กนง. ปรับดอกเบี้ยเป็น 1.75% เพิ่มครั้งแรกในรอบ 7 ปี กระทบสินเชื่อบ้าน?

25 ธ.ค. 2561

กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% คาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งปีโต 3.8%

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.75% จาก 1.50% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เนื่องจากความจำเป็นในการพึ่งพานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับที่ผ่านมาลดน้อยลง ด้วยเหตุผล 2 ประการใหญ่ ๆ คือ ลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน และสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินสำหรับอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ทั้งฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภค โดยเฉพาะทางอัตราดอกเบี้ย แต่ในแง่มุมไหนบ้างลองมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

กนง. ประเมินเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัว

กนง. ประมินว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องจากแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศที่ยังขยายตัว ทั้งจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวตามรายได้นอกภาคเกษตร และการลงทุนเอกชนที่ขยายตัวจากการย้ายฐานการผลิตมายังไทย โดยได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2561 และ 2562 จาก 4.4% และ 4.2% มาอยู่ที่ 4.2% และ 4.0% ตามลำดับ

แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้น 0.25% ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางแก่เสถียรภาพระบบการเงินได้ในอนาคต ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลาย สภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ภาคเอกชนสามารถระดมทุนได้ต่อเนื่อง โดยสินเชื่อขยายตัวทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่ออุปโภคบริโภค แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางให้เสถียรภาพระบบการเงินได้ในอนาคต โดยเฉพาะพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งอาจน่าไปสู่การประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร

ภาคธนาคารคาด กนง. ปรับดอกเบี้ยเพิ่มอีกรอบ

ด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า กนง. น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในปีหน้า และอย่างเร็วในที่สุด คือ ในรอบการประชุมเดือนมีนาคม 2562 เนื่องจาก กนง. น่าจะรอประเมินผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะยังคงขยายตัวต่อไปได้ต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2562 จะสามารถอยู่ในกรอบเป้าหมายได้ นอกจากนี้ คุณภาพสินเชื่อเพื่อการบริโภค และสินเชื่อ SME ที่มีแนวโน้มแย่ลงในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ กนง. ต้องรอประเมินหลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้น วัฏจักรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้จึงเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ส่วนศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ ไม่น่าจะส่งผลต่อภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 อย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางระดับสภาพคล่องในตลาดการเงินไทยที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่มองว่า กนง. น่าจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระยะข้างหน้าอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้คงเป็นไปในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินคงจะประเมินความพร้อมของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ประกอบกับมาตรการดูแลเสถียรภาพโดยรวมของระบบเศรษฐกิจ (Macro Prudential) ที่จะมีผลบังคับใช้ในช่วงไตรมาส 2/2562 คงช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจได้บางส่วน ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจยังมีความเหมาะสม

Mortgage interest

ธปท. คาดไม่กระทบสินเชื่อบ้าน

ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวเป็นการดูแลเสถียรภาพการเงินเป็นหลัก วัฏจักรดอกเบี้ยที่ผ่านมา กนง. มีการปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่สภาพคล่องตึงตัว ธนาคารจึงปรับขึ้นดอกเบี้ยตามทันที แต่ปัจจุบันสถานการณ์ต่างกัน ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ สภาพคล่องสูง และ กนง. ไม่ได้ปรับดอกเบี้ยมา 7 ปีแล้ว การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. จะไม่ส่งผลทันทีทันใด จะเห็นตลาดการเงินค่อย ๆ ปรับตาม ดังนั้น อัตราเงินกู้ธนาคารไม่ควรขยับ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่ให้กู้กับรายย่อย ทั้ง MLR, MRR, MOR แต่อาจจะกระทบสินเชื่อรายใหญ่ก่อน ส่วนความกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือนหากธนาคารมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นในอนาคตนั้น สินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ เช่น สินเชื่อบ้าน คงที่ในช่วง 3 ปีแรก สินเชื่อบัตรเครดิตมีอัตราเพดานดอกเบี้ย 18% ดังนั้น หากดอกเบี้ยขึ้นจะไม่เป็นการเพิ่มภาระการผ่อนหนี้ของภาคครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายฝ่ายมองว่า กนง. ไม่ควรปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพราะจะมีผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ และต่ำที่สุดในอาเซียนมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งรายได้ของประเทศที่เพิ่มขึ้นยังไปกระจุกกับคนบางกลุ่มเท่านั้น การขึ้นดอกเบี้ยจะกระทบต่อหนี้ภาคครัวเรือนของไทยที่ยังอยู่ในระดับสูง และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้เงินบาทแข็งค่าทันที และมีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกในภาวะสงครามการค้าอย่างในปัจจุบัน >>แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2562

ผลกระทบนี้จะส่งแรงกระเพื่อมไปไกลแค่ไหนคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด และคงเห็นผลอีกครั้งในการประชุมของ กนง. ครั้งต่อไปในช่วงเดือนมีนาคม 2562

เพิ่มเติมความรู้ คู่มือซื้อ ขาย เช่าบ้าน-คอนโดฯ พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ และสามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

DDproperty เผยเทรนด์อสังหาฯ ที่น่าจับตา พร้อมวิเคราะห์การเติบโตของตลาดอสังหาฯ ปี 62

DDproperty เผยเทรนด์ปีหน้าผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลมองหาที่อยู่อาศัยมากขึ้

อ่านต่อ13 ธ.ค. 2561