Joint Venture กลยุทธ์สร้างจุดแข็งภาคอสังหาฯ ของเหล่าดีเวลลอปเปอร์

28 ส.ค. 2561

จากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคก็มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะในกลุ่มของผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุน ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างธุรกิจ ให้มีความยืดหยุ่นพร้อมรองรับได้กับทุกการเปลี่ยนแปลง

และเพื่อให้สามารถรักษาระดับอัตราการเติบโตของธุรกิจ และตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างครอบคลุมและตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ การร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กับกลุ่มทุนต่างชาติ หรือบริษัทที่มีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างรายได้จากส่วนอื่น เช่น ธุรกิจเช่า ธุรกิจรีเทล มาเสริม เป็นแนวทางที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต เป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ยังเป็นผลดีสำหรับผู้ซื้อ ที่จะมีโครงการที่มีความทันสมัย มีนวัตกรรมใหม่ๆ มีคุณภาพที่ดี มี Concept ที่ตรงกับความต้องการมาให้เลือกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าโครงการของผู้ประกอบการจะสามารถพัฒนาได้ตลอดรอดฝั่งด้วย

ความเคลื่อนไหวในการเข้าร่วมทุนในโครงการต่างๆ จากกลุ่มทุนหรือนักลงทุนจากต่างชาติ มีให้เห็นชัดเจนจากการดำเนินโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช รถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น ช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่อยู่ระหว่างการประมูลหาเอกชนมาลงทุนการให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงควบคู่กับพัฒนาที่ดินย่านมักกะสัน ยังมีความร่วมมือพัฒนาธุรกิจและสร้างนวัตกรรมทางด้านพลังงานและดิจิตอล เทคโนโลยี ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เพื่อพัฒนาไปสู่กรุงเทพเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ด้วย ซึ่งมีผลดีต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากต่างชาติกลุ่มต่างๆ มากยิ่งขึ้น

เอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ

เอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ

โดยหนึ่งในบริษัทที่น่าจับตา คือ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของประเทศไทย ที่นอกจากจะมีการประกาศร่วมทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ บนทำเลย่านสาทร และบนถนนสุขุมวิท กับบริษัทโตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ล่าสุดยังมีดีลสุดเซอร์ไพรส์กับ บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL) โดยเข้าลงทุนในทรัพย์สินของบริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL) ประกอบด้วย โครงการ S19 ถนนสุขุมวิท ซอย19 และ โครงการ S28 ถนนสุขุมวิท ซอย 28 แล้วเสร็จในปี 2566 นอกจากนี้ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติในการเข้าซื้อยูนิตที่เป็นยอดขายรอโอนและยูนิตที่ยังเหลืออยู่จากโครงการ Diplomat 39 และ Diplomat สาทร ตีเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท 

จากกรณีดังกล่าวนอกจากจะเป็นการปรับโครงสร้างเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าครั้งสำคัญของ RML ยังเป็นที่น่าจับตาด้วยว่าโครงการที่จะมีขึ้นในอนาคตจะมีความโดดเด่นล้ำสมัยเพียงใด

IMG_5582

ติดตามทุกเรื่องราวเกี่ยวกับอสังหาฯ โดยสามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน หรือดาวน์โหลดรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์และรายงานภาพรวมตลาดอสังหาฯ จากเรา เพื่อช่วยเพิ่มมุมมองในทุกมิติของการซื้อ – ขาย – เช่า

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

สนข. ร่วมมือ JICA ชงแผนรถไฟฟ้า M-MAP2

สนข.ร่วมมือ JICA ศึกษาและจะเสนอทิศทางนโยบายการจัดทำแผนแม่บทรถไฟฟ้า ระยะท

อ่านต่อ2 พ.ค. 2561