ล้างตู้เย็น เสร็จไว สะดวก ประหยัดเวลา ด้วย 8 ขั้นตอนง่าย ๆ

DDproperty Editorial Team
ล้างตู้เย็น เสร็จไว สะดวก ประหยัดเวลา ด้วย 8 ขั้นตอนง่าย ๆ
ล้างตู้เย็น ทำความสะอาดตู้เย็นให้เหมือนใหม่ เป็นปัญหาหนักอกหนักใจบรรดาพ่อบ้าน แม่บ้าน เพราะส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาเป็นวัน สูญเสียพลังงานในการจัดเก็บ คัดแยกอาหาร พร้อมทำความสะอาดเชื้อราให้สิ้นซาก แต่ต่อไปนี้การล้างตู้เย็นจะกลายเป็นเรื่องง่าย ที่สามารถทำได้รวดเร็ เพียงแค่รู้จักวิธี 8 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เริ่มต้นวิธีล้างตู้เย็น ด้วยการจัดสรรของกินแบบไม่ต้องเสียดาย

เป็นที่รู้กันดีว่า โรคเสียดายของมักเกิดขึ้นกับทุกบ้าน เรียกว่าซื้ออะไรมา มักจับยัดเข้าไปในตู้เย็น ในที่สุดก็เน่าคาตู้เย็น ส่งผลให้อาหารที่ยังไม่เน่าเสีย เจ้ากรรมดันกินไม่ได้ไปด้วย เหตุนี้เองก่อนที่จะไปลงมือทำความสะอาดล้างตู้เย็นแบบวิธีง่าย ๆ แนะนำให้แบ่งประเภทของกินที่กินได้กับไม่ได้เสียก่อน

2. ทิ้งของกินเน่าเสียให้สิ้นซาก

เมื่อแบ่งประเภทของกินที่อยู่ในสภาพสามารถนำมาปรุงเป็นอาหาร กับเอามากินไม่ได้แล้ว หรืออยู่ในสภาพเน่าเสีย แนะนำให้หาถุงขยะใบโต จัดการทิ้งให้สิ้นซาก โดยไม่ต้องหวังว่าจะสามารถกินได้ในวันข้างหน้า เพื่อให้การล้างตู้เย็นนั้นสมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจไว้
อาหารที่ไม่ควรแช่ตู้เย็นนาน
อาหารที่ไม่ควรแช่ตู้เย็นนานผลเสีย
แตงโมเป็นผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เมื่อโมเลกุลของน้ำโดนความเย็น จะทำให้มีความหนาแน่นมากขึ้น เนื้อแตงโมมีความฉ่ำน้ำ ชุ่มน้ำ และมีรสชาติแย่ลง
กล้วยดิบอุณหภูมิเย็นจะไปยับยั้งการสุกของกล้วย การรับประทานกล้วยดิบจะทำให้มีสารแทนนินสูง และมีแป้งที่เอนไซม์ไม่สามารถย่อยได้ ทำให้ท้องผูกได้
กระเทียมและหอมหัวใหญ่ การเก็บในตู้เย็นจะทำให้เน่าเสียเร็วกว่าเดิม เพราะในตู้เย็นมีความชื้น ทำให้เกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ ต่อตับ และสารก่อมะเร็ง
อาหารกระป๋องความชื้น และออกซิเจนในตู้เย็น ทำให้กระป๋องเกิดสนิม ปนเปื้อนกับอาหารที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ ต่อตับ และสารก่อมะเร็ง

3. เพื่อความปลอดภัย ดึงปลั๊กไฟตู้เย็นออก

ก่อนที่จะทำความสะอาดล้างตู้เย็นแบบเต็มขั้น หลังจากเคลียร์ของกินในตู้เย็นออกหมดแล้ว เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ถอดปลั๊กตู้เย็นออกเสียก่อน เพื่อป้องกันไฟดูด และยังทำให้น้ำแข็งในช่องแช่แข็งของตู้เย็นละลายได้เร็วกว่าเดิม หลังจากกดปุ่มละลายน้ำแข็ง
วิธีเลือกตู้เย็น

วิธีเลือกตู้เย็น

ก่อนล้างตู้เย็น อย่าลืมดึงปลั๊กตู้เย็นออก

4. ล้างตู้เย็น ใช้ฟองน้ำสะอาด เช็ดทำความสะอาดในตู้เย็น

นำถาดรองน้ำในตู้เย็นไปเทออก แล้วใช้ฟองน้ำหนานุ่ม เช็ดส่วนที่เลอะ หรือเศษอาหารตกหล่นในตู้เย็น ก่อนที่จะถอดชั้นวางของในตู้เย็น ไปทำความสะอาดด้านนอก ส่วนบริเวณที่เป็นเชื้อราตามยางขอบประตูตู้เย็นด้านใน สามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยเบกกิ้งโซดา
โดยนำเบกกิ้งโซดาไปละลายกับน้ำเปล่า แล้วนำผ้าสะอาดชุบส่วนผสมดังกล่าว มาเช็ดถูเชื้อราที่เกาะติด เพียงแค่นี้ก็สามารถขจัดเชื้อราในตู้เย็นไปได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้คราบเชื้อรากลับมา ให้นำสำลีชุบน้ำส้มสายชูทาบริเวณดังกล่าว แค่นี้ก็โบกมือลาเชื้อราได้อย่างถาวร

5. ทำความสะอาดประตูตู้เย็น ด้วยฟองน้ำเบา ๆ

เมื่อถอดชั้นวางของในตู้เย็น เพื่อเตรียมทำความสะอาดด้านนอกแล้ว อันดับต่อไปยังคงใช้ฟองน้ำหนานุ่ม ชุบน้ำหรือน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดประตูตู้เย็น ให้กลับมาขาวสะอาดดังเดิม แต่สำหรับบ้านหลังไหนที่มีตู้เย็นสีขาว ครีม แน่นอนว่าเมื่อนานวันไปจะปรากฏคราบเหลือง ไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยฟองน้ำชุบน้ำยาธรรมดา
ดังนั้น ทางที่ดีอาจใช้ตัวช่วยอย่างน้ำส้มสายชูมาเช็ดคราบเหลืองที่ฝังแน่น โดยนำน้ำส้มสายชูทาที่ประตูตู้เย็น จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด ตามด้วยผ้าสะอาดเช็ดอีกที เพียงแค่นี้ก็ได้ประตูตู้เย็นใหม่เอี่ยมอ่อง

6. นำชั้นวางของในตู้เย็น ออกมาทำความสะอาด

นำชั้นวางของในตู้เย็น ที่ถอดออกมาไว้ด้านนอก ที่ถูกแช่น้ำยาล้างจานระหว่างที่เช็ดถูทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ภายในตู้เย็น มาเช็ดถูทำความสะอาดด้วยฟองน้ำ หรือบางคนอาจจะนำไปล้างน้ำ พร้อมใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดเพื่อทำความสะอาด ก็จะทำให้การล้างตู้เย็นนั้นรวดเร็วและง่ายขึ้น
นำอาหารที่ยังเก็บรักษา กินได้ ใส่ภาชนะถนอมอาหารให้เรียบร้อย

7. นำอาหารที่ยังเก็บรักษา กินได้ ใส่ภาชนะถนอมอาหารให้เรียบร้อย

หลังจากทำความสะอาดล้างตู้เย็น ทั้งส่วนด้านในและด้านนอกเรียบร้อย สะอาดหมดจดแล้ว อันดับต่อไปเป็นการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับตู้เย็น เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งกุมขมับเผชิญกับตู้เย็นรก สกปรก เสียเวลานั่งทำความสะอาดครึ่งค่อนวัน ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงนำภาชนะถนอมอาหาร มาจัดแจงเก็บอาหารที่ยังอยู่ในสภาพที่กินได้ และเพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ แนะนำให้ใช้ถุงซิปล็อกมาช่วยเก็บอาหาร หรือผักต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น

8. เพิ่มความหอมให้ตู้เย็น หลังจากทำความสะอาดด้วยเมล็ดกาแฟ

เมื่อตู้เย็นอยู่ในสภาพที่ทำความสะอาดเรียบร้อย พร้อมจัดระเบียบการเก็บอาหารได้อย่างดีแล้ว อันดับต่อไปเพื่อเป็นการทำความสะอาดล้างตู้เย็นแบบสมบูรณ์แบบ จึงต้องคำนึงถึงเรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นด้วย โดยให้นำเมล็ดกาแฟมาใส่ภาชนะ แล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็น นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยอื่น ๆ เช่น ถ่านดูดกลิ่น เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายสายชู มะนาว ที่ช่วยกำจัดกลิ่นได้เช่นเดียวกัน เพียงเท่านี้ตู้เย็นก็สะอาด หอม น่าใช้ไปตลอดกาล
สำหรับใครที่เพิ่งซื้อบ้านหรือซื้อคอนโด แต่ตู้เย็นเจ้ากรรมในบ้านกำลังกลายเป็นที่เพาะพันธุ์เชื้อโรคและขยะ อันยากต่อการทำความสะอาด สามารถนำ 8 ขั้นตอนการทำความสะอาดล้างตู้เย็นดังกล่าวข้างต้น ไปช่วยเนรมิตให้ตู้เย็นกลับมาสะอาด เป็นระเบียบดังเดิมได้ ประหนึ่งเหมือนซื้อตู้เย็นใหม่เข้าบ้าน
ได้ตู้เย็นใหม่แล้ว อยากรู้ว่าลักษณะห้องครัวที่ดีสำหรับที่อยู่อาศัยที่ดีเป็นแบบไหน คลิกอ่านเลย
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

คำถามยอดนิยม

นำเบกกิ้งโซดาไปละลายกับน้ำเปล่า แล้วนำผ้าสะอาดชุบส่วนผสมดังกล่าว มาเช็ดถูเชื้อราที่เกาะติด

เบกกิ้งโซดาล้างตู้เย็นได้ นำน้ำส้มสายชูทาที่ประตูตู้เย็น จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด ตามด้วยผ้าสะอาดเช็ดอีกที

นำเมล็ดกาแฟมาใส่ภาชนะ แล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็น หรือใช้ถ่านดูดกลิ่น เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายสายชู มะนาว ก็ช่วยกำจัดกลิ่นได้เช่นเดียวกัน

ถ่านจะดูดกลิ่นตู้เย็นจะช่วยให้กลิ่นอับหรือกลิ่นคาวที่อยู่ในตู้เย็นค่อย ๆ จางลง

ควรล้างตู้เย็นเดือนละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความสะดวกแและเหมาะสม