ด่วน! ครม.ไฟเขียวเห็นชอบยกเว้นภาษีการโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไปยังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) (วันนี้) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวง เกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีการโอนเงินหรือขายหน่วยลงทุนคืนให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยกำหนดว่า เงินหรือผลประโยชน์ใดๆที่ผู้มีเงินได้ได้รับจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) โดยหน่วยลงทุนดังกล่าวได้จากการโอนหรือเกี่ยวเนื่องจากการโอนมาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรม เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้ขายหน่วยลงทุนนั้นเมื่อมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์และมีระยะเวลาการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเชี้ยงชีพรวมกับระยะเวลาการถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมฯแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการออมเพื่อการเกษียณอายุอย่างต่อเนื่องผ่านระบบกองทุน รวมทั้งช่วยเพิ่มทางเลือกแก่ผู้ออมให้สามารถได้รับผลตอบแทนจากการออมเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและรองรับสังคมผู้สูงอายุและช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐบาลในการดูแลผู้สูงอายุในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยจะไม่ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ
“เงินหรือผลประโยชน์ใดๆที่ผู้มีเงินได้ได้รับจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ โดยหน่วยลงทุนดังกล่าวได้จากการโอนหรือเกี่ยวเนื่องจากการโอนมาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรม เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้ขายหน่วยลงทุนนั้นเมื่อมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์และมีระยะเวลาการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรวมกับระยะเวลาการถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมฯแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป”
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวนอกจากการรองรับสังคมสูงอายุแล้ว ยังเป็นการเตรียมการในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากที่ผ่านมากำหนดว่านายจ้างจะต้องสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในกรณีที่บริษัทได้ดำเนินการจัดตั้งต่อปีไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี ซึ่งที่ผ่านมามีสมาชิกทั้งสิ้น 3 ล้านคน และมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรวม 26,000 กองทุน แต่ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีการยกเลิกกองทุนดังกล่าวฯ หรือไม่มีการจัดตั้ง จึงมีการโอนเงินไปยังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ครม.จึงได้อำนวยความสะดวกในการดำเนินการเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าการดำเนินการจะช่วยภาระงบประมาณของภาครัฐในการดูแลผู้สูงอายุในอนาคต
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กองบรรณาธิการ DDproperty.com