียงมากขึ้น รวมถึง ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้นเช่นกัน
รถไฟฟ้า “สายอาสะคุซะ” ในประเทศญี่ปุ่น
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริเวณแยกลำสาลีจะเป็น “ฮับแห่งการเดินทางของย่านรามคำแหง” ในอนาคต และเป็นทำเลที่จะมี Capital Gain เพิ่มสูงขึ้นถึง ประมาณ 20-30% และ Yield เพิ่มขึ้น 7-10% เลยทีเดียว
โครงการไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง (Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng) คอนโดมิเนียมใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มาในคอนเซปต์คอนโดมิเนียมสไตล์ Collage Art ผสานความคลาสสิคและความโมเดิร์นไว้ได้อย่างลงตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งอยู่บนทำเลทองแห่งอนาคต ติดถนนรามคำแหง
– 100 เมตรจาก MRT หัวหมาก
– 5 นาที สู่ Airport Link หัวหมาก
– ใกล้จุด Interchange แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ลำสาลี
– ใช้เวลาเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเพียงพริบตาเดียว คือ 15 นาที
ซ้ายมือเป็น Co-Working Space และขวามือเป็น Co-Kitchen ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดให้
อีกทั้งยังใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ มหาวิทยาลัยเอแบค, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบัน Nida, สนามกีฬาราชมังคลาสถาน, โรงพยาบาลรามคำแหง และโรงพยาบาลสมิติเวช
อีกทั้งยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์ตอบรับคนที่ชอบกิน ดื่ม เที่ยว เช่น เดอะมอลล์รามคำแหง, เดอะมอลล์บางกะปิ, The Nine, Max Valu ร้านอาหารและคาเฟ่สุดคูลย่านพระราม 9 ซอย 41-49
Visitor lobby
ตัวโครงการ เป็นคอนโดมิเนียมรูปแบบ High Rise สูง 25 ชั้น จำนวน 1 อาคาร เพดานสูง 3 เมตร พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ* และอาคารจอดรถยนต์ 6 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการกว่ากว่า 4-0-11.9 ไร่
จำนวนยูนิตจะแบ่งเป็นห้องชุดเพื่ออยู่อาศัยทั้งสิ้น 682 ยูนิต ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 3 ยูนิต และที่จอดรถยนต์ (Parking+Extra) 46.52%
รูปแบบห้องมีด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบดังนี้
– 1 Bedroom 22.20 -22.90 ตร.ม. 318 ยูนิต
– 1 Bedroom Exclusive 26.40 ตร.ม. 138 ยูนิต
– 1 Bedroom Plus 31.40 -32.50 ตร.ม. 180 ยูนิต
– 2 Bedroom 43.20-43.30 ตร.ม. 46 ยูนิต
ภาพส่วนหนึ่งจากห้องตัวอย่าง
ทั้งนี้โครงการเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน มี.ค. 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จ เดือน มี.ค. 2563 ในราคาเริ่มต้น 2.05 ล้านบาท ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 150,000 บาทได้ที่ https://goo.gl/wQDhEA และมี Grand Opening 9 ธ.ค.นี้ @Sales Gallery
ชม Link Youtube ประกอบโครงการ www.youtube.com/watch?v=EVXLF2WPEKY
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
