3 ข้อควรคิดก่อนทำประกัน

13 ก.ค. 2560

“หากต้องการทำทุนประกันสูง เพื่อคุ้มครองครอบครัว แนะนำทำ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ควบคู่กับ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือต้องการทำประกันเพื่อเป็นทุนการศึกษาบุตร แนะนำทำ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ควบคู่กับ ประกันการศึกษาบุตร” 

ปัจจุบันมีรูปแบบประกันชีวิตที่หลากหลาย แต่เนื่องจากเรามีเงินในกระเป๋าที่จำกัด การเลือกแบบประกันให้ตรงใจหรือตรงตามวัตถุประสงค์ของตัวเราจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง K-Expert มีหลักในการเลือกแบบประกันง่ายๆ มาฝาก 3 ข้อด้วยกันคือ วัตถุประสงค์ต้องใช่ ทุนประกันต้องได้ และจ่ายเบี้ยต้องไหว

วัตถุประสงค์ต้องใช่

ประกันชีวิตสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบด้วยกันคือ

– แบบชั่วระยะเวลา
– แบบตลอดชีพ
– แบบสะสมทรัพย์
– แบบบำนาญ

หลายคนอาจเกิดคำถามว่าจำเป็นต้องทำประกันชีวิตให้ครบทั้ง 4 รูปแบบหรือไม่ คำตอบคือ ไม่จำเป็น แต่เราควรทำให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของเราว่าเราทำประกันชีวิตเพื่ออะไร

กรณีที่ต้องการทำประกันเพื่อสร้างความคุ้มครองตัวเอง แนะนำให้ทำประกันชีวิตแบบที่มีเงินทุนไว้ใช้จ่ายในอนาคต เช่น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือต้องการความมั่นใจว่าหลังเกษียณมีเงินให้ใช้จ่ายแน่นอน สามารถทำ ประกันชีวิตแบบบำนาญ ทั้งนี้ ประกันชีวิตแบบบำนาญจะเริ่มจ่ายเงินให้เป็นรายงวดเมื่อผู้เอาประกันอายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์)

ผู้ที่มีครอบครัว หากต้องการทำประกันเพื่อสร้างความคุ้มครองให้กับครอบครัวที่รัก สามารถทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นพื้นฐาน ซึ่งเป็นแบบประกันที่เน้นความคุ้มครองตนเอง แล้วทำควบคู่กับประกันแบบอื่นตามความจำเป็นของตัวเรา เช่น กรณีที่ต้องการสร้างหลักประกันคุ้มครองครอบครัว แนะนำทำ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ควบคู่กับ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ซึ่งแบบตลอดชีวิตเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองสูงเมื่อเทียบกับเบี้ยประกัน

กรณีที่มีลูก หากต้องการสร้างหลักประกันว่าลูกจะได้รับการศึกษาตามที่ตั้งใจไว้ แนะนำทำ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ควบคู่กับ ประกันการศึกษาบุตร โดยส่วนใหญ่ ประกันการศึกษาบุตรจะกำหนดจำนวนเงินจ่ายคืนในแต่ละปีตามอายุของบุตรเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนในแต่ละระดับการศึกษา ทั้งนี้ ประกันการศึกษาบุตร ผู้เอาประกันคือบุตร คุณพ่อคุณแม่จะไม่สามารถนำค่าเบี้ยประกันมาหักลดหย่อนภาษีได้

หากกำลังผ่อนบ้านหรือตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน แล้วไม่ต้องการให้ภาระหนี้ก้อนหนี้ตกไปยังลูกหลาน ทายาท หรือครอบครัว ก็ควรทำประกันแบบชั่วระยะเวลา หรือประกันคุ้มครองหนี้สิน ซึ่งค่าเบี้ยประกันไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับมูลค่าบ้านในฝันทั้งหลังของเรา

Excited Children Arriving Home With Parents

ความคุ้มครองต้องได้
กรณีต้องการทำประกันคุ้มครองครอบครัว ทุนประกันที่เหมาะสมจะพิจารณาจากระยะเวลาที่ครอบครัวจะใช้ในการปรับตัวหรือสามารถดำรงชีวิตได้อย่างไม่เดือดร้อน แม้ว่าผู้นำครอบครัวหรือผู้หารายได้หลักจะจากไปแล้วก็ตาม สามารถคำนวณทุนประกันได้จาก

รายได้ต่อปี x จำนวนปีที่คาดว่าจะใช้ในการปรับตัว

ซึ่งโดยทั่วไปใช้หลัก 3 ปีเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ สมมติรายได้อยู่ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อปี ตามเกณฑ์มาตรฐานก็ควรทำทุนประกันที่ 3 ล้านบาท เป็นต้น

สำหรับกรณีที่ต้องการทำประกันเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูก ทุนประกันที่เหมาะสมจะคำนวณจากค่าใช้จ่ายในการศึกษาทั้งหมดของลูกจนลูกเรียนจบระดับการศึกษาที่เราตั้งใจไว้ ก็ทำทุนประกันให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายดังกล่าว

จ่ายเบี้ยต้องไหว
ผู้ที่ต้องการทำประกันเพื่อคุ้มครองทั้งตนเองและครอบครัว หากต้องการทำทุนประกันสูง แล้วเลือกทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เพียงแบบเดียว เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายจะสูงมาก ซึ่งหากจ่ายเบี้ยไหว ก็คงไม่เป็นปัญหา แต่หากระยะยาว รายได้ลดลงหรือรายได้ขาดหายไปในบางช่วง อาจทำให้ไม่สามารถจ่ายชำระค่าเบี้ยประกันภัยได้ตลอด ก็จะเสียประโยชน์หรือประกันขาดผลบังคับได้ จึงแนะนำว่าควรทำเป็นประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เพื่อคุ้มครองตนเอง ควบคู่กับประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เพื่อคุ้มครองครอบครัว ซึ่งจะช่วยให้จ่ายเบี้ยประกันภัยโดยรวมเป็นจำนวนเงินที่ไม่สูงมากนัก

ดังนั้น การทำประกัน นอกจากทุนประกันที่ต้องพิจารณาทำให้ครอบคลุมความเสี่ยงหรือความต้องการของตัวเองแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาความสามารถในการชำระเบี้ยประกันด้วย เพื่อไม่ให้ค่าเบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายกลายเป็นภาระทางการเงินในอนาคต

การทำประกันที่ดีเปรียบได้กับการจัดพอร์ตการลงทุนที่ควรกระจายเงินลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ควรให้เงินลงทุนทั้งหมดกระจุกที่สินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น การทำประกันก็เช่นกัน ควรพิจารณาวัตถุประสงค์ในการทำประกัน เพื่อเลือกแบบประกันได้เหมาะสม และจ่ายเบี้ยประกันไม่สูงเกินความสามารถของตัวเอง

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ประกันชีวิต แหล่งเงินกู้ที่หลายคนไม่รู้

“ประโยชน์ของประกันชีวิต นอกจากจะให้ความคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังให้สิทธิ

อ่านต่อ15 มิ.ย. 2559

สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมสำหรับคุณแม่คลอดบุตร

“คุณพ่อ คุณแม่ที่อยู่ในระบบประกันสังคมทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ สาม

อ่านต่อ11 ก.ค. 2560