เมื่อบ้านที่เคยคิดว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดกลับกลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุด หากเราละเลยหรือมองข้ามซอกหลืบภายในบ้านจากวันเป็นเดือนและจากเดือนเป็นปี จนกระทั่งบ้านกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสิ่งมีชีวิตที่ไม่น่าพานพบ
ถึงเวลาสำรวจตามซอกมุมต่างๆ ในบ้าน 9 จุดเหล่านี้ พร้อมดูแลรักษาและหาวิธีแก้ไข เพื่อสร้างความสบายใจให้ตัวคุณเองและคนในครอบครัว
จุดที่ 1 : แหล่งน้ำขัง
ขั้นแรกที่ต้องสำรวจเพื่อสุขอนามัยและการป้องกันโรค เริ่มจากการมองหาแหล่งน้ำขังทั้งภายในบ้านและภายนอกบ้าน เพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก และกลิ่นเหม็นของน้ำเน่าเสีย รวมถึงคราบตะไคร่ต่างๆ ที่เกิดสะสมกลายเป็นเชื้อราหรือแบคทีเรียต่อไปในอนาคต
จุดที่ 2 : รอบบ้าน
นอกจากแหล่งน้ำต่างๆ ที่อยู่รอบบ้าน เรายังต้องทำการสำรวจตรวจตรานอกบ้านเพิ่มเติม ทั้งระเบียงบ้านไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของแมวจรจัด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อราขึ้นสมองจากแมว หรือที่อยู่อาศัยของนก โดยเฉพาะนกพิราบที่เป็นต้นเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา Cryptococcus รวมถึงสวนนอกบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าให้ความร่มรื่นอาจจะเป็นที่อยู่อาศัยแสนสุขของสัตว์มีพิษที่ต้องการพึ่งพาความสงบร่มเย็นจากบ้านของเราเช่นกัน
จุดที่ 3 : ทางเข้าบ้าน
เรามักจะมองข้ามสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด เช่นเดียวกับทางเดินเข้าบ้านที่เราใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ระหว่างทางเดินอาจจะมีรอยเท้าหรือฝุ่นที่สะสมบนพรมเช็ดเท้าก่อนเข้าบ้าน รวมถึงลูกบิดประตูที่เต็มไปด้วยรอยนิ้วมือของทุกคนในครอบครัว โดยร่องรอยความสกปรกที่พบอาจจะกลายเป็นความคุ้นชินที่ทำให้เราปล่อยปละละเลยการทำความสะอาด ทั้งที่เป็นจุดที่เราต้องสัมผัสมากที่สุดและบ่อยที่สุดก็ตาม
จุดที่ 4 : ร่องกระเบื้อง
เมื่อการกวาดบ้านและถูบ้านอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการทำลายแหล่งสะสมของเชื้อโรค โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีเด็กเล็กวัยคลาน ซึ่งสัมผัสกับพื้นบ้านโดยตรง การใช้กระเบื้องปูพื้นจำเป็นต้องสำรวจให้ลึกถึงร่องกระเบื้องไม่ให้เกิดคราบความสกปรกที่อาจจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อโรค ซึ่งเป็นต้นเหตุของความเจ็บป่วยอย่างไม่รู้สาเหตุได้
จุดที่ 5 : ตู้เก็บรองเท้า
ผู้หญิงกับรองเท้าเป็นของคู่กัน แต่ในบรรดารองเท้านับสิบคู่อาจมีเพียงรองเท้าคู่โปรดไม่กี่คู่ที่ได้รับการหยิบมาสวมใส่ ขณะที่รองเท้าอีกหลายคู่ในตู้รองเท้าไม่เคยได้รับการหยิบจับ เช่นเดียวกับตู้รองเท้าที่มักถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่เคยทำความสะอาดจนฝุ่นจับ และกลายเป็นที่อยู่อาศัยของยุงไปโดยปริยาย
ยิ่งไปกว่านั้น วันดีคืนดีที่เราต้องการใช้งานรองเท้าคู่เก่า หากไม่ทันระมัดระวังอาจจะเจอสัตว์เลื้อยคลานมีพิษซุกซ่อนอยู่ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง พร้อมทำร้ายเราหรือบุคคลในครอบครัวของเราได้
จุดที่ 6 : ใต้บันได
ภายในบ้านย่อมมีมุมมืดหรือมุมอับที่แสงสว่างส่องไม่ถึง และกลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่น หนูหรือแมลงสาบ รวมถึงสัตว์มีพิษอันตราย เราควรสำรวจตรวจตราให้ทั่วถึง เช่น มุมใต้บันได หรือมุมที่แสงสว่างไม่เพียงพอ อาจติดดวงไฟเพิ่มเติม เพื่อให้ปลอดภัยจากสัตว์มีพิษก็ได้
จุดที่ 7 : กองผ้า/สิ่งของ
หากไม่ต้องการแบ่งปันที่อยู่อาศัยของเราร่วมกับสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย เช่น มด หนู แมลงสาบ ที่พร้อมออกมาทักทายจากกองเสื้อผ้าหรือข้าวของระเกะระกะที่เราเคยใช้ข้ออ้างว่า “ไม่มีเวลา” และปล่อยปละละเลยทำให้บ้านรกด้วยข้าวของที่กองสุมกันไว้ โดยเฉพาะหากอยู่ในที่มืดหรือที่อับชื้น ยิ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยน่าอบอุ่นของสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้
จุดที่ 8 : เฟอร์นิเจอร์
แม้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านที่เราใช้งานอยู่ทุกวัน แต่เราก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรค เนื่องจากในเฟอร์นิเจอร์ตัวโปรด เช่น โซฟาในห้องนั่งเล่นยังมีซอกหลืบที่ไม่ได้สัมผัสร่างกายเราโดยตรง ทำให้เกิดฝุ่นสะสมภายใน กลายเป็นความสกปรกได้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ไม่ได้เคลือบสารกันปลวก ซึ่งเราจำเป็นต้องคอยสำรวจตรวจตราอยู่เป็นระยะ ก่อนที่กองทัพปลวกจะยกทัพบุกบ้านโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว
จุดที่ 9 : เตียงนอน
แหล่งสุดท้ายที่เชื้อโรคสามารถวนเวียนอยู่ใกล้ตัวเราได้มากที่สุดและอันตรายที่สุด คือ บนเตียงนอนที่เราพักผ่อนนอนหลับ ซึ่งอาจเป็นที่อยู่อาศัยของไรฝุ่นและเชื้อโรคที่ทำให้เราเป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด ดังนั้นเพื่อสุขอนามัยที่ดี เราควรทำความสะอาดที่นอน ด้วยการตากแดดหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงพยายามระบายอากาศไม่ให้ห้องทึบทึมหรือเกิดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรืออ่านรีวิวโครงการบ้านและคอนโดฯใหม่
