แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ตลาดก็มีความผันผวนจากความอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจของผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายต้องหาทางออกเพื่อให้บริษัทมีความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืนกว่าที่หวังพึ่งเฉพาะธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเพียงอย่างเดียว โดยมีทั้งแตกไลน์ไปสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่หลายบริษัทเลือกมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก
ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มดีอย่างไร
สาเหตุที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนหนึ่งเลือกแตกไลน์มาจับธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากต้องการกระจายความเสี่ยง นอกจากนี้ยังเป็นธุรกิจที่ไม่เกิดโอเวอร์ซัพพลายเหมือนกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รับรู้รายได้เร็ว ต่อเนื่อง เปิดสาขา และคืนทุนได้เร็ว ซึ่งธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มแต่ละปีมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นสินค้าที่ทุกคนต้องบริโภค
ผู้ประกอบการจับแบรนด์รุกตลาดไทย-เทศ
ตัวอย่างผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่หันมาจับธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มได้แก่
บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นบริษัทแรก ๆ ที่จับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเมื่อ 7 ปีก่อน โดยได้ซื้อแบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้า ร้านอาหารและกาแฟจากนิวยอร์ก ก่อนเริ่มสร้างแบรนด์ให้เป็นรู้จักด้วยการเปิดสาขาตามย่านธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน โดยวางเป้าหมายเปิดดีน แอนด์ เดลูก้า 300 สาขา ในปี 2562 ตั้งเป้ารายได้จะมาจากเปอร์เซ็นต์ยอดขายของแฟรนไชส์ดีน แอนด์ เดลูก้า ซึ่งจะกลายเป็นอีกรายได้หลักสำคัญของบริษัท
ส่วน บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ที่แต่เดิมจับธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์มาตั้งแต่ปี 2557 ก่อนขยับขยายมาสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และหันมาบริหารกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่ม คาซ่า ลาแปง ที่ปัจจุบันมีอยู่ 8 สาขา โดยมีแผนจะขยายร้านอาหารคาซ่า ลาแปง ทั้งรูปแบบลงทุนเอง และขายแฟรนไชส์ ซึ่งในระยะยาวจะสร้างโอกาสเติบโตได้ทั้งในและต่างประเทศ และสร้างรายได้ให้ในสัดส่วน 10% ในอีก 3 ปีข้างหน้า

บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ล่าสุดขยับตัวครั้งใหญ่จับมือกับบ้านหญิง กรุ๊ป ร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงมากว่า 20 ปี
ขณะที่ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ล่าสุดขยับตัวครั้งใหญ่จับมือกับบ้านหญิง กรุ๊ป ร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงมากว่า 20 ปี เข้าสู่ตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อนำอาหารไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยในปีนี้จะเริ่มที่สิงคโปร์ ในอาคาร รอยัล สแควร์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตคอมเพล็กซ์เพื่อสุขภาพของโนวีน่า เฮล ซีตี้ ในไตรมาส 1 จะมีร้านดิงค์ ดิงค์ (Dink Dink) ร้านอาหารขนาด 68 ที่นั่ง อาหารไทยในบรรยากาศสบาย ๆ เน้นความสะดวก รวดเร็ว และมีเมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง และเครื่องดื่มไทยโบราณ สำหรับรับประทานทั้งภายในและภายนอก และร้านบ้านหญิง ขนาด 126 ที่นั่ง ร้านอาหารไทยในสไตล์ไทยร่วมสมัย ส่วนร้านที่ 3 ภายใต้คอนเซ็ปต์สไตล์ ฮ็อต พ็อท (Hot Pot) ไทย-อีสาน ที่มีรสชาติจัดจ้าน คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดให้บริการร้านอาหารทะเลระดับพรีเมียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ด้วย
รวมประกาศคอนโดมิเนียม โครงการเด่นของ ไรมอนด์ แลนด์ ที่นี่
ทั้งนี้ ไรมอน แลนด์ มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีน อาทิ กัวลาลัมเปอร์ พนมเปญ ฮานอย โฮจิมินห์ เซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว โดยจะเปิดร้านอาหารรวม 10-15 สาขา ภายในปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท ในปี 2561 และเติบโตไปเป็น 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตามจากการแตกไลน์สู่ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นอกจากจะเป็นการนำแบรนด์ไทยออกไปสร้างชื่อยังต่างประเทศแล้ว ยังเป็นการนำแบรนด์ต่างประเทศเข้ามาเสิร์ฟถึงมือผู้บริโภค และเป็นการเพิ่มการลงทุนให้ร้านอาหารและเครื่องดื่มให้สามารถขยายสาขามากขึ้นทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ในโซนรถไฟฟ้าสายอนาคต ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน