รถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือรถไฟฟ้า BTS ที่เรารู้จักกันดี เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 ถือเป็นรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศที่ทำให้รูปแบบการอยู่อาศัยของคนกรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงไปสู่ที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมมากขึ้น และปัจจุบันจากการขยายเส้นทางการเดินรถทั้งฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ยิ่งทำให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวครอบคลุมการเดินทางทั้งกรุงเทพฯ ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ตลอดจนปริมณฑลอย่างจังหวัดสมุทรปราการและปทุมธานี
รถไฟฟ้าสายสีเขียวสามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่วง ได้แก่ 1.ช่วงหมอชิต-แบริ่ง ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 2.ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดให้บริการสถานีสำโรงแล้ว และงานโยธามีความคืบหน้ากว่า 99% คาดว่าจะเปิดให้บริการทั้งระบบภายในปี 2561 3.ช่วงหมอชิต-คูคต ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีความคืบหน้าประมาณ 19% คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2563 จากความคืบหน้าของงานก่อสร้างดังกล่าวทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมายตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเฉพาะช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เนื่องจากยังมีราคาที่ดินต่ำกว่าช่วงอื่น
คอนโดฯ เหลือขายมาก แต่แนวโน้มยังดี
จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ได้สำรวจโครงการอาคารชุดที่อยู่ระหว่างการขายในรัศมี 500 เมตร จากแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว พบว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้ง 3 ช่วง มีโครงการอาคารชุดที่อยู่ระหว่างการขายในครึ่งแรกปี 2559 จำนวน 85 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีจำนวน 78 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการ 34,000 หมื่นหน่วย เพิ่มขึ้น 18.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 มีหน่วยขายได้สะสมจำนวน 25,000 หน่วย เพิ่มขึ้น 18.2% และมีหน่วยเหลือขาย 9,049 หน่วย เพิ่มขึ้น 17.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 แต่หน่วยที่ขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งแรกปี 2559 มีจำนวน 4,851 หน่วย ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ซึ่งขายได้ใหม่จำนวน 5,570 หน่วย ทำให้อัตราดูดซับโครงการอาคารชุดในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวลดลงจาก 7% ต่อเดือน ในปีก่อน เหลือ 5.8% ต่อเดือน และทำให้ระยะเวลาที่คาดว่าจะขายอุปทานหน่วยเหลือขายหมดเพิ่มขึ้นจาก 8 เดือน เป็น 11 เดือน
เมื่อพิจารณาเฉพาะช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มีอุปทานหน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้น 83% และมีหน่วยขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ลดลง 9% ทำให้อัตราดูดซับลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2558 จาก 5.3% ต่อเดือน ลดลงเหลือ 3.1% ต่อเดือน ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 มีโครงการเปิดใหม่ 3 โครงการ จำนวน 1,364 หน่วย มูลค่า 2,180 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากอุปทานหน่วยเหลือขายที่มีเป็นจำนวนมากในบางพื้นที่มีความเสี่ยงต่อภาวะล้นตลาด แต่โดยภาพรวมถือว่าคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังมีการพัฒนาและการซื้อขายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รถไฟฟ้ามา ราคาที่ดินพุ่ง
จากผลการสำรวจราคาที่ดินของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA ระหว่างปี 2558-2559 พบว่า ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวฝั่งใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ มีราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนี้
1. สถานีสำโรง ราคา 300,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 1.70%
2. สถานีปู่เจ้าสมิงพราย ราคา 250,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 4.20%
3. สถานีเอราวัณ ราคา 250,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 4.20%
4. สถานีโรงเรียนนายเรือ ราคา 250,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 4.20%
5. สถานีสมุทรปราการ ราคา 250,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 4.20%
6. สถานีศรีนครินทร์ ราคา 200,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 5.30%
7. สถานีแพรกษา ราคา 150,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 7.10%
8. สถานีสายลวด ราคา 120,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 9.10%
9. สถานีเคหะสมุทรปราการ ราคา 100,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 11.10%
จะเห็นได้ว่าสถานีสำโรงมีราคาเพิ่มขึ้นสูงมาก ปัจจุบันจึงอยู่ในภาวะชะงักงัน ส่วนสถานีปู่เจ้าสมิงพราย เอราวัณ โรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ และศรีนครินทร์ ราคาสูงขึ้นมากแล้วเช่นกัน ปัจจุบันราคาจึงยังคงทรงตัว สำหรับสถานีแพรกษา และสายลวด เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเติบโตสูงมากในอนาคต เช่นเดียวกับสถานีเคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย ก็มีโอกาสเติบโตสูงมากเช่นกัน
โดยสรุปแล้ว ตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวฝั่งใต้ ราคาที่ดินรอบสถานีเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 5.7% และคาดว่าในปี 2560 ราคาที่ดินอาจสูงขึ้นมากกว่านี้ เนื่องจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าใกล้แล้วเสร็จ
ราคาที่ดินแพง ผลักราคาคอนโดฯ ขึ้น
คอนโดมิเนียมตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสำคัญคือราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้น โดยช่วงหมอชิต-แบริ่ง ถือว่ามีราคาปรับขึ้นสูงสุด โดยมีราคาขายเฉลี่ย 145,000 บาท/ตารางเมตร โครงการที่มีราคาขายต่ำสุดอยู่ที่ 62,300 บาท/ตารางเมตร สูงสุด 488,000 บาท/ตารางเมตร ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มีราคาขายเฉลี่ย 67,700 บาท/ตารางเมตร ต่ำสุดอยู่ที่ 47,400 บาท/ตารางเมตร สูงสุด 106,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนช่วงหมอชิต-คูคต มีราคาขายเฉลี่ย 94,600 บาท/ตารางเมตร ต่ำสุดอยู่ที่ 42,000 บาท/ตารางเมตร สูงสุดอยู่ที่ 189,000 บาท/ตารางเมตร
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคาดว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ให้สูงขึ้น โดยผู้ที่ทำงานในกรุงเทพฯ เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่นี้เพิ่มมากขึ้นแทนที่การอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ชั้นกลาง-นอก ที่ราคาค่อนข้างสูง
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหา บ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
