[สัมภาษณ์พิเศษ] ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับบนนั้นค่อนข้างดุเดือดมากขึ้น บางโครงการนอกเหนือจากทำเลต้องโดดเด่นเป็นจุดขายแล้ว ผู้ประกอบการเองต้องหากลยุทธ์แปลกใหม่มาสร้างความแตกต่าง อย่างการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ การออกแบบที่ล้ำสมัยจากดีไซน์เนอร์ในต่างประเทศ เพื่อจับลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อสูง ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือต่างชาติก็ตาม
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) พูดถึงโครงการ 98 Wireless คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ที่ถือเป็น Flagship คอนโดมิเนียมของแสนสิรินั้นใช้เวลาในการฟูมฟักมากว่า 7 ปี เริ่มจากการซื้อที่ดิน การออกแบบโครงการ จนกระทั่งการก่อสร้าง ซึ่งมีจำนวนห้องชุดเพียง 77 ยูนิต แต่มูลค่าโครงการนั้นสูงถึง 8,700 ล้านบาท และเพื่อให้ 98 Wireless นั้น ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ทุกมุมมองทุกมิติแล้ว โครงการจึงให้ความสำคัญในแต่ละรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปแบบงานดีไซน์ การตกแต่งภายใน รูปแบบตัวอาคารแบบคลาสสิคที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบโบซาร์ (Beaux-Arts) ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมวิจิตรศิลป์และงานฝีมือชั้นสูง

ภาพด้านนอกโครงการ 98 Wireless โครงการคอนโดมิเนียม flagship ที่หรูที่สุดของค่ายแสนสิริในปัจจุบัน
ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของบริษัทสถาปนิกชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอย่าง dwp (Design Worldwide Partnership) พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษา Anne Carson Designs ที่ช่วยกำหนดคอนเซ็ปต์การออกแบบให้มีเอกลักษณ์ ด้วยสไตล์คลาสสิกตามแบบฉบับของ Ralph Lauren Home ตั้งแต่โถงทางเข้าไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคส่วนกลางของโครงการ ทั้งล็อบบี้เลานจ์ บิสซิเนสเลานจ์ และพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ พร้อมกันนี้ ยังได้ T.R.O.P. Terrain + Open Space มาร่วมออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมโดยรอบโครงการ
ทว่า ณ วันนี้ โครงการ 98 Wireless มียอดจองห้องชุดก่อนการเปิดตัว ซึ่งกวาดไปแล้วกว่า 50% โดยราคาขายเฉลี่ยปัจจุบันที่ 5.8 แสนบาท/ตารางเมตร หรือระดับราคา 70-650 ล้านบาท/ยูนิต โดยห้องที่มีราคาสูงสุดอยู่ที่ 650 ล้านบาทนั้น มีลูกค้าต่างชาติซื้อไปแล้วตั้งแต่ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ
จะว่าไปแล้วทำเลก็คือจุดขายของโครงการ เนื่องจากตั้งอยู่บนถนนวิทยุ รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า ธนาคาร โรงแรมชั้นนำ และสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทำให้ถนนวิทยุเปรียบเสมือนพาร์ค อเวนิวของกรุงเทพฯ และเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ แบบฟรีโฮลด์ใจกลางเมือง ซึ่ง ณ วันนี้ เรียกได้ว่าที่ดินแบบฟรีโฮลด์ใจกลางเมืองเหลือไม่กี่แปลงแล้ว
สำหรับห้องชุดที่ขายออกและเรียกความสนใจได้มากที่สุด ก็คือ เพนท์เฮ้าส์ และซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์ “The One” พื้นที่ใช้สอย 948 ตารางเมตร หรูหรา โอ่อ่า สมราคาที่เป็นคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายต่อตารางเมตรสูงสุดของประเทศในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นห้องขนาด 2 -3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ หรือซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์ ราคาขายประมาณ 6 แสนบาทต่อตารางเมตร ที่ผ่านมามีผู้ที่สนใจนัดแนะเข้ามาชมแบบ “เอ็กซ์คลูซีฟ” และสอยไปแบบเงียบๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ
แม้แสนสิริจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเศรษฐีคนไทยเป็นหลักถึง 80 % แต่ในสัดส่วนอีก 20% ที่หวังเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาตินั้น บริษัทเปิดกว้างสำหรับบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักทุกชาติ ไม่ว่าจะจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาธุรกิจในปี 2560 นี้ที่บริษัทต้องการขยายฐานลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
“จะว่าไปแล้ว ระดับราคาเฉลี่ยที่ 5.8 แสนบาทต่อตารางเมตรนี้ ยังถือเป็นราคาที่ดึงดูดใจตลาดต่างประเทศได้อย่างมากทีเดียว เพราะเมื่อเทียบกับประเทศใกล้เคียงอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง รวมถึงลูกค้าจากยุโรปแล้ว อสังหาฯในเมืองไทยก็ยังถือว่าถูกกว่ามาก และปัจจุบัน ห้องชุดในระดับลักซ์ชัวรี่กลายเป็นของสะสมในกลุ่มคนที่มีฐานะเพราะถือเป็นการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง และที่สำคัญโครงการ 98 Wireless ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวด้วยเช่นกัน”
เร็วๆ นี้ บริษัทมีแผนที่จะปรับราคาห้องชุดเพิ่มอีก 10% เป็นอย่างน้อย ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ายังคงอยู่ในระดับราคาที่ลูกค้ารับได้ ส่วนที่ว่าจะทำราคาขายถึงตารางเมตรละ 1 ล้านบาทหรือไม่นั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างสนับบสนุนไม่ว่าจะเป็นศักยภาพของทำเลและตัวโปรดักส์ของโครงการเอง
“ราคาขายเริ่มต้นเฉลี่ยตารางเมตรละ 5.8 แสนบาท แต่จะเพิ่มสูงขึ้นอยู่กับวิวและชั้น นอกจากนี้ยังมีห้องที่ตกแต่งแล้ว มีลูกค้าซื้อไปเรียบร้อย ราคาตารางเมตรละประมาณ 7.2 แสนบาท”
อสังหาฯ เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี ดีกว่าการฝากเงินเสียด้วยซ้ำ แต่จะให้ผลตอบแทนได้ดีแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการ หรือแม้กระทั่งโปรดักส์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมา แต่ขึ้นชื่อว่าอสังหาฯ แล้ว มีแต่เพิ่มมูลค่า โดยเฉพาะในย่านที่ที่ดินขาดแคลนแต่ดีมานด์กลับเพิ่มขึ้น อสังหาฯในมือที่คุณถืออยู่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้แน่นอน
>>อ่านรีวิวโครงการคอนโดมิเนียมในย่านบีทีเอสเพลินจิตได้ที่นี่<<
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน