อานิสงส์ของรถไฟฟ้า 3 สาย เพิ่มศักยภาพให้ทำเลรามคำแหงน่าจับตายิ่งขึ้น คาดปี 62 มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ร่วม 6,000 ยูนิต เจาะกลุ่มผู้ซื้อชาวไทย จีน และสิงคโปร์ ทั้งอยู่เองและลงทุน
ทำเลรามคำแหงหลังการมาของรถไฟฟ้า ผลักดันศักยภาพทำเลนี้ให้กลายเป็นทำเลดาวรุ่ง ผู้ประกอบการหันมาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมและเริ่มเปิดขายมาตั้งแต่ปี 2560 โดยปัจจุบันราคาที่ดินติดสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ พุ่งแตะตารางวาละ 850,000 บาท และคาดว่าในปี 2562 จะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สูงถึง 6,000 หน่วย ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อทั้งไทย จีน และสิงคโปร์ เนื่องจากราคาขายยังไม่สูงมากนัก
รถไฟฟ้า 3 สาย ดันศักยภาพรามคำแหงเติบโต
จากข้อมูลผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย พบว่า รามคำแหงเป็นทำเลศักยภาพแห่งใหม่ที่มีการขยายตัวของคอนโดมิเนียม จากปัจจัยการลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และบริเวณรามคำแหง ยังอยู่ในเส้นทางเดินรถของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่สถานีรามคำแหง ซึ่งสามารถทำให้คนที่อยู่อาศัยหรือทำงานในบริเวณนี้สามารถเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวก หรือจะเดินทางเข้าสู่เมืองย่านมักกะสัน หรือพญาไท โดยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ก็สะดวกเช่นเดียวกัน
เอกชนผุดโครงการรองรับ ทำเลใกล้เมือง-เดินทางง่าย
ในขณะการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลอย่างโครงการรถไฟฟ้ารุดหน้า ภาคเอกชนเองต่างก็มองเห็นศักยภาพของที่ดินและการเติบโตของทำเลรามคำแหง ดังจะเห็นได้จากที่มีการปรับโฉมและรีโนเวทศูนย์การค้า พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ที่ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และคอนโดมิเนียมพักอาศัย เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งธุรกิจในอนาคต
ด้านการเดินทางก็นับว่าสะดวก ไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือออกนอกเมือง ด้วยการเชื่อมต่อหลายเส้นทางหลัก เช่น ถนนพระราม 9 ถนนรามคำแหง ไปจนถึงเอกมัย ทองหล่อ ที่มีครบทั้งรถไฟฟ้าและทางด่วน ใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษศรีรัช อีกทั้งบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลชั้นนำ รายล้อมไปด้วยสถานศึกษาทั้งระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาอีกด้วย
คอนโดฯ เปิดขายใหม่ปี 62 ร่วม 6,000 หน่วย
เมื่อพิจารณาจำนวนอุปทานคอนโดมิเนียมบริเวณรามคำแหง กลางปี 2562 พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 14,750 หน่วย โดยคอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีจำนวนอุปทานใหม่เกิดขึ้นมากตั้งแต่ปี 2560 หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ส่งผลให้ผู้ประกอบการหันมาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและเริ่มเปิดขายมากขึ้นตั้งแต่ปี 2560-2562
โดยในปี 2560 มีอุปทานใหม่คอนโดมิเนียมเปิดขายสูงถึง 3,658 หน่วย ส่วนปี 2561 มีอุปทานใหม่เปิดขาย 2,661 หน่วย และครึ่งปีแรกของปี 2562 มีอุปทานใหม่เปิดขายประมาณ 2,236 หน่วย คาดว่าในปี 2562 จะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในบริเวณนี้สูงถึง 6,000 หน่วย
ไทย-จีน-สิงคโปร์ แห่ซื้อคอนโดฯ ราคาขายยังจับต้องได้
กลางปี 2562 คอนโดมิเนียมทำเลรามคำแหงมีจำนวนหน่วยขายสะสมสูงถึง 12,370 หน่วย จากจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายทั้งสิ้น 14,750 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ 83.9% มีจำนวนคอนโดมิเนียมเหลือขายประมาณ 2,380 หน่วย โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีจำนวนหน่วยขายสูงถึงปีละ 2,500 หน่วย เนื่องจากบริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีศักยภาพ ส่งผลทำให้มีกลุ่มผู้ที่สนใจเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้เพิ่มมากขึ้น ทั้งคนไทยและต่างชาติ
โดยต่างชาติที่สนใจส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวสิงคโปร์ เนื่องจากยังมีราคาที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมบริเวณถนนรัชดาภิเษกที่มีระดับราคาขายสูงขึ้นถึง 150,000 บาทต่อตารางเมตร และหากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) แล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางจากบริเวณรามคำแหงถึงบริเวณรัชดาภิเษกจะสะดวกยิ่งขึ้น ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยได้เลย
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนไทยซื้อคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยเอง และบางส่วนซื้อเพื่อเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน โดยคาดว่าคอนโดมิเนียมบริเวณรามคำแหงยังมีระดับราคาที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ในอนาคต ยิ่งเมื่อระบบรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้วเสร็จย่อมทำให้ราคาขายคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก
5 ปีคอนโดฯ ปรับราคาขายต่อปี ตั้งแต่ 4-10%
ปัจจุบันระดับราคาขายคอนโดมิเนียมบริเวณรามคำแหง พบว่ามีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลางปี 2562 ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมเกรดบี มีระดับราคาขายอยู่ที่ 98,323 บาทต่อตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี 2557 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 74,292 บาทต่อตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมจากปี 2557-2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมเพิ่มขึ้น 7.2% ต่อปี ทั้งนี้ ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมระดับเกรดบีมีราคาขายปรับตัวสูงที่สุดในปี 2560 โดยปรับตัวขึ้นในอัตรา 10.5% จากปี 2559
ส่วนระดับราคาขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมเกรดซี ในบริเวณรามคำแหง กลางปี 2562 มีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 63,705 บาทต่อตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี 2557 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 53,402 บาทต่อตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมจากปี 2557-กลางปี 2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 5 ปี อยู่ในอัตรา 4.3% ต่อปี
เปิดโพยราคาที่ดินติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม แพงสุด 850,000 บ./ตร.ว.
ไม่เพียงแต่ราคาขายคอนโดมิเนียมที่มีการปรับตัวขึ้นเท่านั้น เพราะจากศักยภาพของทำเลรามคำแหงยังส่งผลให้ราคาที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มปรับตัวขึ้นเช่นกัน จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA พบว่า ราคาที่ดินที่ตั้งอยู่ติดถนนสายหลักรอบสถานีรถไฟฟ้าระยะไม่เกิน 500 เมตร มีราคาสูงกว่าที่ดินทั่วไป โดยสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างสถานี รฟม.กับสถานีสายสีส้ม มีราคาสูงสุดตารางวาละ 850,000 บาท
ราคารองลงมาคือ สถานี รฟม. บนถนนพระราม 9 มีราคาอยู่ที่ 400,000 บาทต่อตารางวา และสถานีแยกตรงจุดตัดประดิษฐมนูธรรม มีราคาอยู่ที่ 350,000 บาทต่อตารางวา และเมื่อถึงถนนรามคำแหงช่วงต้นคือถึงแยกลำสาลี ได้แก่ สถานีรามคำแหง 12 สถานีรัชมังคลา สถานีหัวหมาก และสถานีลำสาลี มีราคาเท่ากันคือ 280,000 บาทต่อตารางวา
ราคาที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ต่ำสุด 120,000 บ./ตร.ว
เมื่อเลยแยกลำสาลี ราคาจะลดลง โดยราคาที่ดินบนถนนรามคำแหงใกล้สถานีศรีบูรพา สถานีคลองบ้านม้า และสถานีสัมมากร มีราคาเท่ากันคือ 200,000 บาท ราคาที่ดินลดเหลือตารางวาละ 150,000 บาท เมื่อถึงสถานีน้อมเกล้าและสถานีราษฎร์พัฒนา ซึ่งตั้งอยู่ถัดไป ส่วนราคาที่ดินต่ำสุดคือ ตารางวาละ 120,000 บาท ตั้งอยู่สถานีถัดไป คือสถานีมีนพัฒนา และสถานีเคหะรามคำแหง แต่พอมาถึงสถานีมีนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เป็นศูนย์ความเจริญอยู่แล้ว ราคาที่ดินเพิ่มเป็น 160,000 บาทต่อตารางวา และมาลดลงเหลือ 120,000 บาทเมื่อถึงสถานีปลายทางคือสถานีสุวินทวงศ์
จากศักยภาพและการขยายตัวของทำเล ทำให้รามคำแหงกลายเป็นทำเลที่น่าจับจองของผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ เนื่องจากราคายังสามารถเอื้อมถึง จะซื้อหรือลงทุนก็ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ประกอบกับอานิสงส์ของรถไฟฟ้า 3 สาย ที่จะเชื่อมให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องง่ายขึ้น ยังเป็นตัวเสริมศักยภาพทำเลและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตบเท้าเข้ามาปักหลักพัฒนาโครงการ ก่อนที่ราคาที่ดินจะแพงและหายาก นี่จึงนับเป็นโอกาสเหมาะของผู้ซื้อ ผู้ขาย และนักลงทุนที่สนใจทำเลรามคำแหง ทำเลศักยภาพใหม่ที่กำลังเติบโต
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า