การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ ในยุค 4.0 ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อเทรนด์การสร้างบ้านในปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งจากสภาพภูมิอากาศ รวมถึงโครงสร้างประชากรศาสตร์ของประเทศไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)
คนอยากมีบ้านอายุน้อยลง
จากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านพบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ที่ต้องการมีบ้านได้เปลี่ยนจากกลุ่มที่มีอายุ 45-60 ปี เป็นกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 40 ปีมากขึ้น นอกจากนี้ในปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรสูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากที่สุดในอาเซียน โดยคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้น การสร้างบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ จึงต้องออกแบบและปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก
4 เทรนด์หลัก เน้นรักษ์โลก-ผู้สูงอายุ-บ้านอัจฉริยะ
แบบบ้านที่ได้รับความสนใจในปี 2561 มี 4 เทรนด์หลัก ได้แก่
1. Eco Friendly แบบบ้านประหยัดพลังงานและรักษ์โลก เป็นบ้านที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าโดยไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม บ้านลักษณะนี้ถูกออกแบบให้โปร่ง โล่ง สบายเพื่อรับลมและความเย็นจากธรรมชาติ และป้องกันความร้อนที่สะสมในบ้าน โดยทั่วไปการออกแบบบ้านลักษณะนี้จะเน้นวิถีทางธรรมชาติ ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยี โดยอาจติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน หรือติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเก็บเป็นพลังงานทดแทน
2. Cluster บ้าน 3 เจนเนอเรชั่น แบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นปู่ย่า ตายาย อาศัยอยู่ร่วมกันกับบ้านลูก บ้านหลาน ในพื้นที่เดียวกันหรือหลังเดียวกัน โดยมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน และใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์กันอย่างอบอุ่น เป็นบ้านผู้สูงอายุที่ไม่โดดเดี่ยว
3. บ้านแบบครอบครัวขยาย Multi Family หรือบ้านหลายหลังในพื้นที่เดียวกัน แบบบ้านที่มีลักษณะอยู่อาศัยแบบหลายครอบครัว ซึ่งขยายพื้นที่ใช้สอยออกไปได้ทั้งแนวสูงหรือแนวกว้างแล้วแต่ขนาดของที่ดิน แยกเป็นบ้านของพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว หรือพี่น้อง ที่ตัดสินใจสร้างบ้านพักอาศัยอยู่บนพื้นที่เดียวกันแต่ยังคงความเป็นส่วนตัว รวมทั้งมีส่วนบริการ สันทนาการร่วมกัน เช่น สระว่ายน้ำ ห้องรับประทาน ฟิตเนส หรือสวนของบ้าน
4. Innovative Living บ้านอัจฉริยะ แบบบ้านที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย โดยคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บ้านที่สร้างใหม่ทุกหลังจะเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง เช่น ระบบการสั่งการด้วยเสียง หรือระบบสั่งการด้วยการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Gesture Control) ในการเปิด-ปิดไฟฟ้า ผ้าม่าน และเครื่องปรับอากาศ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2561 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 5% หรือมีมูลค่าตลาดรวม 11,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคให้กล้าใช้จ่ายเงินก้อนใหญ่ในการปลูกสร้างบ้านมากขึ้น
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook
อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน