ไฮไลท์…
– เผยผลสำรวจคนไทย 73% เลือกชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์
– สังคมไร้เงินสดบุกตลาดอสังหาฯ สามารถจองทำสัญญาบ้าน-คอนโดฯ ผ่าน QR Code
– ปัจจุบันขอสินเชื่อบ้าน สามารถทำได้ผ่านระบบ Internet Banking และการสแกน QR Code
[สกู๊ปพิเศษ] ความพยายามที่จะผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็น Thailand 4.0 อันใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ จึงทำให้เกิดนโยบายการสร้างสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) และส่งผลให้เกิดความตื่นตัวทุกภาคธุรกิจในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต่างน้อมรับนโยบาย พร้อมสร้างเมืองไร้เงินสดให้เกิดขึ้นจริง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ผลตอบรับกระแสสังคมไร้เงินสดในไทย
กระแสสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society ในประเทศไทย ดูเหมือนจะเห็นผลการตอบรับการตื่นตัวของคนไทยตั้งแต่ช่วงปี 2559 โดยจากผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค พบว่าคนไทย 73% ชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งการชำระเงินผ่านบัตร หรือแอปพลิเคชันต่างๆ บนสมาร์ทโฟน มากกว่าการชำระผ่านเงินสด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมเลี่ยงการใช้เศษเหรียญและธนบัตรอย่างจริงจัง
ต่อมาในช่วงปลายปี 60 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ยกระดับสังคมไร้เงินสดอีกขั้น ด้วยการร่วมกับผู้ให้บริการบัตรต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการทางการเงินในไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ไทย สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมมือใช้มาตรฐาน QR Code เพื่อชำระเงิน ส่งผลให้ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้าขนาดใหญ่ ไปจนถึง Street Food ข้างทาง รวมไปถึงระบบขนส่งต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งวินมอเตอร์ไซด์ ต่างรองรับระบบสแกน QR Code ชำระเงิน ทั้งนี้เป็นผลจากไลฟ์สไตล์การใช้เงินของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ส่งผลให้เกิดการขยายสังคมไร้เงินสดในไทยจากเมืองหลวงกรุงเทพฯ ไปสู่จังหวัดท่องเที่ยว ก่อนที่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ
สังคมไร้เงินสดบุกตลาดอสังหาฯ
ดูเหมือนว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนธุรกิจได้ตอบรับการเกิดสังคมไร้เงินสด ไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ร่วมมือสถาบันการเงิน ทำให้สามารถสแกน QR Code ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือชำระเงินจองการซื้อบ้าน-คอนโดฯ ได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังยกระดับสร้างชุมชนที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นสังคมไร้เงินสด ใช้ชีวิตแบบไม่จำเป็นต้องพกเศษเหรียญหรือธนบัตรติดตัว ก็สามารถจับจ่ายใช้สอย ซื้อของกิน จ่ายค่าเดินทางได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเกิดขึ้นจริงแล้วในประเทศไทย โดยมีโครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างสังคมดังกล่าวดังนี้

แอปพลิเคชัน K Plus Shop ช่องทางใหม่ของการจองคอนโดฯ ภาพ via www.kasikornbank.com
ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ขานรับนโยบายสังคมไร้เงินสด ด้วยการเปิดจองและทำสัญญาคอนโดฯ ได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชัน K Plus Shop จากการร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ทั้งนี้ยังสามารถชำระผ่านโมบายแบงก์กิ้งทุกธนาคาร โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมการชำระเงินสินค้าประเภทที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ทำให้สร้างความสะดวกสบายต่อผู้บริโภค รวมทั้งยังรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งหันมานิยมทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก
แสนสิริ อีกหนึ่งผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Prop Tech ด้วยการหยิบยื่นนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย ล่าสุดได้น้อมรับนโยบายสังคมไร้เงินสด ด้วยการนำร่องเปิดตัว Cashless Town ครั้งแรกในวงการอสังหาฯ ที่ฮาบิโตะ (Habito) คอมมูนิตี้รีเทลในอาณาจักร T77 บนทำเลศักยภาพอย่างอ่อนนุช ทั้งนี้ได้จำลองเมืองไร้เงินสดจากการจัดงาน Winter Market Fest ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 16-17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จนทำให้มีการประกาศไตรมาสแรกของปี 61 เพื่อเดินหน้าสร้างสังคมไร้เงินสดแบบเต็มรูปแบบ โดยผู้อยู่อาศัยใน T77 จะสามารถจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสวนกลาง และโรงพยาบาลฟัน ผ่านช่องทางการสแกน QR Code ได้
ใช่เพียงแต่เหล่าผู้ประกอบการอสังหาฯ เท่านั้นที่สนองนโยบายสังคมไร้เงินสด แม้แต่สถาบันการเงินอย่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ยังกระตุ้นการใช้ธุรกรรมการเงินผ่านโลกออนไลน์ ด้วยการลดกระบวนการขั้นตอนแสนยุ่งยากของการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพียงเลือกใช้บริการผ่านระบบ Internet Banking ของ ธอส. หรือสแกน QR Code ที่ Facebook Fanpage ธนาคาร พร้อมระบุข้อมูลเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล รายได้ วัตถุประสงค์ วงเงินขอกู้ ระยะเวลาผ่อนชำระ สาขาที่ต้องการใช้บริการ และช่วงเวลาที่สะดวกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ เท่านี้ก็สร้างความสะดวกสบายแก่ผู้ต้องการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยแล้ว
เหรียญด้านที่สองของสังคมไร้เงินสด
กระแสความนิยมของสังคมไร้เงินสดในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เรียกว่ามีการพัฒนารูปแบบการใช้งานแบบก้าวกระโดด ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมการเงินผ่านโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้น และความตื่นตัวนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เพียงประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปทั่วโลก ซึ่งประเทศที่สนองสังคมไร้เงินสดอย่างสมบูรณ์แบบนั่นคือ สวีเดน ทั้งนี้ดูเหมือนว่าระดับความนิยมในการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันของชาวสวีเดนนั้นกำลังแผ่ขยายไปทั่วประเทศ เรียกว่าแทบไม่มีใครพกเงินสดใช้ในชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว และนั้นกำลังทำให้เห็นเหรียญด้านที่สองของการเป็นประเทศสังคมไร้เงินสด ที่รัฐบาลจำเป็นต้องตระหนัก เนื่องจากธนบัตร เหรียญสตางค์ ถูกลดมูลค่าลง สังเกตได้จากปรากฎการณ์เงินสดไม่สามารถซื้อได้แม้กระทั่งตั๋วรถไฟใต้ดินในกรุงสตอกโฮล์มได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามการผลักดันประเทศให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสดแม้จะเกิดผลดีหลายรายประการ ทั้งการตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงิน ลดปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษีและคอรัปชั่นได้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากโลกออนไลน์สามารถพัฒนาได้อย่างไร้ขอบเขต จึงอาจทำให้มูลค่าของธนบัตร เหรียญสตางค์ ถูกลดน้อยลง ประกอบเรื่องความปลอดภัยยังเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล ถึงแม้ว่ากระแสความนิยมในการทำธุรกรรมการเงินผ่านแอปพลิเคชันจะสูงขึ้นจนทำให้เกิดเมืองไร้เงินสดในตลาดอสังหาฯ ก็ตาม
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Senior Digital Content Producer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน