ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะเห็นภาพของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคในประเทศไทยอย่างรวดเร็วและในหลายมิติ อาทิ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้จ่ายจากสินค้าจำเป็นมาสู่สินค้าไม่จำเป็น และใช้จ่ายในภาคบริการมากขึ้น รวมถึงเทรนด์การใช้จ่ายด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มเติบโต ซึ่งศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรืออีไอซี ได้ศึกษาและวิเคราะห์ผู้บริโภคในยุค 4.0 ในประเทศไทย ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจหลายด้าน ดังนี้
ไลฟ์สไตล์คนไทยไม่ชอบอยู่บ้านมากขึ้น
เมื่อเทียบกับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคราว 60-70% เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ไปทำกิจกรรมนอกบ้านบ่อยขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้ที่มีรายได้สูง และยังมีการใช้จ่ายนอกบ้านสูงขึ้นด้วย โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ คือ รับประทานอาหารและช้อปปิ้ง เนื่องจากต้องการการผ่อนคลายจากการทำงานหนัก มีเวลาน้อย และต้องการความสะดวกสบาย
คนมีรายได้สูงใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากขึ้น
ผู้บริโภคไทยมีการใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 7% ในระหว่างปี 2009-2015 โดยสัดส่วนของกลุ่มคนมีรายได้ปานกลางยังเพิ่มขึ้นจาก 9% เป็น 14% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของกลุ่มรายได้ปานกลางระดับล่าง (รายได้ต่อเดือน 15,001-30,000 บาท) ในขณะที่สัดส่วนกลุ่มคนมีรายได้น้อยลดลง บ่งบอกว่าผู้บริโภคไทยมีรายได้และกำลังซื้อสูงขึ้น อีกทั้งยังสะท้อนถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของกลุ่มชนชั้นกลางในประเทศ
กลุ่มคนมีรายได้สูงใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ส่วนตัว เมื่อมองในภาพรวมจะเห็นว่าในปี 2015 กลุ่มคนมีรายได้น้อย-ปานกลาง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่กลุ่มคนมีรายได้สูงมีการใช้จ่ายในหมวดสินค้าและบริการที่ไม่จำเป็นสูงขึ้นมากจากสัดส่วนราว 50% ในปี 2009 เป็น 56% ในปี 2015 โดยเฉพาะกลุ่มคนมีรายได้สูงในวัยทำงาน (อายุ 21-40 ปี) ซึ่งส่วนใหญ่ใช้จ่ายไปกับพาหนะส่วนตัว เช่น รถยนต์ และการบำรุงรักษา
ผู้บริโภคไทยสนใจสุขภาพมากขึ้น
ผู้บริโภคไทยมีแนวโน้มใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้นเมื่อมีรายได้สูงขึ้น ระหว่างปี 2009-2015 กลุ่มคนมีรายได้สูงใช้จ่ายในหมวดเวชภัณฑ์และการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นมากจาก 4% เป็น 17% โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ซึ่งใช้จ่ายในหมวดนี้เป็นสัดส่วนสูงถึง 20% ของรายจ่ายทั้งเดือน โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายสำหรับการตรวจสุขภาพและการใช้บริการทางการแพทย์แบบคนไข้นอก บ่งบอกว่าสุขภาพเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญและยอมจ่ายมากขึ้นเพื่อตรวจรักษาร่างกายให้อยู่ในสภาวะสมบูรณ์แข็งแรง
ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าราคา
ผู้บริโภคกว่า 90% ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นหากได้สินค้าที่มีคุณภาพสูง ขณะที่ 80% ต้องการสินค้าที่สามารถปรับแต่งตามความต้องการได้ (personalization) สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในลักษณะที่ช่างเลือกและให้ความสำคัญกับตัวสินค้ามากขึ้น ซึ่งจะต่างจากในอดีตที่สนใจแต่ราคาเป็นหลักเพียงอย่างเดียว
แหล่งจับจ่ายต้องตอบโจทย์มากกว่าเดิม
ศูนย์การค้าต้องเป็นมากกว่า one-stop shopping โดยจากผลสำรวจพบว่า วัตถุประสงค์หลักของการเข้าไปใช้บริการศูนย์การค้านอกจากเพื่อซื้อสินค้าถึงราว 80% แล้ว ผู้บริโภคยังไปเพื่อใช้บริการด้านอื่นๆ อาทิ ร้านอาหาร ธนาคาร และบริการโทรศัพท์มือถือ ส่วนรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์อาจยังไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยมากนัก พบว่า 52% ของผู้บริโภคแทบไม่ได้ไปใช้บริการคอมมูนิตี้มอลล์เลย เนื่องจากอาจยังไม่ตอบโจทย์ one-stop shopping และผู้บริโภคไทยนิยมไปใช้บริการศูนย์การค้าแบบปิดที่มีเครื่องปรับอากาศมากกว่า
ส่วนร้านสะดวกซื้อครองใจผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการความสะดวกรวดเร็ว โดยผู้บริโภคถึงราว 65% มีการซื้อของจากร้านสะดวกซื้อมากกว่า 4 ครั้งต่อเดือน นอกจากนี้ ผู้บริโภคที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปราวครึ่งหนึ่งชอบซื้อสินค้าจำนวนน้อยแต่ไปบ่อยๆ ซึ่งร้านสะดวกซื้อตอบโจทย์เป็นอย่างมาก
ผู้บริโภคไทยกล้าช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น
มูลค่าตลาด e-Commerce ในไทยเติบโตราว 13% ต่อปี ในช่วงปี 2014-2016 และมีมูลค่าตลาดราว 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 1-2% ของมูลค่าค้าปลีกรวม ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า 85% ของผู้บริโภคเคยซื้อสินค้าผ่านช่องทาง e-Commerce โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี มีสัดส่วนสูงถึงราว 90% ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนสูงถึงราว 42% โดยสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับความนิยมสูงสุดบนช่องทางออนไลน์ จากผลสำรวจพบว่ากลุ่มผู้หญิงกว่าครึ่งนิยมซื้อสินค้าแฟชั่นอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวมถึงสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ในขณะที่ผู้ชายนิยมซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแฟชั่น
แม้ผู้บริโภคไทยกล้าซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นแต่ยังคงซื้อไม่บ่อยนัก โดยผู้บริโภคกว่า 69% ยังคงใช้ร้านค้าเป็นช่องทางหลักในการซื้อสินค้า โดยเฉพาะสินค้าบางประเภท เช่น เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ที่ผู้บริโภคนิยมซื้อจากที่ร้าน เนื่องจากผู้บริโภคต้องการไปเห็นสินค้าจริงจากที่ร้านมากกว่า รวมถึงสินค้าที่มีราคาสูง อย่าง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแบรนด์เนม และเครื่องประดับ
จากทิศทางของผู้บริโภคยุค 4.0 ซึ่งผู้ประกอบการกลายเป็นผู้ถูกเลือก จึงเป็นภารกิจใหญ่ที่ผู้ประกอบการทั้งหลายต้องตามให้ทัน และแน่นอนว่าจากการพัฒนาดังกล่าวผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์มากขึ้นอย่างแน่นอน
ภาพประกอบ : via Pixabay.com
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน