แนวโน้มธุรกิจ E-Commerce ควบคุมทุกเซ็กเมนต์ แถมยังโตไม่หยุดยั้ง

Araya 29 ก.ย. 2560

แนวโน้มธุรกิจ E-Commerce ควบคุมทุกเซ็กเมนต์ แถมยังโตไม่หยุดยั้ง

ไฮไลท์…

– ธุรกิจ E-Commerce ในอีก 6 ปีข้างหน้า คาดว่าจะโตกว่าปัจจุบันถึง 3 เท่า
– คนไทยนิยมเสพสื่อออนไลน์ โดย 3 อันแรกคือ YouTube (97.1%), Facebook (96.6%) และ Line (95.8%)
– ภาคอสังหาฯ ตอบรับธุรกิจ E-Commerce ด้วยการปรากฎช่องทางหนุนการขาย ผ่าน eProperty Track พร้อมอำนวยความสะดวกผู้ซื้อที่อยู่อาศัยด้วย Online Booking

(สกู๊ปพิเศษ) ธุรกิจ E-Commerce เรื่องแสนใกล้ตัว ที่ไม่ควรมองข้าม สืบเนื่องจากทุกวันนี้กำลังเป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการแทบทุกเซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นด้านสินค้าเพื่ออุปโภค บริโภค หรือภาคธุรกิจอสังหาฯ ต่างมองเห็นความสำคัญของการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดทั้งสถาบันการเงินและบริษัทตัวแทนขายโครงการอสังหาฯ ได้ออกมาคาดการณ์ถึงแนวโน้มในอนาคตของธุรกิจดังกล่าว โดยเชื่อว่าในอีก 6 ปี ข้างหน้า ความแรงของธุรกิจนี้จะมีกำลังซื้อสูงขึ้นอีก 3 เท่า

พฤติกรรมคนไทย หนุนนำธุรกิจ E-Commerce
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าพฤติกรรมของคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Y ที่เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2523-2540 และ Gen Z ที่เกิดพ.ศ. 2540 เป็นต้นไป นั้นต่างเติบโตมาพร้อมกับโลกดิจิตัล เรียกได้ว่าอยากรู้ข้อมูลหรือซื้ออะไร เป็นต้องหยิบจับสมาร์ทโฟนเพื่อเสาะแสวงหาสิ่งที่ต้องการในโลกออนไลน์ จนมีคนกล่าวว่า Gadget นี้กลายเป็นปัจจัยที่ 6 ของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เมื่อพฤติกรรมของคนไทยหันมาเสพสังคมออนไลน์มากขึ้น โดยมีการจัดอันดับ 3 ช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) อันได้แก่ YouTube (97.1%), Facebook (96.6%) และ Line (95.8%) จึงส่งผลให้ช่องทางของธุรกิจ E-Commerce ได้เติบโตตามไปด้วย และไม่ใช่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงทั่วโลก

หมวดมหมู่สินค้าที่ผู้บริโภคช้อปปิ้ง ผ่านช่องทางออนไลน์

หมวดหมู่สินค้าที่ผู้บริโภคช้อปปิ้ง ผ่านช่องทางออนไลน์ ภาพ via paypal.com

โดยล่าสุด Paypal ผู้นำด้านการชำระเงินระดับโลก และ Ipsos ได้สำรวจพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของผู้บริโภค 32 ประเทศ และหนึ่งในนั้นมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งผลปรากฎว่าในปี 2560 นี้ มียอดการช้อปปิ้งของออนไลน์ที่ผ่านการซื้อจากช่องทางเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 84% ทั้งนี้อันเป็นผลมาจากผู้บริโภคเบนเข็มหันมาใช้ช่องทาง E-Commerce เพื่อทำกิจธุระประจำวันมากขึ้น ทั้งนี้ผลการสำรวจยังระบุว่า ประเทศไทยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีผู้บริโภคจับจ่ายซื้อของออนไลน์ข้ามประเทศถึง 54% โดยเลือกช้อปหมวดหมู่แฟชั่นมากที่สุด รองลงมาคือ การศึกษาและสื่อบันเทิง 40% รวมไปถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 39% ตามลำดับ

อนาคต E-Commerce โตจนฉุดไม่อยู่ พร้อมเตรียมจ่ายภาษีธุรกิจออนไลน์
ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมานิยมการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์มากขึ้น จึงทำให้มีการคาดการณ์ภาพรวมของธุรกิจดังกล่าว ทั้งนี้ทางศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ของธนาคารทหาไทย (TMB) ได้มองเห็นช่องทางตลาด E-Commerce ของประเทศไทยมีการปรับตัวและเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าอีก 6 ปีข้างหน้า ความแรงของธุรกิจดังกล่าวจะมีกำลังซื้อสูงขึ้นอีก 3 เท่า

ข้อมูลวิเคราะห์ตลาด E-Commerce จาก TMB

ข้อมูลวิเคราะห์ตลาด E-Commerce จาก TMB ภาพ via tmbbank.com

เหตุนี้จึงทำให้บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ทั้งมือใหม่และสมัครเล่น มักลงทุนกับธุรกิจดังกล่าว สืบเนื่องจากมีต้นทุนที่ต่ำ ทำได้ง่าย และสามารถขายได้รวดเร็ว ประกอบกับยังมีระบบการชำระเงินแบบ E-Payment ทำให้สะดวกทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ทั้งนี้จากการประเมินมูลค่าการทำธุรกรรมบนธุรกิจออนไลน์นั้นคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึงหลักล้านล้านบาท แต่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการหรือกฎหมายที่จะมาบังคับหรือควบคุม รวมทั้งการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดเป็นช่องโหว่ทั้งด้านความไม่เป็นธรรม และยังเป็นช่องทางในการขายของที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นทางกรมสรรพากรจึงได้ร่างกฎหมายภาษีธุรกิจออนไลน์ (E-Commerce) และยื่นเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับภาษี E-Commerce

ทิศทางอสังหาฯ กับธุรกิจ E-Commerce
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ากระแสของธุรกิจ E-Commerce เข้ามีบทบาทต่อการประกอบธุรกิจในด้านต่างๆ อย่างมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีมูลค่าสูง แต่ถึงกระนั้นก็พบว่ากลุ่มผู้ซื้อบ้านหันมาจองโครงการคอนโดมิเนียมหรือบ้านผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น หรือที่รู้จักกันดีว่า Online Booking เทรนด์ใหม่ของการทำธุรกิจอสังหาฯ ณ เวลานี้

ทั้งนี้ทางบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศ) จำกัด อันมีความเชี่ยวชาญด้านการเป็นตัวแทนขายโครงการอสังหาฯ มาหลายโปรเจกต์ ได้ออกตอกย้ำว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันต่างยอมรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยผ่านออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝากขายผ่านช่องทางเว็บไซต์อสังหาฯ หรือแอพพลิเคชันของทางผู้ประกอบการอสังหาฯ เอง เหมือนอย่างที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีกับ โครงการต่างๆ ของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่างสร้างช่องทางหนุนช่องทางการขาย ผ่าน eProperty Track ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ในอนาคตอันใกล้ทิศทางของภาคธุรกิจอสังหาฯ หรือเซ็กเมนต์อื่นๆ กับเรื่อง E-Commerce อาจจะกลายเป็นของคู่กัน ที่ขาดไม่ได้ สืบเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยังนิยมเสพโลกออนไลน์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เตรียมเก็บภาษี E-Commerce 15% คาดเสนอ รมว.คลัง กรกฎาคมนี้

 การค้าขายแบบออนไลน์ หรือ E-Commerce เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วจากการกระแส Social me

อ่านต่อ6 ก.ค. 2560