[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] เวลานี้คงไม่มีใครปฏิเสธแล้วว่าเรากำลังอยู่ในยุค Digital life ที่สื่อดิจิทัลทุกรูปแบบมีผลกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้สมาร์ทโฟนในการท่องโลกออนไลน์ และเข้าสู่สังคมออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นภาพที่เห็นชัดเจนที่สุด ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ไปกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่เรารัก เราจะเห็นว่า คนยุค Digital life ใช้สมาร์ทโฟนในกับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว อาหารการกิน ที่เราสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยให้เรา “ค้นหา” ประเภทร้านอาหารที่อยากกิน ร้านอาหารที่อยากเข้าไปลิ้มลองรสชาติ ใน Search Engine อย่าง กูเกิ้ล หรือ บิง เราก็สามารถหาสิ่งที่เราอยากรับประทานได้ง่ายๆ เพียงแค่คลิก แล้วก็ยังสามารถคลิกให้แนะนำการเดินทางไปยังร้านเหล่านั้นได้ด้วย รวมถึง ปัจจุบันยังมีผู้ใช้บริการรับส่งอาหารด้วยการสั่งการผ่านแอพพลิเคชั่น ทำให้ไม่ว่าเราจะอยู่อาศัยมุมไหนของกรุงเทพฯ เพียงแค่คลิกเลือกร้านอาหาร รายการอาหาร หรือแจ้งสิ่งที่เราอยากกิน อยากลองรสชาติ แต่ไม่มีเวลาไปที่ร้านนั้นๆ เราก็สามารถสั่งอาหารทุกรูปแบบไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นร้านดังผ่านสมาร์ทโฟนได้
ช้อปปิ้งในยุค Digital Life ก็ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเราสามารถค้นหาสิ่งที่เราอยากได้ โปรโมชั่น เซลล์ทุกรายการของทุกห้างสรรพสินค้าได้บนโลกออนไลน์ จะซื้อผ่านออนไลน์เลย หรือจะไปช้อปของจริงที่ร้าน ก็สามารถทำได้ตามไลฟ์สไตล์ของเรา หรือเราสามารถใช้แอพพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสินค้าต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ก็จะยิ่งทำให้เราได้สินค้าในราคาที่เราประเมินแล้วว่าคุ้มค่าที่สุด รวมถึง การช้อปปิ้งออนไลน์ ก็สะดวกทั้งการสั่งซื้อสินค้า การจ่ายเงิน ซึ่งปัจจุบันมีหลายผู้บริการขายสินค้าออนไลน์ที่มีระบบการจ่ายเงินที่ทำให้ลูกค้าวางใจได้ว่าจะไม่ถูกโกง สั่งไปแล้วไม่ได้สินค้า หรือได้ไม่ตรงตามต้องการ ก็สามารถแจ้งกับผู้ให้บริการได้ ถ้าพอใจในสินค้านั้น เงินที่โอนไปแล้วก็ส่งไปยังร้านค้า หรือถ้าไม่พอใจ เงินก็จะส่งกลับคืนมายังเรา
การเดินทาง และการท่องเที่ยวในยุค Digital Life นี่ต้องเรียกว่า เป็นที่สุดแห่งการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะคนยุค Digital Life สามารถไปไหนในโลกนี้ได้ ถ้าเรามีสมาร์ทโฟนและมีระบบเข้าสู่อินเทอร์เน็ต เราสามารถดูข้อมูลการเดินทาง การท่องเที่ยว ผ่านโลกออนไลน์ ทำให้สามารถวางแผนการท่องเที่ยว ควบคุมงบประมาณได้เป็นอย่างดี รวมถึง การใช้แอพพลิเคชั่น Map ต่างๆ ก็ทำให้การเดินทางไปยังทุกพื้นที่ที่สัญญาณเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ด้านการอยู่อาศัย เทคโนโลยีก็เข้ามามีบทบาทมาต่อเนื่องเช่นกัน เริ่มจากการหาข้อมูลที่อยู่อาศัยที่เราต้องการทั้งการเช่า การซื้อได้จากโลกออนไลน์ ทำเลไหนดี ทำเลไหนมีอะไร มีทุกคำตอบ จนมาถึงการเลือกตัวโครงการ การเปรียบเทียบตำแหน่งที่ตั้งของทำเล ฟังก์ชั่นห้อง ภาพรวมโครงการ และเปรียบเทียบราคา อัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ ทำให้คนยุค Digital Life หาที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และเงินในกระเป๋าของเรา รวมถึง หาโครงการที่เราประเมินแล้วว่าน่าลงทุนได้ไม่ยากด้วยเช่นกัน จนเมื่อได้เข้าไปอยู่อาศัยแล้ว เราก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านของเราได้ เช่น ติดประตูอัตโนมัติ สั่งให้เปิดแอร์ไว้ล่วงหน้า ตู้เย็น เตาไมโครเวฟ ฯลฯ
จะเห็นว่าคนยุค Digital Life ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์กับการใช้ชีวิตทุกรูปแบบได้ดี โครงการที่อยู่อาศัยยุคใหม่จึงต้องมีการพัฒนาระบบ Internet ให้พร้อม ยิ่งถ้ามี WIFI ในพื้นที่ส่วนกลางได้ ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น หรือถ้าให้ดี ก็เป็น Free Wifi เลยจะยิ่งเติมเต็มชีวิตของคนยุค Digital Life ได้มากขึ้น เพราะไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนของคอนโดมิเนียม เราก็เชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้รวดเร็ว
แต่ก่อนเราจะมีชีวิต Digital Life เต็มรูปแบบได้ ก็ต้องเริ่มจากการใช้สื่อออนไลน์ค้นหาทำเลที่อยู่อาศัยที่สอคคล้องกับไลฟ์สไตล์ของเรา เพราะทำเลก็ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ ในการเลือกที่อยู่อาศัยทั้งเพื่ออยู่เองและเพื่อลงทุน โดยปัจจุบันโซนบางนาตอนกลาง ช่วงประมาณ อาณาจักร Megacity Bangna หรือโซนเมกาบางนา ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางของบริเวณบางนา ที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่า แม้จะไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้า แต่ก็เป็นทำเลที่เติบโตและได้รับความนิยมไม่แพ้คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าเลย
ทำเล Megacity Bangna หรือย่านเมกาบางนา มีดีอย่างไร ก่อนอื่นคงต้องย้อนไปก่อนที่จะเกิดเมกาบางนา ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้า การบริการ และความบันเทิงขนาดใหญ่ โซนบางนาตอนกลางเติบโตด้วยแหล่งงานในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น มีอาคารสำนักงาน ใกล้โรงงาน ใกล้สถานศึกษาชื่อดัง เช่น มหาวิทยาลัยคำแหง กองงานวิทยาเขตบางนา หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ราม 2 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งล้วนแต่เป็นแม่เหล็กที่ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้พื้นที่เรียน พื้นที่ทำงานเหล่านี้ เช่น กลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสายการบิน, พนักงานของเมกาบางนา
แต่ความต้องการดังกล่าวก็จะกระจายไปยังพื้นที่ที่ใกล้กับแหล่งงานแต่ละแห่ง ยังไม่มีจุดศูนย์กลางที่บูมทำโซนบางนาตอนกลางให้ชัดเจน จนเริ่มมีอิเกีย ศูนย์เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่บนพื้นที่โครงการเมกาบางนา และโซนเมกาบางนาเองที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว ประกอบกับการคาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการได้ถึง 250,000 คนต่อวันก็ทำให้โซนเมกาบางนา ซึ่งจัดเป็นบางนาตอนกลาง โดดเด่นขึ้นและกลายเป็น Megacity Bangna ในปัจจุบัน และอาจกล่าวได้ว่าบริเวณนี้ถือเป็น “Hub” ของโซนบางนาตอนกลางและตอนปลาย
ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้พื้นที่บริเวณนี้ เริ่มมีคอนโดมิเนียมเกิดมากขึ้น และตลาดเช่าย่านนี้ก็ถูกจับตามองจากนักลงทุนมากขึ้นเช่นกัน เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดตามการเกิดของแหล่งงานขนาดใหญ่ โดยหากวิเคราะห์ตลาดคอนโดมิเนียมใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ จะเห็นว่า ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งคนทำงานและคนที่ต้องการอยู่อาศัยใกล้ห้างดัง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมีมากขึ้น ทำให้พื้นที่รอบศูนย์การค้าเกิดใหม่หลายแห่ง ถูกจับจองโดยผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมมาปักธงพร้อมรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่อาศัยเองและกลุ่มลูกค้านักลงทุน
จากการสำรวจอัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมโซนบางนาตอนปลาย พบว่า มีโอกาสในการได้รับอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณปีละ 6-7%* ซึ่งถือว่าสูงกว่าอัตราค่าเช่าของสุขุมวิทตอนปลาย จากการที่ต้นทุนห้องชุดยังไม่สูงมาก แต่ความต้องการเช่ามีสูงจากการเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ อีกทั้งในอนาคตมีแนวโน้มที่จะมีอาคารสำนักงานอีกหลายอาคารเกิดขึ้นบริเวณนี้ จึงทำให้แนวโน้มความต้องการเช่าจะมีเพิ่มขึ้น ส่วนแคปิตอล เกน (Capital Gain) หรือกำไรจากราคาที่เพิ่มขึ้นของทรัพย์สิน ในโซนบางนาตอนกลางมี แคปิตอล เกน (Capital Gain) ประมาณปีละ 5-10%**

* อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ ขึ้นอยู่กับต้นทุนห้องชุด และอัตราค่าเช่าที่ได้รับ
** ขึ้นกับลักษณะห้อง ราคาต้นทุน ตำแหน่งที่ตั้ง และซัพพลายในย่านนั้นๆ
นอกจากนี้ การเดินทางในย่านบางนาก็สะดวกมาก ทั้งเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและเข้าเมือง ด้วยถนนบางนา-ตราด เป็นถนนขนาดใหญ่ ใกล้ทางด่วนที่ทำให้เข้าเมืองได้ไม่ยาก โดยการเดินทางเข้าเมืองด้วยรถยนต์ของคนที่อยู่อาศัยย่านนี้จะนิยมใช้รถส่วนบุคคลวิ่งเส้นบางนา-ตราด ต่อเข้าทางพิเศษบูรพาวิถี แล้วเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ไปทางพระราม 9 รัชดาภิเษก หรือหากจะเป็นโซนสีลม สาทร สยาม จากทางพิเศษบูรพาวิถี ก็จะเชื่อมต่อเข้าทางพิเศษเฉลิมมหานคร หรือการเดินทางไปยังพื้นที่ในเมืองก็สะดวกทั้งทางด่วนเส้นทางที่ให้บริการแล้วในปัจจุบัน และในอนาคตยังจะมีทางด่วนเส้นทางใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงถึงกันที่จะยิ่งทำให้ย่านนี้เดินทางสะดวกมากขึ้น
ในอนาคต ภาครัฐยังมีแผนที่จะขยายเส้นทางด่วน หรือทางพิเศษเพิ่มขึ้นในโซนนี้อีก เนื่องจากโซนบางนา เป็นเส้นเชื่อมต่อออกไปยังภาคตะวันออกของกรุงเทพฯ เป็นเส้นทางขนส่งสายสำคัญของนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง การเดินทางจึงถือว่าสะดวกมาก
ขณะที่การเดินทางไปต่อรถไฟฟ้าเส้นทางปัจจุบันก็ไม่ยากเช่นกัน โดยคนย่านนี้มีทางเลือกในการไปเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท (BTS) ได้หลายสถานี ทั้งการวิ่งถนนสายหลัก บางนา-ตราด หรือจะเข้าตามตรอกซอกซอยที่เชื่อมต่อกับถนนรอง เป็นทางลัดไปยังสถานีรถไฟฟ้า เช่น สถานีแบริ่ง สถานีบางนา และสถานีอุดมสุข รวมถึง ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าเส้นทางส่วนต่อขยายที่เข้าสู่เส้นบางนา รถไฟฟ้าไลท์เรล สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายจากเส้นทางปัจจุบัน (ตามแผนงานของกรุงเทพมหานครและ จะต่อจากรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข) ที่ทำให้คนอยู่อาศัยย่านบางนาเดินทางเข้าเมืองสะดวกมากขึ้น
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ที่เปิดตัวในย่านบางนาตอนกลาง ถือว่ายังมีไม่มาก โดยล่าสุด โครงการ A Space Mega จากผู้พัฒนาโครงการชื่อดังอย่าง Areeya กำลังจะเกิดขึ้นบนทำเลศักยภาพแห่งนี้ โดยจะเป็นโครงการแห่งแรกใน Megacity Bangna ที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตติดเมกาบางนา เพราะอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงชั้นนำ ทำให้วันหยุดเสาร์อาทิตย์สามารถมีไลฟ์สไตล์ที่ครบสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องเข้าเมือง หรือจะใช้ความเป็น Digital life ให้เป็นประโยชน์ด้วยการช้อปปิ้งออนไลน์ สั่งอาหารจากทั่วทุกสารทิศที่เราอยากกินผ่านแอพพลิเคชั่นเดลิเวอร์รี่ต่างๆ หรือจะวางแผนท่องเที่ยวก็เดินทางไปยังสนามบินได้สะดวก
นอกจากจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งแล้ว A Space Mega ยังตอบสนองชีวิตในยุค Digital life หรือไลฟ์สไตล์ 4.0 ด้วยการเป็นแห่งแรกที่มี Co working space 24 ชั่วโมง, Co storage space ซึ่งมีให้เลือกทั้งขนาด S, M, L และ XL เพื่อใช้เก็บของเพิ่มเติม , จัดเต็ม Free Internet 1,000 MB ในคอนโดมิเนียม ซึ่งถือว่ามีความเร็วสูงมากที่สุดของไทย และมีปลั๊ก USB ที่ชาร์ตอุปกรณ์อิเลกทรอนิคได้โดยไม่ต้องพึ่ง Adapter ตอบโจทย์ความต้องการคนยุคใหม่ที่ชอบท่องโลกออนไลน์ต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มผู้อาศัยที่เป็นสตาร์ทอัพ
ด้านการเลือกใช้วัสดุ โครงการ A Space Mega เน้นใช้วัสดุที่มีสเปคสูง เป็นที่ยอมรับของคนในแวดวงการออกแบบเป็นอย่างดี รวมถึง เฟอร์นิเจอร์ที่เน้นการออกแบบที่เด่นทั้งเรื่องดีไซน์และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค, LED Light ทั้งอาคาร โดย LED Light เป็นหลอดไฟที่ให้ความสว่างสูง แต่ประหยัดพลังงานที่สุดถึง 80% อายุการใช้งานที่ยาวกว่าหลอดไฟธรรมดา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าหลอดไฟธรรมดา แต่ต้องยอมรับว่า ราคาของ LED Light สูงกว่าหลอดไฟทั่วไป ซึ่งถือว่ามีความแตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมอื่นที่จะใช้หลอดไฟทั่วไป แต่ A Space Mega เข้าใจไลฟ์สไตล์ 4.0 ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานเต็มประสิทธิภาพ และยังให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมายที่รอให้คุณเข้าไปสัมผัส ในราคาเบาๆ เพียงล้านกว่าบาท แต่ได้ครบทุกอย่างทำให้สามารถใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์แบบจับต้องได้ไม่แพ้คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์เจ้าอื่น ตอบโจทย์คนยุค Digital Life ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยย่านนี้ หรือกำลังมองหาคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า หรือจะขายต่อ ก็มีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนที่ดีและได้แคปิตอลเกนที่น่าสนใจจากต้นทุนห้องชุดที่ไม่สูงมาก อีกทั้งทาง Areeya เองยังได้นำโครงการดังกล่าวไปทำตลาดในต่างแดน ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญในเอเชียอย่าง จีน สิงค์โปร์ ฮ่องกง ไต้หวันและมาเลเซีย ด้วย จึงนับเป็นหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมที่มาแรง ตอบโจทย์ A complete lifestyle hub และน่าสนใจมากของปี 2017

ส่วนของฟิตเนสที่มีเครื่องออกกำลังกายครบครันและเสริมด้วย Boxing Cornor ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนุ่มสาวยุคใหม่หันมาให้ความสนใจในกีฬานี้มากขึ้น
คลิกลงทะเบียนได้ที่ https://goo.gl/oMpzAf โทร.1797
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน