เคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kaset) คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 600 ยูนิต ออกแบบภาพใต้แนวคิด SYNC WITH THE NATURE เชื่อมต่อพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มกว่า 30 รายการ และระบบจอดรถอัตโนมัติ Auto Parking ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.29 ล้านบาท
ปัจจุบันถึงแม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวคอนโดมิเนียมจะซบเซาลงไปบ้าง โดยเฉพาะเซ็กเมนต์คอนโดราคา 1-3 ล้านบาท ที่ขยันทำโปรโมชั่นออกมาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเหลือยูนิตขายค่อนข้างเยอะ เนื่องจากดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเองส่วนใหญ่หันไปมองบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ กันค่อนข้างเยอะ สามารถอยู่อาศัยได้สบายบนพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ให้ความปลอดภัยได้มากกว่าคอนโดมิเนียม และสอดคล้องกับสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ คอนโดมิเนียมในเซกเมนต์ล่าง จะเป็นที่อยู่อาศัยที่ตัดสินใจซื้อยากกว่าบ้านแนวราบ แต่อสังหาริมทรัพยแนวคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี (Super Luxury) กลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท เพลินจิต ทองหล่อ ด้วยปัจจัยของกลุ่มนักลงทุนที่มีกำลังซื้อ และมองว่าอสังหาริมทรัพย์ระดับสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะยาวได้ โดยที่ผ่านมาคอนโดมิเนียมในเซกเมนต์บนก็มีการปรับตัวของราคาที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-12% ต่อปี และยังให้อัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าอยู่ที่ 3% ต่อปีอีกด้วย
![]() |
อัปเดตอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน กู้ซื้อบ้าน ได้ที่นี่ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน คือ ตัวกำหนดการผ่อนชำระค่างวดของการซื้อที่อนู่อาศัยสำหรับคนที่ทำการกู้ซื้อผ่านธนาคาร โดยทาง DDproperty ได้รวบรวมสินเชื่อจากหลายธนาคารมารวมไว้ ณ ที่นี่แล้ว |
โดยปัจจุบันจะเห็นว่าห้องชุดคอนโดที่มีราคาแพงส่วนใหญ่หรืออยู่ในเซกเมนต์ที่มีราคา 90 – 100 ล้านบาทขึ้นไป จะเหลือขายอยู่น้อยมาก นั่นก็เป็นเพราะตัวห้องชุดขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้มีความ Exclusive มากที่สุด ในหนึ่งโครงการจะมีห้องชุดระดับ Super Luxury อยู่ไม่กี่ห้องเท่านั้น ดังนั้นการจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในระดับนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดระดับบนอยู่เสมอ
และวันนี้เองทาง DDproperty ก็ขอถือโอกาสพาทุกคนไปดูกันว่า 15 อันดับแรกของห้องชุดคอนโดมิเนียมที่แพงที่สุดในประเทศไทยคือที่ไหนกันบ้าง คอนโดไหนเด่น ค่ายไหนดัง ใครคือที่ 1 ของความแพง ตามไปดูกันได้เลยที่ รายละเอียดโครงการ
รายละเอียดโครงการ
- อันดับที่ 15 THE DIPLOMAT 39 ราคา 91 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 450 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ความสูง 31 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ 100 เมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 230,000 – 330,000 บาท แล้วแต่ยูนิต สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ THE DIPLOMAT 39 ได้ที่นี่
- อันดับที่ 14 Scope หลังสวน ราคา 92 ล้านบาท สำหรับห้องชุด 3 ห้องนอน ขนาด 240 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท สโคป จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนหลังสวน ความสูง 34 ชั้น ห่างจาก BTS ชิดลม 170 เมตร ราคาขายต่อต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 380,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ Scope หลังสวน ได้ที่นี่
- อันดับที่ 13 Estelle พร้อมพงษ์ ราคา 100 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบดูเพล็กซ์ ขนาด 265 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท ไรมอนแลนด์ ทเวนตี้ซิก จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ความสูง 37 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ 250 เมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 378,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ โครงการ Estelle พร้อมพงษ์ ได้ที่นี่
- อันดับที่ 12 Tonson One Residence ราคา 105 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ (ดูเพล็กซ์) ขนาด 300 ตารางเมตร พัฒนาโดยบริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท แค๊ปสโตนแอสเสท จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนเพลินจิต ความสูง 29 ชั้น ห่างจาก BTS ชิดลม 400 เมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 350,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ Tonson One Residence ได้ที่นี่
- อันดับที่ 11 Q สุขุมวิท ราคา 120 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 345 ตารางเมตร พัฒนาโดยบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ความสูง 42 ชั้น มีสะพานเชื่อมต่อสู่ BTS สถานีนานา ที่ชั้น 3 ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 350,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ Q สุขุมวิท ได้ที่นี่
- อันดับที่ 10 Marque สุขุมวิท ราคา 135 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 400 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท เมเจอร์ เรสซิเด้นส์ จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ความสูง 50 ชั้น ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ 50 เมตรราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 337,500 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ Marque สุขุมวิท ได้ที่นี่
- อันดับที่ 9 Khun By Yoo ราคา 139 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 294 ตารางเมตร พัฒนาโดยบริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ซิกซ์ทีน จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ความสูง 27 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 1 กิโลเมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 473,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ Khun By Yoo ได้ที่นี่
- อันดับที่ 8 Tela ทองหล่อ ราคา 140 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบ 4 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) ขนาด 425 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท เกษรวัฒนา จำกัด โครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 13 ความสูง 33 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 1 กิโลเมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 330,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงกา Tela ทองหล่อ ได้ที่นี่
- อันดับที่ 7 ศาลาแดง One ราคา 550 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 413 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ศาลาแดงซอย 1 ความสูง 33 ชั้น ห่างจาก Interchange BTS สถานีศาลาแดง และ MRT สถานีสีลม ประมาณ 600 เมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 350,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ ศาลาแดง One ได้ที่นี่
- อันดับที่ 6 Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ราคา 150 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบ 4 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) ขนาด 420 ตารางเมตร โครงการตั้งอยู่บนถนนสมเด็จเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร พัฒนาโดย บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ความสูง 45 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีสะพานตากสิน ประมาณ 3 กิโลเมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 357,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ได้ที่นี่
- อันดับที่ 5 The Monument ทองหล่อ ราคา 153 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 509 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง โฟร์ จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ ความสูง 45 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 2 กิโลเมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ The Monument ทองหล่อ ได้ที่นี่
- อันดับที่ 4 Four Seasons Private Residences ราคา 178 ล้านบาท สำหรับห้องชุดเมตร รูปแบบ 5 ห้องนอน ขนาด 499 ตาราง พัฒนาโดย บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ความสูง 73 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีสะพานตากสิน ประมาณ 1 กิโลเมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 357,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ Four Seasons Private Residences ได้ที่นี่
- อันดับที่ 3 The Residences at Mandarin Oriental Bangkok ราคา 213 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 380 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท ดิไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โครงการตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ความสูง 52 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีสะพานตากสิน ประมาณ 5 กม. ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 560,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok ได้ที่นี่
- อันดับที่ 2 ศุภาลัย ไอคอน สาทร ราคา 283 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบ 5 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) ขนาด 970 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่บนถนนสาทรใต้ ความสูง 56 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีช่องนนทรี ประมาณ 900 เมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 290,000 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร ได้ที่นี่
- อันดับที่ 1 98 Wireless ราคา 650 ล้านบาท สำหรับห้องชุดรูปแบบเพนท์เฮาส์ (ดูเพล็กซ์) ขนาด 948 ตารางเมตร พัฒนาโดย บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ความสูง 25 ชั้น ห่างจาก BTS สถานีเพลินจิต 300 เมตร ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 685,500 บาท สามารถเข้าไปดูประกาศขายห้องชุดจากโครงการ 98 Wireless ได้ที่นี่
นอกจากนั้นในปีนี้ยังมีคอนโดระดับ Super Luxury เกิดขึ้นใหม่ด้วยในย่านพระราม 3 ถึงแม้จะไม่ติด 1 ใน 15 อันดับที่ทาง DDproperty นำมาให้ชมกันในวันนี้ แต่ก็ถือเป็นคอนโดที่มีราคาเริ่มต้นไม่เบาเลยเหมือนกันสำหรับโครงการคอนโดมิเนียม วินด์เชลล์ นราธิวาส คอนโด High Rise สูง 28 ชั้น กับพื้นที่โครงการขนาดประมาณ 2 ไร่ พร้อมห้องชุดจำนวน 36 ยูนิต โดยมอบอิสระในการกั้นและออกแบบห้องเอง และมีไฮไลท์ของตัวโครงสร้างอาคารที่รองรับสระว่ายน้ำหรือสวนส่วนตัวทุกยูนิต ในราคาเริ่มต้นที่ 78 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เองจะมีคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรีบนทำเลไหนเกิดขึ้นอีก ทางเราจะมีการอัปเดตให้ทุดคนได้ชมกันต่อไปเรื่อย ๆ ส่วนใครที่กำลังมองหาห้องชุดราคาแพงไว้สำหรับลงทุนระยะยาวก็สามารถเข้าไปดู ประกาศคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 20 ล้านบาทในกรุงเทพฯ ได้ที่นี่ และสามารถติดตามชม รีวิวโครงการใหม่ที่มีราคามากกว่า 10 ล้านบาท ได้ที่นี่อีกด้วย
สรุป
ปัจจุบันผู้ประกอบการหันไปจับตลาดระดับ Super Luxury ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อ รวมทั้งมีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อมากกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ Super Luxury จะได้รับผลกระทบน้อย เมื่อเทียบกับเซกเมนต์อื่น ๆ แต่ในปี 2563 ผู้ประกอบการยังคงต้องปรับตัวหาช่องว่างตลาดใหม่หรือบลูโอเชียล ที่มีดีมานด์เฉพาะ (Specific Demand) บนทำเลที่มีศักยภาพที่ตอบโจทย์กลุ่ม Super Luxury ได้อย่างแท้จริง ซึ่งในปัจจุบันทำเลที่มีความนิยมในการลงทุนสูงก็จะประกอบไปด้วยสุขุมวิทช่วงต้นอย่าง ชิดลม เพลินจิต อโศก พร้อมพงษ์ และทองหล่อ และคอนโดริมน้ำในย่านเจริญกรุง เจริญนคร
รู้จักกับทำเลเด่นในกรุงเทพฯ ให้มากขึ้นได้ที่นี่
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของมาตรการคสบคุมการซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 – 3 อย่างมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่ต้องมีเงินดาวน์มากขึ้น แต่ในแง่มุมของผู้ที่มีกำลังซื้อคอนโดระดับราคา 90-100 ล้านบาท มีผลกระทบมากไหมก็ต้องบอกว่าน้อยมาก ซึ่งทางภาครัฐก็น่าจะมีการนำมาตรการไปปรับแก้ไขช่องโหว่ต่าง ๆ และมีประกาศใช้ใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน
อัปเดตมาตรการ LTV ช่วยคนกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง
โดยถึงแม้ปัจจุบันตลาดซื้อขายยังซบเซาอยู่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่มีผลกระทบในทุก ๆ ด้าน แต่หากมองให้ลึกลงไปจะเห็นว่าอสังหาริมทรัพย์แนวที่อยู่อาศัยยังคงมีดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง และต้องการซื้อเพื่อลงทุนอยู่มาก ในยุคที่อสังหาฯ กำลังมีการปรับตัวทั้งเรื่องราคา และรูปแบบการอยู่อาศัย
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า