ตลาดอสังหาฯมือสองแนวรถไฟฟ้าเติบโตเลขสวย ชี้ราคาต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ในปัจจุบัน 30% เหมาะกับซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าระยาว ผลตอบแทนพุ่ง 30-100% ภายใน 5 ปี
นางสาวธัญญนันท์ ปัญญาสกุลวงศ์ ประธานจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ บางกอก เรซิเดนซ์ 88 จำกัด ผู้บริหารการขาย-เช่า เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสอง(รีเซล) มีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า เนื่องจากมีราคาที่ต่ำกว่าคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ เฉลี่ย 30% รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจในเรื่องการลงทุนอสังหาฯมีมากขึ้น พบว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อคอนโดเพื่อการลงทุนมีสัดส่วนที่มากขึ้น ประกอบกับราคาที่ดินใจกลางกรุงเทพฯ ที่ปรับสูงขึ้นและมีผลต่อราคาคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ที่แพงขึ้นเกือบเท่าตัว ทำให้เป็นผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียมมือสอง (รีเซล) ทำเลกรุงเทพฯ มีสภาพคล่องในการขายมากขึ้นเนื่องจากมีความต้องการจากลูกค้าที่ซื้ออยู่เองและลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนรับผลตอบแทนจากค่าเช่า ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่าซื้อคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ เนื่องจากราคาซื้อขายต่างกันตั้งแต่ 30-100% ตามราคาที่ดินที่แพงขึ้นเพราะที่ดินเริ่มหายาก
โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทสามารถปิดการขายคอนโดมิเนียมมือสองไปได้แล้วกว่า 700 ยูนิต ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ล้านบาท หรือรวมแล้ว 2,200 ล้านบาท และมีรายได้จากค่านายหน้าแล้ว 70 ล้านบาท โดยเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% และคาดว่าทั้งปีจะปิดยอดขายได้ 3,500 ล้านบาท หรือมีรายได้จากค่านายหน้าราว 110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 80 ล้านบาท ปัจจุบันในพอร์ตจะเป็นคอนโดมิเนียม 90% ส่วนใหญ่ ซึ่งอยู่ใน 4 ทำเลหลักตามแนวรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน ได้แก่ สาทร สีลม อโศก สุขุมวิท พญาไท รัชดาภิเษก ลาดพร้าว
ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้า 50:50 เป็นซื้อเพื่ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า โดยให้อัตราผลตอบแทนอย่างต่ำ 6% (ขึ้นอยู่กับแต่ทำเล) ดีกว่าเงินฝากธนาคาร หรือซื้อกองทุนทหลักทรัพย์ และยังให้ผลตอบแทนดีกว่าซื้อคอนโดมิเนียมมือหนึ่งเพื่อปล่อยเช่า ซึ่งปัจจุบันให้ผลตอบดีสุดอยู่ที่ 4% และเชื่อว่าในระยะ 5 ปี จากนี้คอนโดมิเนียมรีเซล ยังมีโอกาสได้ส่วนต่างมูลค่าราคาที่เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 30% ด้วย
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในครึ่งปีหลัง มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยจัดแคมเปญ”เปิดโปง”และ”Catch me if you can”รวมถึงการการจัดโปรโมชั่น”ทัวร์ปุ๊ป จองปั๊ป รับเงินทันที” เพื่อชี้ให้เห็นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และวิธีการจะทำให้ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายสาขาการให้บริการเพิ่ม 2 สาขา ได้แก่ ทองหล่อ และ หลังสวน จากปัจจุบันที่มีอยู่จำนวน 5 สาขา ได้แก่ สาขาพญาไท สาทร รัชดา และที่เหลือเป็นการให้บริการในแบบเคลื่อนที่
นอกจากนี้ ทางบริษัทได้มีการริเริ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์ ภายใต้แบรนด์ ธัญญะทาวน์ และธัญญะแกรนด์ ย่านอุดมสุข – บางนา (สุขุมวิท 113) ทั้งหมด 3 โครงการ รวมมูลค่า 245 ล้านบาท เป็นโครงการขนาดย่อม แต่ละโครงการประมาณ 20 -30 ยูนิต ราคาเริ่ม 2.5 ล้านบาท ขึ้นไป โดยทั้ง 3 โครงการปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าในปีหน้าจะเปิดโครงการใหม่ เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ย่านอุดมสุข-บางนา เพิ่ม อีก 1 โครงการ ทั้งนี้ ยังได้พัฒนาโรงแรมในเครือ “เพลยเฮ้าส์ ทองหล่อ” บูทีคโฮลตั้งอยู่ใจกลางทองหล่อ ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งหมด 21 ห้อง โดยอัตราค่าพักต่อคืนจะอยู่ที่ 2,500 บาท
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com