กรุงเทพ ซิตี้สมาร์ทเผยจับตาทำเลทองหล่อ ราคาประเมินรอบใหม่อาจปรับเพิ่มขึ้นถึง ตรว.ละ 500,000 บาท ด้านราคาขายโครงการใหม่เปิดตัวแตะ 300,00 บาท/ ตรม. ในขณะที่ราคาคอนโดฯ มือสองก็ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากบทวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัท กรุงเทพ ซิตี้สมาร์ท จำกัด ในเครือบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ระบุว่าบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อนับเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงสำหรับการอยู่อาศัย เป็นแหล่งรวมของร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่งผลให้มีความต้องการในการอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก รวมถึงการลงทุนด้วย
ปัจจุบันที่ดินบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อแทบจะไม่เหลือพื้นที่ที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยได้อีกแล้ว ทำให้ดีมานด์กระจายไปยังทำเลที่เป็นบริเวณข้างเคียง เช่น ซอยสุขุมวิท 49, 51 รวมทั้งซอยสุขุมวิท 36-38 ที่อยู่ตรงข้ามซอยทองหล่ออีกด้วย และปัจจัยดังกล่าวนี่เองที่ทำให้ราคาที่ดินบริเวณนี้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
จากราคาประเมินที่ดินกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังพบว่า ในรอบปัจจุบัน (ปี 2555-2558) ราคาประเมินที่ดินเฉลี่ยอยู่ที่ 350,000 บาท/ ตร.ว. เพิ่มขึ้นจากราคาประเมินในรอบก่อนหน้า (ปี 2550-2554) ซึ่งราคาประเมินที่ดินเฉลี่ยเพียง 200,000 บาท/ ตร.ว. ถึง 75% และคาดการณ์ว่าการประเมินในรอบใหม่ (ปี 2559-2562) ราคาประเมินที่ดินจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 40% เป็น 450,000-500,000 บาท/ ตร.ว.
เมื่อดูจากราคาเปิดตัวโครงการย้อนหลังไปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ มีราคาเปิดตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 105,000 บาท/ ตร.ม. แต่เมื่อเจาะลึกลงไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า ราคาเปิดตัวโครงการเฉลี่ยมีการปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 35% อยู่ที่ประมาณ 140,000 บาท/ ตร.ม. ส่วนหนึ่งมาจากโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาในย่านนี้อย่างโครงการคอนโดมิเนียม Tela Thonglor บริเวณทองหล่อซอย 13 ของบริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดมีราคาขายเริ่มต้นสูงถึง 300,000 บาท/ ตร.ม.
ในขณะที่ราคาขายคอนโดฯ ในตลาดมือสองก็พบว่ามีการปรับราคาสูงขึ้น สะท้อนถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยราคาเสนอขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ 200,000 บาท/ ตร.ม. ปรับเพิ่มขึ้นถึง 43% ของราคาเปิดตัวโครงการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
โดยโครงการคอนโดฯ ในย่านนี้ มีอัตราการเข้าอยู่อาศัยจริงสูงถึงกว่า 80% จึงระบุได้ว่าโครงการในทำเลนี้ มีการลงทุนแบบเก็งกำไรน้อย แต่จะเป็นการลงทุนเพื่อเพื่อปล่อยเช่า และมีผู้เช่า รวมถึงการเข้าอยู่อาศัยเอง โดยสัดส่วนชาวไทย และชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในย่านนี้คือ 40 : 60
ภาพ: โครงการ HQ Thonglor โดยแสนสิริ
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่