จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในรอบ 6 ปี (ปี 2555-2560) พบว่า ที่ดินเปล่าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ณ ไตรมาส 4 ปี 2560 ราคาที่ดินเปล่ามีค่าดัชนีเท่ากับ 165.6 จุด เพิ่มขึ้นถึง 65.6% เมื่อเทียบกับปี 2555 และเพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบกับปี 2559 ดัชนีปรับเพิ่มมากที่สุด 14.9% ในปี 2556 และปรับขึ้นน้อยที่สุด 4.6% ในปี 2559 โดยมี 5 ทำเลทองแนวรถไฟฟ้า 5 เส้นทางที่มีราคาขึ้นเฉลี่ยปีละ 24-29%
ผังเมือง-รถไฟฟ้า ดันราคาที่ดิน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาที่ดินเปล่ามีด้วยกัน 2 ปัจจัยหลัก คือ
1. ผังเมือง หากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับผังเมืองที่มีข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินจะมีผลต่อราคาที่ดินเปล่าปรับเพิ่มขึ้น 22.8%
2. แนวเส้นทางรถไฟฟ้า ภาพรวมการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่มีผลกระทบต่อการปรับราคาที่ดินเปล่า ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ การก่อสร้าง ตลอดจนการเปิดให้บริการ โดยมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 24.6%
5 เส้นทางรถไฟฟ้า ราคาที่ดินพุ่งสูงสุดปีละ 29%
ราคาที่ดินเปล่าแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่มีราคาขึ้นมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. แนวเส้นทางรถไฟฟ้า MRT เพิ่มสูงสุดเฉลี่ยปีละ 29%
2. รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางซื่อ–หัวลำโพง เพิ่มเฉลี่ยปีละ 28.2%
3. รถไฟฟ้าสายสีทอง กรุงธนบุรี-ประชาธิปก เพิ่มเฉลี่ยปีละ 24.8%
4.รถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพิ่มเฉลี่ยปีละ 24.1%
ราคาที่ดินโซนรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพิ่มเฉลี่ยปีละ 24.1%
จับตาทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียว
แนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ถือเป็นทำเลที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มที่จะมีการแข่งขันสูง และราคาคอนโดมิเนียมปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมในรัศมี 500 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าถึง 25 โครงการ จำนวน 10,800 หน่วย มูลค่ารวม 58,000 ล้านบาท ราคาประมาณ 50,000-180,000 บาท/ตารางเมตร เฉลี่ยอยู่ที่ 93,000 บาท/ตารางเมตร โดยมีอัตราขายเฉลี่ยอยู่ที่ 7% ซึ่งสูงกว่าอัตราการขายเฉลี่ยของตลาดรวมทำเลรถไฟฟ้าสายอื่นที่อยู่ที่ 4-5% ทั้งนี้ บริเวณสถานีที่น่าจับตามองคือ เกษตร หลักสี่ สะพานใหม่
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ซัพพลายที่อยู่อาศัยในปี 2561 ทั่วประเทศ จะมีประมาณ 276,100 หน่วย แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 154,200 หน่วย (55.8%) และคอนโดมิเนียม 121,900 หน่วย (44.2%) ในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่า จะมีโครงการแนวราบประมาณ 74,300 หน่วย และคอนโดมิเนียม 79,900 หน่วย ต่างจังหวัดแนวราบ 79,900 หน่วย คอนโดมิเนียม 42,000 หน่วย ภาพรวมมูลค่าโครงการจะเติบโตประมาณ 10-15% จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
