วัดชีพจรอสังหาฯ ไทย หลังวิกฤติโควิด-19

15 พ.ค. 2563

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั๋น ประเทศจีน ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยก็ได้รับผลกระทบจากการที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนลดลง

จนถึงวันนี้การแพร่ระบาดได้กระจายไปทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่การสูญเสียผู้คนรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก แต่ยังส่งผลกระทบรุนแรงมหาศาลต่อเศรษฐกิจทั้งโลกอย่างประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

เกาะติดแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ในช่วงโควิด-19

sportlight

 

จีดีพีทั่วโลกติดลบ

Economic Intelligence Center หรือ EIC ของธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 2563 ว่าจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมีแนวโน้มหดตัวถึง 2.1% จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. ผลของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกที่รุนแรงขึ้น

2. มาตรการควบคุมที่เข้มงวดของหลายประเทศ

3. ตัวเลขเร็วจากเศรษฐกิจหลักที่แสดงถึงการหดตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจที่มากกว่าคาด จึงทำให้คาดว่าเศรษฐกิจโลกจึงมีแนวโน้มปรับแย่มากกว่าที่เคยคาดไว้เดิม

ขณะที่เศรษฐกิจไทยปี 2563 คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี จะหดตัวจนถึงขั้นติดลบที่ 5.6% ซึ่งมาจาก 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

1. เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

2. จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงมากกว่าคาด

3. ผลกระทบต่อการบริโภคจากการประกาศปิดเมือง

4. ผลจากมาตรการการเงินและการคลังล่าสุด รวมถึงมาตรการอัดฉีดเพิ่มเติมของภาครัฐผ่าน พ.ร.ก. กู้ฉุกเฉิน ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากการแพร่ระบาดจบเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จีดีพีของไทย มีโอกาสหดตัวลดลงอยู่ที่ 3.2% แต่ถ้าหากสถานการณ์รุนแรงและยืดเยื้อมากกว่าที่คาดไว้ ก็อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและภาคส่งออกของไทยปรับลดลงมากกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน จึงมีแนวโน้มทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2563 หดตัวได้มากถึง 7.2%

Chon non si-office building area-covid-19

เศรษฐกิจซบกระทบอสังหาฯ

จากเดิมที่ช่วงต้นปี พิษโควิด-19 กระทบตลาดอสังหาฯ ในกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน แต่เมื่อเหตุการณ์ลากยาวเป็นเวลาหลายเดือนจึงส่งผลกระทบต่อทั้งกลุ่มตลาดในประเทศด้วย เนื่องจากมีการลดค่าแรงไปจนถึงเลิกจ้างงานเกิดขึ้น จึงมีผลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ

โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ คาดว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศในปี 2563 อาจทำให้ภาพรวมหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ฯ ลดลงประมาณ 333,000-312,000 หน่วย หรือลดลง 11.1% ถึง 16.7% และมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ฯ ลดลง 755,000-726,000 ล้านบาท หรือลดลง 13.8% ถึง 17.1% ซึ่งจะมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ฯ ในรอบ 5 ปี แม้ว่ายังคงมีนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาฯ ในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองให้เหลือประเภทละ 0.01% อยู่ถึงปลายปี 2563 ก็ตาม

 

ผู้ประกอบการอสังหาฯ เร่งปรับตัว

นับตั้งแต่มีการขอความร่วมมือในการสร้าง social distancing มาจนถึง Physical distancing เพื่อความปลอดภัย ทำให้การออกมาดูโครงการถึงสถานที่จริงลดลงไปมาก ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาฯ หลายรายจึงได้ปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์

โดยมีการนำแพลตฟอร์มออนไลน์มาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าชมโครงการได้ในทุกรายละเอียดโดยใช้ VDO Streaming หรือ Virtual Reality โดยไม่ต้องมาถึงสถานที่จริงหรือสำนักงานขาย และสามารถเลือกเวลาเข้าชมได้ตลอด 24 ชัวโมง ไปจนถึงการพูดคุยกับฝ่ายขายผ่าน VDO Call หรือ Live Chat ได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งรองรับการขายได้ทั้งลูกค้าคนไทยรวมถึงลูกค้าต่างชาติที่ไม่สะดวกในการเดินทางก็สามารถซื้อได้เช่นกัน

นอกจากการเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ประกอบการหรือของโครงการเองโดยตรงแล้ว ยังมีการนำโซเชี่ยลเนตเวิร์คและช่องทางอีคอมเมิร์ซมาปรับใช้เพราะตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าในภาวะวิกฤตินี้ที่เลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์เป็นหลัก

เป็นไปได้ว่าในอนาคตหลังจากที่สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 จบลง เราจะเห็นพฤติกรรมการซื้อ-ขายอสังหาฯ ที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้น ช่องทางออนไลน์จะมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อกว่าที่ผ่านมาอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ช่องทางขายอสังหาฯ ผ่านอีคอมเมิร์ซอาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแผนทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการเท่านั้น

เจาะพฤติกรรมผู้ค้นหาบ้านออนไลน์ ก่อน-หลังเคอร์ฟิว

Stay wait in Covid-19

บทสรุปตลาดอสังหาฯ หลังวิกฤติโควิด-19

จากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Index Q2 2563 พบว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 2563 มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยมีสัญญาณมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่ราคาและอุปทานลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยท้าทายหลายด้านทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ จากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Index ยังพบว่า ดัชนีราคาและอุปทานในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ยังคงลดลง โดยดัชนีราคาลดลง 1% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลงถึง 9% ในรอบ 1 ปี ส่วนดัชนีอุปทานลดลงมาอยู่ระดับชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า

สัญญาณดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำนวนโครงการใหม่ของผู้ประกอบการ หรือโครงการบ้านมือสองจากฝั่งผู้บริโภคต่างลดน้อยลงในตลาด เนื่องจากมีการชะลอการนำสินค้าออกมาขายเพื่อรอผลตอบแทนที่ดีกว่าหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

ส่วนโครงการที่มีออกมาขายในตลาดแล้วต่างแข่งขันกันด้วยโปรโมชั่นลด แลก แจก แถมต่าง ๆ จึงเป็นโอกาสทองของผู้ซื้อที่มีความพร้อมที่จะได้บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงมาไว้ครอบครอง หรือขยายพอร์ตการลงทุน เพื่อรับผลประโยชน์จากมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต

ทำไมอสังหาฯ ไทย ยังน่าซื้อ-ลงทุน

ในภาพรวมตลาดอสังหาฯ คงไม่สามารถกลับมาคึกคักได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องใช้เวลาปรับตัวเพื่อฟื้นฟูทั้งสภาพจิตใจ เศรษฐกิจ และกำลังซื้อให้กลับมาดังเดิม แต่ไม่ว่าจะเจอวิกฤติหนักแค่ไหน เชื่อว่าเราจะสามารถผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน

 

ค้นหาคำตอบว่า ซื้อ-ขาย-เช่า บ้านหรือคอนโดฯ ในช่วงนี้ดีไหม? หรือเลือกรับบทความดีดี และอัปเดต ข่าวอสังหาฯ รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง หรือติดตามอีกหนึ่งช่องทางได้ที่ www.facebook.com/DDproperty

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

โควิด-19 คลาย ผ่อนปรนห้างใหญ่เปิดทำการ 17 พ.ค.นี้

(อัปเดตวันที่ 15/5/2563) ภาครัฐเคาะแล้วคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 2 อาทิ ห้างสรรพสิน

อ่านต่อ11 พ.ค. 2563

เช็กยอดขาย 4 บริษัทอสังหาฯ ในเดือนเมษายน

เดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา หลายบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังทำยอด

อ่านต่อ13 พ.ค. 2563