ตัวแทนภาคเอกชนห่วงโครงการอีอีซี อาจเป็นการเปิดช่องให้นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาหาผลประโยชน์ในประเทศไทย เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เริ่มดำเนินการก่อนที่จะมี พ.ร.บ.เขตพัฒนา พิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 โดยมีการใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อกำหนดเขตส่งเสริมและสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบการ ผู้อยู่อาศัย หรือผู้พำนัก ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการว่า รัฐบาลเดินหน้าในการพัฒนาอีอีซี และเมื่อมี พ.ร.บ.ออกมาก็เดินหน้าเต็มที่ รวมโครงการใหม่ในชลบุรี
เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษครอบคลุม 4 ส่วน คือ
1.เมืองการบินภาคตะวันออก
2.เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd)
3.เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi)
4.รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา (EECh)
ด้วยเหตุนี้ อีอีซี จึงกลายเป็นความหวังในการสร้างฐานความเจริญใหม่เพื่อคนไทยบนพื้นที่เป้าหมาย 13,200 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง โดยมีการคาดการณ์ว่าจะสร้างได้อย่างน้อย 100,000 ตำแหน่งต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว จากปัจจุบัน 1.5 เท่า ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ปีละกว่า 400,000 ล้านบาท และช่วยเพิ่มช่องทางการส่งออกอาหารเกษตรแปรรูป ซึ่งหมายถึงความหวังที่อีอีซีจะนำพาไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า จากมูลค่า GDP ที่เพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านล้านบาท ในปี 2570 จากปัจจุบันอยู่ที่ 15 ล้านล้านบาท
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน EEC
ทั้งนี้ทางตัวแทนภาคเอกชนจากหลายสาขาวิชาชีพยังมีความเป็นห่วงต่อโครงการดังกล่าวในแง่มุมที่ต่างกัน โดยในมาตรา 48 ที่ให้ผู้ประกอบกิจการหรืออยู่อาศัยในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด คือ
1.สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นของคนต่างด้าว
2.สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร
3.สิทธิที่จะได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี
ด้านนายชวพงศ์ ชำนิประศาสน์ อดีตนายก สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า “ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องวิชาชีพที่เปิดให้ต่างชาติเข้ามาทำอาชีพสถาปนิกและวิศวกรรมได้อย่างเสรี กฎหมายไทยไม่สามารถใช้ควบคุมชาวต่างชาติเหล่านี้ได้ หากเกิดความเสียหายก็ไม่ต้องรับผิดชอบ อีกทั้งการที่ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทย ก็ต้องจ้างคนชาติเดียวกันเข้ามาทำงาน เพราะสื่อสารได้ดีมากกว่า ทำให้โครงการนี้คนไทยได้ประโยชน์น้อยมาก” รู้หรือไม่ ชาวต่างชาติกู้ซื้ออสังหาฯ ในไทยได้
เช่นเดียวกับนายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย และนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ ที่มองว่า โครงการอีอีซีดำเนินงานผิดหลักการ เพราะเดินหน้าพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยยังไม่มีการวางผังเมือง แต่ประกาศให้นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนวางโครงสร้าง สาธารณูปโภคต่างๆ ก่อนที่จะจัดทำผังเมืองเสร็จ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนหรือไม่ รวมทั้งยังเปิดช่องให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินด้วยการเช่าได้นานถึง 99 ปี และให้เช่าช่วงได้ ซึ่งอาจทำให้ชาวต่างชาติเข้ามากว้านซื้อที่ดินแล้วนำไปให้เช่าช่วงต่อ กลายเป็นที่ดินตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติ
ขณะที่ระบบคมนาคมขนส่งที่สำคัญอย่างทางรถไฟ ก็ยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยว่าอาจมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะแทนที่จะใช้เส้นทางกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ แต่กลับต้องไปอ้อมที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเพิ่มระยะทางมากกว่าเดิมอีก 15 กิโลเมตร การขนส่งหลายๆเที่ยวจึงนับเป็นความสิ้นเปลืองทั้งเรื่องของเวลาและพลังงานอย่างมหาศาล ติดตามรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Index ทุกไตรมาสได้ที่นี่
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการซื้อ-ขาย ของชาวต่างชาติ
เพิ่มเติมความรู้ คู่มือซื้อ ขาย เช่าบ้าน-คอนโดฯ พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
