หลังจากบอร์ด EEC อนุมัติพื้นที่ 6,500 ไร่ สนามบินอู่ตะเภาเป็น”เมืองการบินภาคตะวันออก” พร้อมเดินหน้าสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ด้านนายกฯเปรยเพิ่มระเบียงเศรษฐกิจในพื้นที่อืนๆเชื่อมโยงพื้นที่อุตสาหกรรม พร้อมเดินหน้าผลักดัน10เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC เชื่อมต่อกลุ่มประเทศ CLMV
“ระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” (Eastern Economic Corridor :EEC) คืออะไร ?
โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC ) ตามแผนจะพัฒนาบนพื้นที่ 3 จังหวัด อันได้แก่ คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของโครงของโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกนั่นเอง และเรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงในอนาคต นั่นหมายถึงว่า ในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจในพื้นที่อื่นๆ เพื่อเชื่อมโยงกับทุกพื้นที่เป็นอุตสาหกรรม ขณะที่ทางรัฐบาลเอง ได้ผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 10 จังหวัดที่จะเชื่อมโยงกับ EEC และต่อเชื่อมต่อไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และประชาคมโลกต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ สิทธิประโยชน์ และการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน และรัฐบาลได้เดินหน้าผลักดันการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปมาโดยตลอด โดยถือเป็นการเริ่มต้นในช่วง 5 ปีแรกของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมเน้นย้ำเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่จะต้องผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานมีฝีมือ และพัฒนาทักษะด้านภาษา และสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตนเอง ซึ่งภาพรวมทั้งหมดเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
ระดมทุนระยะ 5 ปี ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ด้วยพื้นที่ 6,500 ไร่ ของสนามบินอู่ตะเภา เป็นเขตส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก “เมืองการบินภาคตะวันออก” พร้อมเตรียมระดมลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท (แผนระยะเวลา 5 ปี) ในกิจกรรมสำคัญๆลงในพื้นที่ เช่น เพิ่มทางวิ่งมาตรฐานอีก 1 ทางวิ่ง ลงทุนในกลุ่มกิจกรรมหลัก 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มอาคารผู้โดยสารและการค้า 2.กลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยาน 3.กลุ่มธุรกิจขนส่งทางอากาศ 4.กลุ่มธุรกิจซ่อมเครื่องบิน และ 5. กลุ่มศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรอากาศยานและธุรกิจการบิน
ทั้งนี้ ในอนาคตอาจมีอีก 3 กิจกรรมเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียง คือ 1.กลุ่มธุรกิจท่าเรือพาณิชย์ 2.ศูนย์การแพทย์เฉพาะด้าน และ 3.อุตสาหกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศ รวมถึงให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุน จัดทำรูปแบบให้เอกชนร่วมทุน และจัดทำสัญญาการร่วมทุนกับเอกชนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีข้อเสนอให้ปรับปรุงระบบขนส่งทางรางให้รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก ความเร็ว 250 กิโลเมตร/ชม. สามารถวิ่งเชื่อมโยงทั้ง 3 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง และสนามบินอู่ตะเภา โดยวิ่งให้บริการในเส้นทางร่วมกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ พญาไท-สุวรรณภูมิ และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนขยาย พญาไท-ดอนเมือง ซึ่งผู้โดยสารจะใช้เวลาเดินทางจาก กทม.-ระยอง โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งทำการศึกษาความเหมาะสมและขอรับการจัดสรรงบประมาณ
ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ ได้รับทราบความก้าวหน้าการปรับปรุงกฎระเบียบและวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นใน 3 เรื่อง คือ เร่งรัดกระบวนการร่วมทุนกับเอกชนสำหรับโครงการสำคัญใน EEC ให้แล้วเสร็จภายใน 8-10 เดือน, เรื่องของเขตปลอดอากรที่ปลอดเอกสาร เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว, การชักจูงผู้ลงทุนรายสำคัญมาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมดิจิทัล และศูนย์การแพทย์
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังเห็นชอบแนวทางการพัฒนาเขตเทคโนโลยีระดับโลกของไทย 2 แห่งคือ 1.เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ระยะแรก พื้นที่ 350 ไร่ ที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จังหวัดระยอง โดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อประกาศเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออกโดยเร็ว และ 2.เขตนวัตกรรมดิจิตัลภาคตะวันออก ในพื้นที่ 800 ไร่ บริเวณอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นผู้ดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนของรัฐบาลในวันนี้ จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในเมืองไทย และ 3 – 5 ปี จะเห็นการลงทุนอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้งบลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท กระจายการลงทุนใน 5 ปี นั่นหมายความว่า ผลตอบแทนที่จะเข้ามาเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำ GDP ของเมืองไทยมีโอกาสโตได้ถึง 4 – 5% ต่อปี ที่สำคัญประเทศไทยจะได้หลุดจากกับดักประชากรที่มีรายได้ปานกลางแล้วเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้สูงต่อไปในอนาคต
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
