ปัจจุบันเราจะเห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่นเดียวกับทางด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างตอบรับการอยู่อาศัยในยุค 4.0 ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้ภายในโครงการ เรียกว่าเอาใจคนรุ่นใหม่ เพื่อให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ช้อปปิ้ง-ชำระบิล ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส
เริ่มด้วยฮาบิแทท กรุ๊ป ที่เพิ่งทุ่มงบ 2,500 ล้านบาท รุกตลาดไฮเอนด์ย่านศูนย์กลางธุรกิจในกลางเมืองเป็นครั้งแรก กับโครงการ “วาลเด้น อโศก” ที่นอกจากจะมีที่จอดรถอัตโนมัติแล้ว ยังได้ร่วมมือกับ Nasket พัฒนานวัตกรรมที่ทำให้ชีวิตในคอนโดมิเนียมสะดวกมากขึ้นด้วยบริการ “Walden Privilege” แท็บเล็ตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ส่งตรงถึงหน้าประตูห้อง รวมไปถึงบริการเสริมอีกมากมาย อาทิ แม่บ้านทำความสะอาด ช่างซ่อมงานเล็ก-ใหญ่ สั่งอาหาร และบริการชำระบิลต่าง ๆ เพียงแค่แสกนบาร์โค้ดและชำระผ่านบัตรเครดิต โดยไม่ต้องโหลด ไม่ต้องสมัคร และไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม
อุ่นใจด้วยสุดยอดสมาร์ทล็อก
ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการอยู่อาศัย ทางบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จึงได้จับมือกับแบรนด์ “igloohome” (อิกลูโฮม) ลุยติดตั้ง ‘สมาร์ทล็อก’ ระบบล็อกอัตโนมัติ เพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานของโครงการแสนสิริเทียบมาตรฐานโลก
ความพิเศษของสมาร์ทล็อกคือ เปิดประตูได้ทุกที่ผ่านโมบายแอปพลิเคชันด้วยระบบ Bluetooth หรือผ่านระบบ Pin Code ซึ่งเป็นระบบ OTP (One Time Password) ส่งรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียวหรือกำหนดเวลาของ Pin Code ได้ รวมทั้งยังสามารถติดตามรายละเอียดเมื่อมีคนเข้า-ออกบ้านได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ และยังปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบป้องกันการแฮ็กพิเศษด้วย Cryptography ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ธนาคารชั้นนำเลือกใช้ ทำงานได้โดยที่ล็อกไม่ต้องเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังสะดวกและปลอดภัยสำหรับปล่อยเช่า ผู้เช่าสามารถเข้าห้องได้โดยได้รับ Pin Code เอื้อประโยชน์ต่อการให้เพื่อนเข้าพักหรือปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมตากอากาศ
โดยในไตรมาส 2 ทางแสนสิริเตรียมนำร่องใช้ใน 9 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไลน์ สาทร, คาวะ เฮาส์ สุขุมวิท 77 และโอกะ เฮาส์ สุขุมวิท 36 บ้านเดี่ยว 6 โครงการ ได้แก่ บุราสิริ บางนา, บุราสิริ ปัญญาอินทรา, บุราสิริ พัฒนาการ, บุราสิริ วงแหวน-อ่อนนุช, เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล และเศรษฐสิริแจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2
สร้างชุมชนน่าอยู่ด้วยแอปพลิเคชัน
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ก็ไม่น้อยหน้า ยกระดับโครงการที่อยู่อาศัยให้เป็น “ชุมชนน่าอยู่” มากขึ้น ด้วยแอปพลิเคชัน LPN SHARE โดยประเดิมฟีเจอร์แรกด้วย “คาร์พูล” (Carpool) ชื่อ “LPN SHARE by LILUNA” (แอลพีเอ็น แชร์ บาย ลิลูน่า)
ระบบคาร์พูลเป็นระบบการเดินทางที่ใช้รถร่วมกันเพื่อโดยสารในเส้นทางเดียวกัน แบบ “ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน” โดย LPN SHARE by LILUNA จะมีฟังก์ชั่น LPN Board เพื่อให้ผู้ใช้บริการแจ้งเส้นทางที่ต้องการเดินทาง เพื่อหาผู้ร่วมเดินทางหรือผู้ขับขี่ หรือในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ได้สร้างเส้นทางไว้ล่วงหน้า ผู้ใช้บริการก็สามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้ เพื่อหาเพื่อนร่วมทางสำหรับการแชร์ค่าแท็กซี่ด้วยกันก็ได้ นอกจากจะเป็นการลดภาระค่าเดินทางแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของคนในชุมชน ช่วยลดการใช้รถยนต์ พลังงาน และปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนอีกด้วย
ขณะนี้ แอล.พี.เอ็น. ได้ทดลองใช้ LPN SHARE by LILUNA ที่โครงการลุมพินีเพลส พระราม 9-รัชดา เป็นแห่งแรก และตั้งเป้าที่จะขยายการให้บริการไปยังเจ้าของร่วมในโครงการ “ลุมพินี” ทุกโครงการซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว ๆ 2.5 แสนรายทั่วประเทศ
จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาเป็นตัวนำในการแข่งขันในตลาดนอกเหนือจากคุณภาพ และบริการมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีต่อผู้อยู่อาศัยที่จะได้ใช้ชีวิตที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้ว ยังตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันในสังคมได้เป็นอย่างดีด้วย
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน