จากผลสำรวจ Thailand Consumer Sentiment Study ฉบับล่าสุดของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ถึง 72% ใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการหาซื้อบ้าน
โดยจากการร่วมทำแบบสอบถามของผู้บริโภคอายุตั้งแต่ 22-60 ปีขึ้นไป จำนวน 945 คน เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ค้นหา (Search) และค้นคว้าข้อมูล (Learn) เพื่อเปรียบเทียบ (Compare) โครงการและปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่ราคา ทำเล โปรไฟล์ของโครงการ ไปจนถึงใช้เครื่องมือออนไลน์ต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกก่อนตัดสินใจ อาทิ การคำนวณภาระการผ่อนหรือดอกเบี้ย
ค้นหาและเปรียบเทียบโครงการจากรีวิวโครงการใหม่
ในขณะที่มีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมด้านการเงินก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมากขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้นยังพบว่าอายุและรายได้เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในด้านต่าง ๆ ด้วย
‘โซเชียลมีเดีย’ แพลตฟอร์มยอดนิยมที่คนไทยใช้หาข้อมูล
พฤติกรรมพื้นฐานของผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการใด ๆ ก็ตาม คือการ “ค้นหา” ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ รวมถึงการซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูงที่ต้องให้ความสำคัญในการคัดเลือก โดยในภาพรวมพบว่า
อันดับ 1 คือโซเชียลมีเดีย 72% กระโดดจากการสำรวจครั้งก่อนอยู่ในอันดับ 3 ที่ 50%
อันดับ 2 คือเว็บไซต์ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 69% โดยครั้งที่ผ่านมาอยู่ในอันดับ 4 ที่ 43%
อันดับ 3 คือเว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์ อยู่ที่ 61% ซึ่งตกอันดับจากครั้งก่อนที่ติดอันดับ 2 ด้วยจำนวน 61% เท่ากัน
ผลการสำรวจครั้งล่าสุดนี้พบว่า ช่องทางการค้นหาข้อมูลของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมากจากครั้งก่อนที่อันดับหนึ่งคือการเข้าชมโครงการด้วยตนเองถึง 79% ตามด้วยเว็บพอร์ทัลอสังหาริมทรัพย์ โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ
โดยเมื่อเจาะลึกตามช่วงวัย พบว่า ผู้บริโภคอายุระหว่าง 22-29 ปี ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียค้นหาข้อมูลอสังหาฯ มากถึง 81% รองลงมาคือเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ 77% ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะ
คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลทางการเงิน
คำถามที่น่าสนใจและเพิ่มขึ้นมาสำหรับการสำรวจครั้งนี้คือ เมื่อต้องการซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลที่ผู้บริโภคค้นหามากที่สุดคืออะไร โดยในภาพรวมพบว่า 3 อันดับแรก คือ
– ราคา 83%
– ทำเล 72%
– ข้อมูลทางการเงิน 69%
สิ่งที่น่าสนใจคือพบว่ากลุ่มคนอายุระหว่าง 22-29 ปี ให้ความสำคัญกับข้อมูลทางการเงินถึง 78% อีกทั้งยังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภาษี 59% มาตรการของรัฐบาล 46% เอกสารและกระบวนการทางกฎหมาย 50% เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มต้นทำงานจึงยังไม่มีเงินออมมากนัก ข้อมูลดังกล่าวจึงมีความสำคัญมากสำหรับคนวัยนี้ มากกว่ากลุ่มคนอายุ 30-60 ปี ที่ค่อนข้างมีความพร้อมทางการเงินแล้ว
เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่
โครงการที่ดีต้อง ‘คุ้มค่า’
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกโครงการ ก็เป็นส่วนสำคัญทีผู้บริโภคต้องนำมาใช้พิจารณาเพื่อคัดเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างรอบด้านและคุ้มค่ากับการลงทุนให้มากที่สุด
3 ปัจจัยภายใน
– ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม./ตร.ว. 59%
– ขนาดของที่พักอาศัย 50%
– สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ 45%
โดยราคาและขนาดของที่พักอาศัยเป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคนำมาใช้พิจารณาเพื่อดูว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโครงการก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่นำมาใช้คัดเลือกด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องของการออกแบบโครงการ โปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่าง ๆ ยังไม่ใช่ส่วนสำคัญที่ใช้พิจารณาเป็นอันดับแรก ๆ
3 ปัจจัยภายนอก
– ทำเลของที่อยู่อาศัย 83%
– ความปลอดภัยของทำเล 65%
– โครงสร้างพื้นฐาน/สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ 62%
ทำเลของที่อยู่อาศัยยังครองแชมป์อันดับ 1 เช่นเดียวกับการสำรวจครั้งก่อนในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ตามด้วยความปลอดภัยของทำเล และโครงสร้างพื้นฐาน/สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบพื้นที่
นอกจากนี้ 25% ให้ความสำคัญเรื่องของการพัฒนาพื้นที่โดยรอบในอนาคต และอีก 23% สนใจเรื่องสินเชื่อบ้าน ทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจไม่น้อย ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมองไปถึงเรื่องของการลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต
ค้นหาทำเลที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
เกินครึ่งเริ่มออมเงินก่อนซื้อบ้าน
เมื่อวางแผนจะซื้อบ้านแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ “เงิน” ที่ต้องใช้ในการลงทุน จากการสำรวจครั้งล่าสุดนี้พบว่า คนส่วนใหญ่มีการเตรียมออมเงินก่อนที่จะค้นหาอสังหาริมทรัพย์ และเกินครึ่งเริ่มออมก่อนตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์
– 44% เริ่มออมเงินก่อนค้นหาอสังหาฯ
– 31% เริ่มออมหลังจากประเมินราคาอสังหาฯ
– 20% เริ่มออมเงินหลังจากตัดสินใจซื้ออสังหาฯ
คนส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก การวางแผนเก็บออมแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะเริ่มค้นหาบ้านที่ถูกใจ จะช่วยลดความกดดันทางด้านการเงินไปได้มากพอสมควรกว่าการเพิ่งเริ่มต้นออมเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านแล้ว
7 วิธีออมเงิน 10 ปี มีเงินเก็บ 7 หลัก
จากผลสำรวจพฤติกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ก่อนตัดสินใจซื้อหรือเช่าอสังหาฯ สักแห่ง ผู้บริโภคจะพิจารณาในหลายด้าน เพื่อหาสิ่งที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการในระยะยาว เพราะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง
อีกมุมหนึ่งคือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการได้ทราบว่าควรวางกลยุทธ์หรือพัฒนาโครงการอย่างไรให้เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า