การ Pre-approve ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยตรวจสอบในเบื้องต้นได้ว่าคุณจะสามารถขอสินเชื่อบ้านผ่านหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการเสียค่าจองและค่าทำสัญญาจะซื้อจะขายในการซื้อบ้านหรือซื้อคอนโด
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- Pre-approve คืออะไร
- 6 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการขอ Pre-approve
- ประโยชน์ในการขอ Pre-approve
- เอกสารที่ใช้ในการขอ Pre-approve
- ค่าใช้จ่ายในการขอ Pre-approve
- ระยะเวลาในการพิจารณา Pre-approve
Pre-approve คืออะไร
Pre-approve สินเชื่อบ้าน หรือ การยื่นประเมินสินเชื่อบ้านในเบื้องต้นนั้นเป็นการขอตรวจสอบสถานภาพทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ โดยพิจารณาจากราคาซื้อขายบ้านหรือคอนโดที่ผู้ขอสินเชื่อแจ้ง รายได้ รายจ่าย และเครดิตหรือความน่าเชื่อถือ เช่น ติดเครดิตบูโร (ประวัติเสียในการชำระหนี้กับบัตรเครดิตและ/หรือสินเชื่อ) หรือไม่ ชำระค่าบัตรเครดิตครบถ้วนตรงเวลาหรือไม่
หาก Pre-approve ผ่าน หมายความว่า ผู้ขอมีโอกาสดีที่จะขอสินเชื่อผ่าน แต่หากผลเป็นตรงกันข้าม ก็ยังไม่ควรที่จะจองหรือตกลงซื้อบ้านหรือคอนโดกับผู้ขาย

6 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการขอ Pre-approve
1. การขอ Pre-approve นั้นเป็นการยื่นขอพิจารณาให้ธนาคารตรวจสอบว่า จะสามารถกู้สินเชื่อผ่านหรือไม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการจองบ้านหรือคอนโด การทำสัญญาจะซื้อจะขาย และการชำระค่าดาวน์ แต่การขอสินเชื่อนั้นเป็นขั้นตอนที่ต้องทำหลังจากดำเนินการสิ่งเหล่านี้แล้ว
2. ราคาที่นำมาใช้ในการพิจารณาคือ ราคาซื้อขายบ้านที่ผู้ขอ Pre-approve แจ้ง แต่การขอสินเชื่อจะใช้ราคาจะซื้อจะขาย (ราคาจริง) พร้อมข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับบ้านหรือคอนโด ซึ่งธนาคารจะนำไปใช้ประกอบการคำนวณหาราคาประเมินที่จะนำมาใช้พิจารณาการขอสินเชื่ออีกที
3. ธนาคารจะใช้เอกสารต่าง ๆ ในการขอสินเชื่อเหมือนกับเอกสารที่ใช้ในการขอ Pre-approve เพียงแต่ผู้ขอสินเชื่อต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่ สัญญาจะซื้อจะขาย แผนที่บ้านหรือคอนโด และอาจขอเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกแล้วแต่กรณี
4. ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการขอ Pre-approve แต่มีค่าธรรมเนียมในการขอสินเชื่อ เว้นแต่ธนาคารจะมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมนั้น
5. ระยะเวลาผลของ Pre-approve การขอ Pre-approve ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ในขณะที่การขอสินเชื่อใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์
6. ผลที่ได้จากการขอ Pre-approve เช่น วงเงินสินเชื่อและค่าผ่อนต่อเดือน อาจแตกต่างจากผลการขอสินเชื่อ อย่างไรก็ดี อาจมีกรณีที่ Pre-approve ผ่าน แต่ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อได้ ขื้นอยู่กับและการพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ความชัดเจนของที่มารายได้ ราคาประเมินที่อยู่อาศัยที่จะซื้อ
ประโยชน์ในการขอ Pre-approve
1. ทำให้ทราบว่ามีความสามารถขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยในวงเงินประมาณนี้หรือไม่ จึงช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นทั้งในเรื่องการซื้อ การขอวงเงินสินเชื่อ และการเลือกธนาคารที่จะยื่นขอสินเชื่อ
ตารางเปรียบเทียบจำนวนเงินผ่อนชำระบ้าน และวงเงินกู้ซื้อบ้าน-คอนโดสูงสุด
เงินเดือน 15,000 บาท
6,000 บาท
900,000 บาท
เงินเดือน 20,000 บาท
8,000 บาท
1,200,000 บาท
เงินเดือน 25,000 บาท
10,000 บาท
1,500,000 บาท
เงินเดือน 30,000 บาท
12,000 บาท
1,800,000 บาท
เงินเดือน 35,000 บาท
14,000 บาท
2,100,000 บาท
เงินเดือน 40,000 บาท
16,000 บาท
2,400,000 บาท
เงินเดือน 45,000 บาท
18,000 บาท
2,700,000 บาท
เงินเดือน 50,000 บาท
20,000 บาท
3,000,000 บาท
เงินเดือน 55,000 บาท
22,000 บาท
3,300,000 บาท
เงินเดือน 60,000 บาท
24,000 บาท
3,600,000 บาท
เงินเดือน 65,000 บาท
26,000 บาท
3,900,000 บาท
เงินเดือน 70,000 บาท
28,000 บาท
4,200,000 บาท
เงินเดือน 80,000 บาท
32,000 บาท
4,800,000 บาท
เงินเดือน 90,000 บาท
36,000 บาท
5,400,000 บาท
เงินเดือน 100,000 บาท
40,000 บาท
6,000,000 บาท
หมายเหตุ: ตัวเลขโดยประมาณ
2. แม้ Pre-approve ไม่ผ่าน ก็ช่วยให้ทราบว่า ต้องปรับปรุงอะไร เพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ เช่น หากพบว่าความสามารถในการผ่อนไม่เพียงพอ ก็สามารถแก้ไขได้โดยจ่ายเงินดาวน์มากขึ้นเพื่อลดวงเงินในการยื่นกู้สินเชื่อหรือหาผู้กู้ร่วม
3. หากมีประวัติหนี้เสียอยู่ในเครดิตบูโร ก็ไม่ควรยื่นขอสินเชื่ออย่างน้อย 2 ปี และในระหว่างนี้ ก็ควรชำระหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่ออื่นที่มีให้ครบและตรงเวลาเพื่อสร้างประวัติเครดิตที่ดี
4. ช่วยป้องกันไม่ให้สูญเสียเงินจากการผิดสัญญาจะซื้อจะขายในกรณีขอสินเชื่อไม่ผ่าน
เอกสารที่ใช้ในการขอ Pre-approve
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนารายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (Statement)
- สำเนาสลิปเงินเดือน (Payslip) สำหรับพนักงานประจำ
- สำเนาหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่ายย้อนหลัง 6 เดือนและหลักฐานการเสียภาษีของปีล่าสุดสำหรับฟรีแลนซ์
- ใบสมัครขอสินเชื่อของธนาคาร
- ใบยินยอมให้ตรวจสอบเครดิตบูโรของธนาคาร
DDproperty Tip
เมื่อยื่นขอสินเชื่อ ธนาคารเดียวกันกับที่ขอ Pre-approve บ้านหรือคอนโดนั้นมักจะใช้เอกสารชุดเดียวกันนี้ไปดำเนินการต่อเลย จึงไม่ต้องเสียเวลาจัดเตรียมเอกสารอีกครั้ง
ค่าใช้จ่ายในการขอ Pre-approve
ธนาคารให้บริการ Pre-approve สินเชื่อบ้านหรือคอนโดโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ
ระยะเวลาในการพิจารณา Pre-approve
ประมาณไม่เกิน 5 วันทำการ
การขอ Pre-approve เป็นเพียงวิธีการช่วยตรวจสอบความพร้อม เพื่อพิจารณาว่าจะขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือไม่ และจะขอกับธนาคารไหน อย่างไร ปัจจัยหลักที่จะทำให้ได้รับอนุมัติสินเชื่อก็คือ กำลังทรัพย์และการบริหารจัดการทางการเงินอย่างเหมาะสมในระดับที่ทำให้ธนาคารเชื่อว่าสามารถชำระหนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา
โดยก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการเลือกซื้อ ขอแนะนำให้ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่ออ่านวิธีการเตรียมตัวขอสินเชื่อบ้าน-คอนโด เพื่อความราบรื่นในทุกย่างก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านในฝัน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ