บิ๊กบอสชาญอิสสระ เข้าเทคโรงแรมในลอนดอนสยายปีกลงทุนต่อยอด

2 มี.ค. 2560

 

บมจ.ชาญอิสสระ เล็งเข้าซื้อโรงแรมในยุโรป โดยสนใจกิจการในประเทศอังกฤษ กรุงลอนดอน ตั้งงบลงทุนเบื้องต้นไว้แห่งละ 1,500 -2,000 ล้านบาท คาดได้ข้อสรุปขัดเจนอย่างน้อย 1 แห่งภายใน 1 – 2 ปีนี้

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างมองหาโอกาสในการลงทุนโรงแรมในต่างประเทศ ซึ่งกำลังศึกษาการเข้าซื้อโรงแรมแถบยุโรป เบื้องต้นดูไว้ที่ประเทศอังกฤษ ในกรุงลอนดอนรอบนอก เนื่องจากปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ในยุโรปลดลงค่อนข้างมาก หลังจากเงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนค่าลงมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยุโรปตกต่ำและได้รับผลกระทบจากกรณี BREXIT จึงมองว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนไม่สูงมากนัก ซึ่งประเมินว่าบริษัทจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนราว 20% โดยบริษัทตั้งงบเข้าซื้อสินทรัพย์แห่งละไม่เกิน 1,500 – 2,000 ล้านบาท

“การเข้าซื้อโรงแรมในต่างประเทศนั้น มีจุดประสงค์เพื่อนำสินทรัพย์ดังกล่าวขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SRIPANWA) เพื่อทำให้ขนาดของกอง SRIPANWA มีมูลค่าแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 พันล้านบาท โดยในปี 61 บริษัทเตรียมนำโรงแรม บาบาบีช คลับ ภูเก็ต และบาบาบีช คลับ หัวหิน มูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท ขายเข้ากอง SRIPANWA เพื่อทำให้มูลค่ากองเพิ่มแตะ 5,000 ล้านบาท”

สำหรับการเปิดโครงการใหม่ในปี 60 บริษัทได้ชะลอการเปิดโครงการ เพราะภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไนประเทศชะลอตัวตาม ประกอบกับ ยังมีปัญหาปริมาณซัพพลายล้นตลาดในบางทำเล ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทุกรายมีความระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น

ดังนั้น บริษัทจึงหันไปเน้นการขยายเฟสใหม่ของโครงการเดิม 3-4 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 – 3,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวบางนาและพระราม 9 เฟส 2, โครงการคอนโดมิเนียมเชียงใหม่ เฟส 2 และโครงการคอนโดมิเนียมทิวทะเล เฟส 4

บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินในปีนี้ราว 2,000 ล้านบาท เพื่อจัดหาที่ดินที่มีความเหมาะสมในการพัฒนาทั้งในส่วนของโครงการแนวสูงและโครงการแนวราบทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยในส่วนของทำเลไนต่างจังหวัดจะยังคงเน้นจังหวัดที่บริษัทมีโครงการอยู่แล้ว เพราะเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และเพชรบุรี เป็นต้น และเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

>>อ่านรีวิวโครงการบ้านใหม่ คอนโดใหม่<<

อย่างไรก็ดี ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 60 เติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3,100 ล้านบาท โดยจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ในปีนี้ราว 2,000 ล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมดที่บริษัทมี 2,700 – 2,800 ล้านบาท โดย Backlog ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนภายในปี 61 และบริษัทจะพยายามรักษาระดับของ Backlog ในแต่ละปีให้อยู่ในระดับ 2,000 – 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของรายได้ในอนาคต

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ