[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] นนทบุรีในปัจจุบันมีศักยภาพเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย อาทิ รถไฟฟ้า เรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นทำเลที่มีคอนโดฯ ริมแม่น้ำ ราคาไม่แพง
จากที่กล่าวไปข้างต้นหลังจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ ได้เปิดใช้บริการไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมามีผู้มาใช้บริการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้เสริมการเดินทางในทำเลนี้ให้หลากหลาย โดยเฉพาะบริเวณสถานีพระนั่งเกล้า ที่นอกจากจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้ว ยังมีท่าเรือสำหรับเดินทางในแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมติดแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาเอื้อมถึงได้
รถไฟฟ้าสายสีม่วง ยกระดับสู่ทำเลใกล้เมือง
รถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ ช่วยให้การเดินทางของผู้คนสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ใน จ.นนทบุรี เมื่อต้องการเดินทางเข้าสู่โซนบางซื่อ จตุจักร รัชดาภิเษก ยาวไปจนถึงสุขุมวิท สามารถโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้วมาเปลี่ยนเส้นทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ที่สถานีอินเตอร์เช้นจ์เตาปูน
นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อการขยายตัวของกลุ่มดีมานด์ใหม่ ๆ เข้ามาจับจองที่อยู่อาศัยในเขตปริมณฑลเพิ่มมากขึ้น ช่วยลดความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยในเขตเมือง ขณะเดียวกันก็เกิดการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สร้างความเจริญเข้าสู่พื้นที่รอบนอกได้ทัดเทียมกับโซนกรุงเทพฯ
ปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง เชื่อมต่อกับสถานีบางซื่อได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 60,000 คนต่อวัน แต่ในภายในปี 2563 จะมีการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ โดยจะวิ่งต่อจากสถานีเตาปูน ยกระดับข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าน้ำบางโพ เข้าสู่ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ผ่านแยกบางพลัด และวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงแยกบรมราชชนนี กระทั่งไปสิ้นสุดที่แยกท่าพระ รวมระยะทางทั้งสิ้น 13 กิโลเมตร ซึ่งการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนี้จะมีส่วนช่วยผลักดันให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงอาจพุ่งไปที่ 100,000 คนต่อวัน
ราคาที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงในปี 2562 มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสูงสุดเฉลี่ยที่ตารางวาละ 280,000-300,000 บาท ในภาพรวมมีการปรับขึ้นเฉลี่ย 41% ในรอบ 5 ปี นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับคนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนด้วยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือหากจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองก็คุ้มค่าไม่แพ้กัน
เพิ่มท่าเรือเชื่อมต่อการเดินทางให้หลากหลาย
โซนสะพานพระนั่งเกล้า นับเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตาไม่แพ้โซนเตาปูน เนื่องจากมีโครงการที่กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาเป็นท่าเรืออย่างโครงการท่าเรือพระนั่งเกล้า (ฝั่งพระนคร) ซึ่งจะเชื่อมต่อการคมนาคมทั้งทางบก ทางราง และทางน้ำเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในแผนพัฒนาท่าเรือของกรมเจ้าท่า เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าแบบไร้รอยต่อเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว โดยสามารถใช้สัญจรไปยังท่าเรืออื่น ๆ ได้อีกหลายแห่งโดยจะมีการก่อสร้างท่าเรือใหม่และปรับปรุงท่าเรือที่มีอยู่เดิมตามแนวเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาให้ดีขึ้น พร้อมเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารทางบกได้อย่างสะดวก
ปัจจัยการพัฒนานี้มีส่วนช่วยให้พื้นที่โดยรอบสถานีมีความเจริญยิ่งขึ้นในอนาคต ส่งผลต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์และที่ดินปรับตัวขึ้นตามไปด้วย โครงการท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้าจะสร้างเสร็จในปี 2563 นี้
เมื่อโครงการท่าเรือพระนั่งเกล้าเปิดใช้บริการในปีหน้า คาดว่าจะช่วยดึงดูดให้ดีมานด์ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ต้องข้ามฝั่งแม่น้ำไปมาอยู่เป็นประจำ รวมถึงกลุ่มที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยรอบนอกหันมาสนใจโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้เพิ่มขึ้นด้วย
คอนโดฯ ริมน้ำ ในราคาเอื้อมถึงได้
ตลาดคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างย่านเจริญกรุง ปัจจุบันเปิดตัวประมาณ 200,000-300,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ยากสำหรับมนุษย์เงินเดือน แต่ทำเลสะพานพระนั่งเกล้าถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงราคาประมาณ 60,000 บาทต่อตารางเมตร หรือมีราคาขายที่ประมาณ 1.5 ล้านบาทนั้น
นอกจากนี้ คอนโดมิเนียมในทำเลสะพานพระนั่งเกล้ายังมีข้อได้เปรียบในการอยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติ มีความเป็นส่วนตัวสูง สงบ คนไม่พลุกล่าน ซึ่งทำให้ผู้ที่ถือครองคอนโดในย่านสะพานพระนั่งเกล้า ยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าหรือขายต่อคอนโดได้ในราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
โดยผลตอบแทนจากการเช่า หรือ Rental Yield ในทำเลนี้อยู่ที่ราว 5-6% ต่อปี ค่าเช่าเริ่มต้นที่ระดับ 8,000-10,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน (สำหรับขนาดห้องไม่เกิน 30 ตารางเมตร) ส่วนอัตราผลตอบแทนจากการขายต่อ หรือ Capital Gain จะอยู่ที่ราว 3% ขึ้นไปต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าสนใจอย่างมาก
หนึ่งในโครงการทำเลสะพานพระนั่งเกล้าที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ โครงการเดอะ โพลิแทน รีฟ (The Politan Rive) โดยบริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise สูง 56 ชั้น บนพื้นที่มากกว่า 9 ไร่ จุดเด่นของโครงการคือเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ออกแบบด้วยแนวคิดใกล้ชิดธรรมชาติ นอกจากจะอยู่ติดแม่น้ำแล้วภายในตัวโครงการเองยังมีพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่และตกแต่งอาคารด้วยสีเอิร์ธโทน กลมกลืนไปกับทัศนียภาพรอบตัว
มีห้องชุดให้เลือก 2 แบบ คือ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้นอย 24.5-60 ตารางเมตร รองรับการอยู่อาศัยทั้งแบบส่วนตัวและครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คนได้อย่างสบาย ๆ การออกแบบภายในเน้นความเป็นสัดส่วนและความคุ้มค่าสำหรับใช้งานพื้นที่ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย
มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส, สระว่ายน้ำ 3 สระ, สวนดาดฟ้า, ห้องโยคะ, ห้องชกมวย, Jogging Track, ห้องประชุม, Kids room, Golf simulator, Game room, ห้องอ่านหนังสือ, สนามเด็กเล่น, Co-working Space และ Sky lounge เป็นต้น
โครงการตั้งอยู่บริเวณ ซ.นนทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ ห่างจาก ถ.รัตนาธิเบศร์ และรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้าเพียง 350 เมตร ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ใกล้ท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้า รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ กระทรวงพาณิชย์, เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์, เทสโก้ โลตัส แคราย, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, Ikea บางใหญ่, Central westgate และโรงพยาบาลนนทเวช สะดวกสบายไม่แพ้ใจกลางกรุงเทพฯ
โครงการเดอะ โพลิแทน รีฟ ราคาเริ่มต้นเพียง 1.5 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่ามีความคุ้มค่าอย่างมากหากเทียบกับสิ่งที่จะได้รับและอยู่บนทำเลศักยภาพที่น่าจับจอง ใครที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ สบายกระเป๋าด้วยโปรโมชันผ่อนเพียงเดือนละ 4,999 บาทเท่านั้น ถูกกว่าเช่ารายเดือน สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-002-2222 หรือ ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลและเยี่ยมชมโครงการได้ที่ http://bit.ly/32qvOUm Google Map : https://bit.ly/2S6gK9y
อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า สนใจรับบทความดีดี กดติดตาม