เงินเดือน 15,000 ซื้อบ้านได้ไหม บ้านแบบไหนเหมาะกับคนวัยทำงาน

เงินเดือน 15,000 บาท ซื้อบ้านได้ไหม คงเป็นคำถามในใจของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนวัยทำงาน ที่เพิ่งเริ่มต้นก้าวแรก มีเงินเดือนไม่สูงนัก แต่อยากมี "บ้าน" เป็นของตัวเองสักหลัง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่วางแผนซื้อบ้านหรือคอนโด บทความนี้ได้รวบรวมทุกเรื่องควรรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่ต้องพิจารณา รวมทั้งวิธีเตรียมตัวซื้ออสังหาริมทรัพย์ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ เพื่อให้ได้บ้านหรือคอนโดที่ใช่และผ่อนจ่ายไหว มาดูกันว่าผู้ที่มีรายได้เงินเดือน 15,000 บาท จะซื้อบ้านหรือคอนโดแบบไหนได้ และต้องดูอะไรบ้าง

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่เริ่มทำงาน (First jobber) หรือทำงานมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว การวางแผนซื้อบ้าน-คอนโดสักแห่ง ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและคิดคำนวณอย่างรอบคอบ โจทย์ที่ว่า "เงินเดือน 15,000 บาท ซื้อบ้านได้ไหม" เริ่มแรกต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญก่อน เพื่อให้รู้ว่า "บ้าน" หรือ "คอนโด" แบบไหน ที่ตอบโจทย์และเข้าเกณฑ์ความต้องการของคุณบ้าง

"อยากได้บ้านอยู่แถวไหน" คือคำถามแรกที่คุณควรมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว เมื่อคุณวางแผนซื้อบ้านหรือคอนโด จุดประสงค์ก็เพื่ออยู่อาศัยและเดินทางไปทำงานได้สะดวก ทำเลบ้านหรือคอนโดที่น่าจะตอบโจทย์คนวัยทำงานจึงควรตั้งอยู่บริเวณที่ไม่ไกลจากย่านธุรกิจใจกลางเมืองหรือ CBD เท่าไหร่ เพื่อทุ่นค่าเดินทางให้น้อยลง

ถึงอย่างนั้น ก็ต้องยอมรับว่าบ้านหรือคอนโดที่ตั้งอยู่บนทำเลทองเช่นนั้นย่อมมีราคาสูงตามไปด้วย การเลือกซื้อบ้านในย่านนั้นโดยตรงจึงอาจยังไม่ตอบโจทย์ผู้ที่มีเงินเดือนในช่วง 15,000-20,000 บาท

ดังนั้น แนะนำว่าควรเลือกทำเลห่างจากใจกลางเมืองออกมาหน่อย แต่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ถนนใหญ่ หรือทำเลที่การคมนาคมสะดวก ไม่ต้องเสียค่าเดินทางหลายต่อ

ทั้งนี้ ต้องติดตามราคาที่ดินของทำเลแต่ละแห่งด้วยว่ามีอัตราขึ้นสูงมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้คิดคำนวณหรือคาดการณ์เกี่ยวกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อด้วย

เงินเดือน 15,000 บาท ซื้อบ้านได้ไหม คำตอบของเรื่องนี้อาจไม่ได้ดูแค่รายได้ประจำที่ได้รับเท่านั้น แต่ต้องพิจารณามูลค่าสินทรัพย์ที่ต้องการเป็นเจ้าของ รวมทั้งการขอยื่นกู้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ โดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินจะอนุมัติวงเงินกู้ให้ผู้มีรายได้ประจำที่สามารถแบกรับภาระหนี้สินได้ 40% ของรายได้ทั้งหมด

หากอยากรู้ว่า "เงินเดือน 15,000 บาท ซื้อบ้านได้ไหม" นั้น ก่อนอื่นต้องกำหนดก่อนว่า

เมื่อได้ข้อมูลทั้ง 3 อย่างตามข้างต้นนี้แล้ว มาเริ่มคำนวณหาวงเงินอนุมัติยื่นกู้ ซึ่งมี 2 ขั้นตอน ดังนี้

– ขั้นตอนแรก สูตรคำนวณหาจำนวนเงินผ่อนต่อเดือน

เงินเดือน x 40% = จำนวนเงินผ่อนต่อเดือน

– ขั้นตอนสอง สูตรคำนวณวงเงินกู้สินเชื่อบ้านสูงสุด

(จำนวนเงินผ่อนที่เราจ่ายไหว x 1,000,0000) ÷ 7,000 = วงเงินกู้สินเชื่อบ้านสูงสุด

หมายเหตุ: หลักการเบื้องต้นในการประเมินวงเงินกู้จะคิดจากจำนวนเงินที่ผู้กู้มีความสามารถผ่อนได้ในแต่ละงวดในอัตราส่วน จำนวนเงินผ่อนต่องวด 7,000 บาท ต่อยอดหนี้ 1,000,000 บาท

ยกตัวอย่างเช่น คุณทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งมาครบ 2 ปี มีรายได้ประจำเดือนละ 15,000 บาท ต้องการเงินที่ผ่อนไหว และวงเงินกู้สินเชื่อบ้านที่ธนาคารจะอนุมัติเบื้องต้น โดยมีวิธีคำนวณดังนี้

15,000 x 40% = 6,000 บาท

ในกรณีที่ผู้กู้บ้านมีภาระหนี้สินที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระอยู่แล้ว เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 2,000 บาท ต้องนำหนี้สินที่อยู่ระหว่างการผ่อนอยู่นี้มาลบออกจาก 6,000 บาทข้างต้นด้วย ทำให้ผู้กู้เหลือความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลงต่อเดือน คือ

6,000-2,000 = 4,000 บาท

ถ้าผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุด 6,000 บาทต่อเดือน วิธีคิดวงเงินกู้สูงสุดของการกู้ซื้อบ้าน

(1,000,000 x 6,000) ÷ 7,000 = 857,143 บาท

ผู้กู้ที่มีความสามารถในการผ่อนชำระต่องวดสูงสุด 6,000 บาท จะสามารถขอวงเงินกู้ได้สูงสุด 857,143 บาท ดังนั้น โครงการที่ซื้อได้คือบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท

สิ่งอำนวยความสะดวก หรือ Facility ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นมากกว่าการจ่ายเงินซื้อที่อยู่อาศัย แต่เรายังซื้อสังคมและบริการที่ยกระดับคุณภาพชีวิต 9 สิ่งอำนวยความสะดวกที่ควรมีในโครงการบ้าน-คอนโด

ปัจจุบันโครงการบ้านและคอนโดหลายแห่งต่างสร้างจุดแข็งของโครงการตัวเอง โดยนำสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี มีคุณภาพ และหาไม่ได้จากที่อื่น มาเป็นจุดขาย สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นล้วนเติมเต็มชีวิตความเป็นอยู่ของผู้อาศัยพร้อมสรรพ เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำวิวพาโนรามา Co-working space

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าจะเลือกโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างให้ตรงใจตนเอง และแน่นอนว่ายิ่งสิ่งอำนวยความสะดวกพรีเมียมมากแค่ไหน ราคาก็ย่อมสูงตาม รวมไปถึงค่าส่วนกลางที่สูงกว่าโครงการอื่นด้วย

แม้สไตล์การออกแบบจะเป็นเรื่องของรสนิยม ดูเกี่ยวข้องกับเงินเดือนในการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดน้อยมาก แต่จริง ๆ แล้ว ลักษณะการออกแบบยังเป็นตัวกำหนดช่วงราคาสินทรัพย์ที่เราจ่ายไหวหรือไม่ได้ด้วย ต้องยอมรับว่าโครงการบ้านหรือคอนโดบางแห่งให้ความสำคัญกับการลงรายละเอียดดีไซน์ ซึ่งครอบคลุมไปถึงวัสดุที่นำมาใช้สร้าง เพื่อดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ นี่เองที่ทำให้ราคาของบ้านประเภทเดียวกันแต่ต่างสไตล์หรือใช้วัสดุคนละเกรดมีราคาต่างกันพอสมควร

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า เงินเดือน 15,000 บาท ซื้อบ้านหรือคอนโดได้ โดยต้องศึกษาและวางแผนเตรียมการให้ดี เพื่อขอยื่นกู้ต่อไป เคล็ดลับในการเตรียมตัวสำหรับเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดที่เราสามารถจ่ายได้ไหว ทำได้ดังนี้

1. รู้ความสามารถการกู้ของตนเอง เลือกที่อยู่อาศัยที่นอกจากจะตรงใจแล้ว ต้องเลือกให้เหมาะกับความสามารถในการผ่อนด้วย

2. เก็บออมเงินดาวน์ การซื้อบ้าน-คอนโดจะต้องมีเงินดาวน์ ดังนั้นจึงควรที่จะเก็บออมเงินเป็นค่าดาวน์บ้านหรือคอนโดไว้ด้วย

3. เดินบัญชีธนาคารให้สวย ธนาคารจะขอดูบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งทำให้ในช่วง 6 เดือนนี้ควรจะมีเงินคงไว้ในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ

4. ชำระหนี้ให้ตรงเวลา อีกข้อที่ธนาคารจะตรวจสอบคือ “เครดิตบูโร” ซึ่งจะมีประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ย้อนหลัง 2 ปี ใน 2 ปีก่อนที่ยื่นกู้ซื้อบ้าน ควรชำระเงินให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้มีประวัติทางการเงินที่ไม่ดี ตรวจเครดิตบูโรได้ที่ไหนบ้าง ?

5. ปิดบัญชีหนี้ให้หมดก่อนยื่นกู้ หากมีภาระหนี้อื่น จะทำให้วงเงินกู้สินเชื่อบ้านต่ำลง ทางที่ดีควรปิดหนี้อื่น ๆ ให้หมดก่อนยื่นกู้ซื้อบ้าน

6. เตรียมเอกสาร สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงานให้พร้อม การเตรียมเอกสารต่าง ๆ บางครั้งต้องใช้เวลา การเตรียมตัวเรื่องเอกสารล่วงหน้าจึงทำให้การยื่นกู้ซื้อบ้านรวดเร็วขึ้น

7. หาผู้กู้ร่วม หากคุณวางแผนซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป แน่นอนว่ายื่นกู้คนเดียวไม่สามารถทำได้ จึงอาจต้องใช้วิธีนี้หาผู้กู้ร่วมที่เป็นสมาชิกในครอบครัว สามีหรือภรรยา มาช่วยร่วมกู้ทำให้วงเงินสินเชื่อบ้านสูงขึ้น

การซื้อบ้านต้องอาศัยการวางแผนรัดกุม ทั้งเรื่องงบประมาณ ความรับผิดชอบในการผ่อนจ่าย ตลอดจนเลือกสรรบ้านที่ดี มีคุณภาพ และตรงใจ จึงควรศึกษาและเตรียมตัวเองให้พร้อมในเรื่องวินัยทางการเงิน เพื่อให้เมื่อถึงเวลาทุกอย่างจะได้ราบรื่น