ภาษีโรงเรือน คืออะไร ปัจจุบันแม้ว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินจะยกเลิกใช้ไปแล้ว เนื่องจากมีการมาใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทน แต่บทความนี้ถือเป็นบทความเพื่อศึกษาและเรียนรู้ว่าแต่เดิมนั้นภาษีโรงเรือน คืออะไร มีการจัดเก็บอย่างไร ต้องจ่ายเมื่อไหร่ และหากมีอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข จะมีขั้นตอนการชำระภาษีอย่างไร เพื่อไม่ให้พลาดจนต้องถูกหน่วยงานของรัฐทวงถามย้อนหลัง
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- ภาษีโรงเรือน คืออะไร
- ภาษีโรงเรือนและที่ดิน มีวิธีการคำนวณอย่างไร
- ภาษีโรงเรือนและที่ดิน มีขั้นตอนการเสียภาษีอย่างไร
- ภาษีโรงเรือนและที่ดิน โทษและค่าปรับหากไม่เสียภาษี
ภาษีโรงเรือน คืออะไร
ภาษีโรงเรือน คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่า เปิดกิจการ และ/หรือให้บริการจากหอพัก, โรงเรียน, ธนาคาร, โรงพยาบาล และสถานประกอบการต่าง ๆ มีชื่อเต็ม ๆ ว่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน (Building and Land Tax)
โดยเจ้าของทรัพย์สินต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินเมื่อใช้ประโยชน์จากโรงเรือนหรือที่ดินนั้น ยกเว้นบ้านที่อยู่อาศัยเองและทรัพย์สินที่ถูกยกเว้นตามกฎหมาย
โดยเหตุผลที่มีการปรับเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีจากภาษีโรงเรือนและที่ดิน เป็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนนั้น เนื่องจากต้องการ
- ลดความเหลื่อมล้ำของคนรวยและคนจน
- แก้ปัญหาที่ดินรกร้าง ให้นำมาใช้ประโยชน์มากขึ้น
- เพิ่มรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้ประชาชนตรวจสอบการทำงานของรัฐ ในการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นธรรมในท้องถิ่น
ภาษีโรงเรือนและที่ดินต้องชำระที่ไหนและเมื่อไหร่
ภาษีโรงเรือน คือ ภาษีท้องถิ่นที่ต้องชำระให้กับสำนักงานเขตหรือเทศบาลที่โรงเรือนหรือที่ดินนั้นตั้งอยู่ โดยการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินนั้นเป็นแบบรายปี
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถยื่นภาษีได้ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีที่มีการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินนั้นในปีก่อนหน้า เช่น มีบ้านปล่อยเช่าตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 รวม 3 เดือน เจ้าของทรัพย์สินก็ต้องยื่นภาษีโรงเรือนและที่ดิน ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562
โดยหน่วยงานส่วนท้องถิ่นบางแห่งมีบริการที่ช่วยให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถยื่นได้อย่างสะดวกสบาย เช่น สำนักงานเขตบางแห่งในกรุงเทพฯ มีบริการยื่นแบบผ่านไปรษณีย์และชำระค่าภาษีผ่านตู้เอทีเอ็มหรือแอปพลิเคชันของธนาคารได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานเขต
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน มีวิธีการคำนวณอย่างไร
รู้จักภาษีโรงเรือน คืออะไร ชำระที่ไหน เมื่อไหร่ กันไปแล้ว มาดูอัตราภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ต้องจ่าย ในปัจจุบันคือ 12.5% ของค่ารายปี ซึ่งค่ารายปีนั้นมาจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ โดยมีหลักเกณฑ์และตัวอย่างการคำนวณดังนี้
1. กรณีให้เช่าโรงเรือนหรือที่ดิน
หากทรัพย์สินนั้นมีค่าเช่า เช่น บ้านเช่าหรือหอพัก ให้ใช้สูตร
(ค่าเช่าต่อเดือน x จำนวนเดือนที่ประกอบการ) x 12.5% = ภาษีที่ต้องจ่าย
ตัวอย่าง บ้านปล่อยเช่าในราคา 5,000 บาท/เดือน โดยปล่อยเช่ามาแล้ว 9 เดือน จะได้ (5,000 x 9) x 12.5% = ภาษีที่ต้องเสีย 5,625 บาท
2. กรณีโรงเรือนหรือที่ดินที่ใช้ประโยชน์อื่น ๆ
หากทรัพย์สินนั้นเป็นสถานประกอบการ หรือนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่สามารถประเมินค่ารายปีได้จากค่าเช่า ให้ใช้สูตร
((พื้นที่หน่วยตารางเมตร x อัตราทำเล) x จำนวนเดือนที่ประกอบการ) x 12.5% = ภาษีที่ต้องจ่าย
โดยอัตราทำเลนั้นเกิดจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ซึ่งแต่ละเขตพื้นที่จะแตกต่างกัน
ตัวอย่าง ร้านค้าขนาด 150 ตารางเมตร เปิดกิจการมาตลอดทั้งปี และสมมุติว่าเจ้าหน้าที่ประเมินอัตราทำเลไว้ตารางเมตรละ 60 บาท จะได้ ((150 x 60) x 12) x 12.5% = ภาษีที่ต้องเสีย 13,500 บาท

ภาษีโรงเรือนและที่ดิน มีขั้นตอนการเสียภาษีอย่างไร
1. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องยื่นแบบแจ้งรายการเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภ.ร.ด. 2) ให้สำนักงานเขตหรือเทศบาลที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ พร้อมเอกสารที่ใช้ประกอบการเสียภาษีดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาโฉนดที่ดินที่ปลูกโรงเรือน
- สำเนาสัญญาซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือสำเนาสัญญาการเช่า
- เอกสารการจดทะเบียนอื่น ๆ ที่แสดงถึงการใช้ประโยชน์ต่อสิ่งปลูกสร้าง เช่น ทะเบียนพาณิชย์ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือใบอนุญาตใช้สถานที่ขายอาหาร เป็นต้น
- ใบเสร็จรับเงินชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินปีที่แล้ว (ถ้ามี)
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายบ้านและที่ดิน
หนังสือสัญญาจะซื้อจะขายบ้านและที่ดิน ที่ผู้ซื้อและผู้ขาย 2 ฝ่ายควรรู้ มีอะไรบ้าง เช็กได้ที่นี่
2. เจ้าหน้าที่ทำการตรวจพิจารณาแบบที่ยื่นมา และอาจเรียกให้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม (ถ้าต้องการ) โดยเจ้าหน้าที่จะกำหนดประเภททรัพย์สินและค่ารายปีของทรัพย์สินนั้น เพื่อประเมินภาษีที่ต้องให้ผู้ยื่นชำระ
3. หลังขั้นตอนการประเมินเสร็จสิ้นผู้ยื่นภาษีจะได้รับแบบแจ้งรายการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภ.ร.ด. 8) และต้องชำระภาษีตามที่แจ้งภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับแบบ ภ.ร.ด. 8
4. หากผู้ยื่นภาษีไม่พอใจกับจำนวนเงินที่ต้องชำระ สามารถยื่นคำร้องขออุทธรณ์ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการประเมินภาษีใหม่ได้ ซึ่งต้องกระทำภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับแบบ ภ.ร.ด. 8
5. เมื่อชำระภาษีเสร็จสิ้น ผู้ยื่นจะได้ใบเสร็จรับเงินซึ่งนำไปใช้ประกอบการยื่นแบบ ภ.ร.ด. 2 ในปีต่อไป
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน โทษและค่าปรับหากไม่เสียภาษี
อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นว่า ภาษีโรงเรือน คือ ภาษีที่เจ้าของทรัพย์สินต้องจ่าย ซึ่งถ้าหากละเลยย่อมมีโทษ จ่ายค่าปรับกรณีไม่
1. ผู้ที่ละเลยไม่ยื่นแบบ ภ.ร.ด. 2 ตามเวลาที่กำหนดจะมีโทษปรับ 200 บาท และถูกเรียกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินย้อนหลังตามจำนวนปีที่ละเลยไม่เกิน 10 ปี
2. ผู้ที่ยื่นแบบ ภ.ร.ด. 2 เป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจะมีโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเรียกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินย้อนหลังตามจำนวนปีที่เป็นเท็จไม่เกิน 5 ปี
3. ผู้ที่ชำระภาษีล่าช้าเกินกำหนด 30 วันนับจากวันที่ได้รับแบบ ภ.ร.ด. 8 ต้องเสียภาษีเพิ่มดังนี้
ระยะเวลา | เสียภาษีเพิ่ม |
ล่าช้าไม่เกิน 1 เดือน | 2.5% ของภาษีที่ค้างชำระ |
ล่าช้าเกิน 1 เดือน แต่ไม่เกิน 2 เดือน | 5% ของภาษีที่ค้างชำระ |
ล่าช้าเกิน 2 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน | 7.5% ของภาษีที่ค้างชำระ |
ล่าช้าเกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 4 เดือน | 10% ของภาษีที่ค้างชำระ |
ล่าช้าเกิน 4 เดือนขึ้นไป | อายัดทรัพย์สินหรือขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องออกหมายยึด |
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับภาษีโรงเรือน คืออะไร ขั้นตอนการยื่นภาษีโรงเรือนและที่ดิน รวมทั้งรายละเอียดอื่น ๆ ที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์และกิจการต่าง ๆ เคยต้องจ่ายภาษีตามหลักเกณฑ์นี้ ซึ่งภาษีเหล่านี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นที่เจ้าของทรัพย์สินกำลังใช้ประโยชน์ให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่หาซื้อสังหาริมทรัพย์ อาทิ บ้าน, คอนโด และที่ดิน ผู้ซื้อก็สามารถตระหนักถึงภาษีที่ดินที่จะต้องจ่ายได้ในทันที อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ที่นี่
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ