AREA เห็นต่าง กางผลสำรวจ ยันตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัดไม่ได้โอเวอร์ซัพพลายอย่างที่คิด
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA เปิดเผยว่าจากที่มีคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยออกมาบอกว่าที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัดนั้นอยู่ในภาวะล้นตลาดหรือโอเวอร์ซัพพลายมาตั้งแต่ช่วงปี 2556 ตนในฐานะที่ทำการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องกลับเห็นต่าง โดยจากข้อมูลการสำรวจตลาดในหัวเมืองใหญ่ๆ ของประเทศ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น ชะอำ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี อัตราการขายได้ของสินค้าในตลาดเหล่านั้นโดยรวมก็ยังไปได้ดี มีเพียงอสังหาฯ บางประเภท ในบางช่วงระดับราคา และบางทำเลเท่านั้นที่ประสบกับปัญหาการขายอืด
สำหรับตลาดเชียงใหม่ ดร.โสภณ กล่าวว่าในปี 2556 สินค้าที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ขายดีมาก มีเพียงบ้านเดี่ยวราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปในเขตตัวอำเภอเมืองที่ขายได้ยาก เนื่องจากมีราคาสูงเกินไป ส่วนในอำเภอสันทรายห้องชุดราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นและบ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านขึ้นไปในพื้นที่อำเภอสันกำแพงนั้นขายได้ช้า แต่เมื่อมองในภาพรวมกลับพบว่าสินค้าส่วนใหญ่สามารถขายหมดได้ในเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการประเมินความเชื่อมั่นของผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงอสังหาฯ ของเชียงใหม่ล่าสุด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่างประเมินภาวะตลาดอสังหาฯ เชียงใหม่ไปในทางลบ คือให้คะแนนความเชื่อมั่น 4.5 จาก 10 คะแนน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เห็นว่าในระยะเวลาอีก 1 ข้างหน้า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่น่าจะดีกว่าปีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความคาดหวังจากภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะดีขึ้น หรือนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลที่น่าจะได้ผล
ในขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดภูเก็ต สินค้าโดยรวม ยังอยู่ในอัตราที่ขายได้ ยกเว้นห้องชุดราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปในเขตอำเภอเมืองที่แทบจะขายไม่ได้ แต่ก็มีเหลือไม่มากนัก โดยจากการประเมินความเห็นผู้เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ ภูเก็ตพบว่าคนส่วนใหญ่มองว่าตลาดในปัจจุบันไม่คึกคักสักเท่าใดนัก แต่ก็ตั้งความหวังว่าตลาดจะดีขึ้นในปีหน้า จากความพยายามของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ส่วนสถานการณ์ในชลบุรี-ระยองนั้น ประธานฯ AREA ยืนยันว่าสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด และอาจถือว่าดีกว่าจังหวัดอื่นๆ ของประเทศอีกด้วย ปัจจุบันมีโครงการที่สำรวจรวมกันในเขตชลบุรี-ระยองถึง 1,216 โครงการ รวม 188,520 ยูนิต มีหน่วยเหลือขายจริงเพียง 50,192 ยูนิต หรือคิดเป็น 27% ของหน่วยขายทั้งหมด และคาดว่าน่าจะขายได้หมดภายในเวลาประมาณ 8 เดือน
“ชลบุรีและระยอง นอกจากเป็นเมืองภูมิภาคตามปกติแล้ว ยังเป็นเมืองตากอากาศ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ดังนั้นการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 2 จังหวัดนี้จึงมีต่อเนื่อง แม้ในขณะนี้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ก็ยังนับว่าดีกว่าอีกหลาย ๆ จังหวัดทั่วประเทศ” ดร.โสภณกล่าว
ประธานฯ AREA ยังได้สรุปอีกว่าสินค้าที่อาจมีปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ที่มีราคาค่อนข้างสูง หรือที่อยู่อาศัยราคาถูกที่ตั้งอยู่ในทำเลไม่ดี ส่วนสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมนั้นแทบไม่มีปัญหาในการขายแต่อย่างใด และตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูมิภาคมาชะลอตัวตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
“ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งของการชะลอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกก็คือ โครงการรถไฟความเร็วสูงได้ถูกระงับไประยะหนึ่ง ทำให้เกิดการสะดุด และแม้ภายหลังรัฐบาลจะได้ออกมารณรงค์โครงการนี้อีก แต่ก็ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยสร่างซาลงไปแล้ว แนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินก็คือ ในปี 2558 นี้ มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ น้อยมาก เทียบกับปี 2557 นับว่าเปิดน้อยลงเหลือหนึ่งในสี่ เช่น ปี 2557 เปิดใหม่ 10,000 หน่วย ปี 2558 เปิดใหม่รวมกันเพียง 2,500 หน่วย เป็นต้น ดังนั้นภาวะล้นตลาดจึงไม่เกิดขึ้น” ดร.โสภณ กล่าวสรุป
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
