ปฎิเสธไม่ได้ว่า ณ วันนี้ “นวัตกรรม” ถูกนำมาจับคู่กับธุรกิจจนกลายเป็นตัวแปรสำคัญหนึ่งในการสร้างโอกาสและความต่างให้กับผู้ประกอบการ นวัตกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งใหม่แกะกล่อง หากแต่ผ่านการต่อยอดพัฒนาจากความคิดสร้างสรรค์ จนมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น หรือแตกต่างจากที่มีอยู่เดิม นั่นก็ถือเป็นนวัตกรรมได้
ดังนั้น นวัตกรรมนำมาสู่การสร้างโอกาสและช่องทางใหม่ๆ ที่ต่างออกไปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเชิงพาณิชย์ สอดรับกับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0
ตลาดรับสร้างบ้านยุคใหม่แข่ง “นวัตกรรม-ดีไซน์-บริการ”
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวถึง การแข่งขันในอนาคตและเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ “ตลาดบ้าน” หรือ “ตลาดที่อยู่อาศัย” ยุค 4.0 ที่ต้องให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรมมาใส่ในแบบบ้านยุคใหม่ อาทิ แบบบ้านเพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องนวัตกรรมแล้ว ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านก็ต้องวางแผนรับมือการตลาดยุคโซเชียลมีเดียด้วยเช่นกัน
“ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยได้มีการพัฒนาในทุกแง่มุมเพื่อรองรับการอยู่อาศัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีนวัตกรรม รวมทั้งโครงสร้างบ้านที่แข็งแรง รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านต้องให้ความสำคัญกับเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคตเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เช่น นวัตกรรมการจัดพื้นที่เพื่อรองรับกับผู้สูงอายุแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็น ห้องน้ำ ห้องนอน ทางขึ้นลง รวมถึงพื้นที่นั่งเล่น เป็นต้น”
ขณะที่กระแสยุคดิจิทัลเข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเทคโนโลยีในการออกแบบอาคารเป็นรูป3มิติ ที่จะช่วยให้คำนวณปริมาณวัสดุที่ต้องใช้ เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเรียนรู้และต้องก้าวตามให้ทัน เพราะนอกจากจะช่วยให้ง่ายต่อการทำงานแล้ว ยังสามารถที่จะคำนวณต้นทุนต่างๆ ได้ด้วย
“คนเจเนอเรชั่น วาย หรือ เจนวายที่เติบโตมากับยุคดิจิทัลและมีกำลังซื้อสูง ลูกค้ากลุ่มนี้ย่อมมีความต้องการที่แตกต่างต้องการความพิเศษ ความชอบที่เป็นแบบยูนีค ด้านการดีไซน์ และการบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างต่อเนื่อง”นายพิชิต กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่สถานการณ์ตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศ ในช่วงไตรมาสแรกปี 2560 มีขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาประเมินว่าเติบโตกว่า 18-19% โดยปัจจัยหลักๆ มาจากการกระตุ้นตลาดและแข่งขันกันคึกคักมากขึ้นของบรรดากลุ่มผู้ประกอบการหลังจากที่ไตรมาส 4 ปีที่แล้วตกอยู่ในบรรยากาศซบเซาระยะหนึ่ง
ปัจจุบันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเองก็เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประเมินจากบรรยากาศในงานอีเว้นท์ที่มีผู้บริโภคมาเลือกช้อป และว่าจ้างผู้ประกอบการรับสร้างบ้านกันอย่างคึกคัก ทำให้ตัวเลขยอดขายบ้านโดยเฉพาะกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ ที่แข่งขันอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแชร์ส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม
THBA เผยกำลังซื้อไตรมาสแรก “ปรับตัว” ดีขึ้น
ด้านนายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THBA) แสดงความคิดเห็นถึงแนวโน้มไตรมาส 2นั้น แม้กำลังซื้อผู้บริโภคไตรมาสแรกปรับตัวดีขึ้นแต่ยังมีความกังวลอยู่บ้างเพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลวันหยุดยาว อย่างไรก็ดีหากภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวและการเมืองมีความชัดเจน ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคและประชาชนมีความเชื่อมั่นตามมา พร้อมที่จะจับจ่ายใช้สอยและลงทุนเรื่องบ้านหรือที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น
“รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีและเป็นปัจจัยบวกที่จะส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 2 และปี 2560”นายสิทธิพร กล่าวเสริม
แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส 2 หรือครึ่งปีแรกยังคงแข่งขันรุนแรงเช่นที่ผ่านมา โดยกลยุทธ์หลักๆ ที่กลุ่มผู้ประกอบการนำมาใช้แข่งขันและเห็นได้ชัดเจน สามารถแบ่งออกได้ 3 ลักษณะคือ
1.กลยุทธ์ราคาต่ำ
2.กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่าง
3.กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผู้ประกอบการกว่า 90% ชูกลยุทธ์ราคาต่ำ ในขณะที่มีผู้ประกอบการส่วนน้อยหรือร้อยละ 10 เท่านั้น ที่จะเน้นให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง และด้วยเหตุที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ เลือกใช้กลยุทธ์ราคาต่ำ จึงทำให้ต้องเลือกใช้วิธีลดต้นทุนด้วยการหลบเลี่ยงภาษีโดยอาศัยช่องโหว่ทีมี ซึ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการ ที่ปฏิบัติตามระบบอย่างถูกต้องแข่งขันลำบาก เพราะเสียเปรียบในแง่ต้นทุนทางภาษี
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน