วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีสิงหานี้! สุขภาพดีที่คนไทยคู่ควร

27 Jun 2017

มะเร็งปากมดลูก ถือเป็นโรคมะเร็งในผู้หญิงที่พบมากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 เช่นกัน ทั้งที่เป็นโรคมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ ด้วยการรับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันได้มากกว่า 90%

จากการศึกษามากว่า 10 ปี ล่าสุดทางคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติเห็นชอบ และให้บรรจุวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว เตรียมฉีดให้กับเด็กหญิงชั้น ป.5 กว่า 400,000 คน ทั่วประเทศ ฟรี ในเดือนสิงหาคมนี้

มะเร็งปากมดลูกภัยร้าย คร่าชีวิตหญิงไทย 14 คน/วัน
แม้ว่ามะเร็งปากมดลูกจะเป็นมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถป้องกันได้ แต่กลับพบว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้หญิงไทยมากเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากมะเร็งเต้านม พบได้ตั้งแต่ผู้หญิงอายุก่อน 30 ปี จนถึงวัยชราอายุ 80 ปี และพบมากในช่วงอายุ 35-50 ปี โดยที่ผ่านมามีอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 7 คน/วัน เป็น 14 คน/วัน หรือเสียชีวิตประมาณ 4,500 คน/ปี จากผู้หญิงไทยที่เป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 9,000 คน/ปี หรือคิดเป็น 50% ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท/ปี สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นคือ ผู้หญิงไทยคิดว่าตนเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง และมักเกิดความอายความกลัวที่จะไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ดังนั้นกว่าจะรู้ตัวว่ามีอาการผิดปกติ ความรุนแรงของโรคก็มักอยู่ในระยะลุกลามทำให้มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ

HPV_02

มะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้ด้วย 2 วิธี ง่าย ๆ
มะเร็งปากมดลูก มีวิธีการป้องกัน 2 วิธี ได้แก่ การตรวจคัดกรอง เช่น การตรวจแปปสเมียร์ (Pap smear) ซึ่งเป็นการตรวจสอบเซลล์บริเวณปากมดลูกเพื่อหาเซลล์ที่ผิดปกติ และการฉีดวัคซีนเอชพีวี ซึ่งจะให้ได้ผลและเกิดประโยชน์มากที่สุดนั้นจะต้องฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ทั้งนี้ จากงานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนเอชพีวีล่าสุด ซึ่งติดตามการใช้วัคซีนชนิดนี้ในประเทศต่างๆ มายาวนานถึง 10 ปี พบว่า วัคซีนสามารถลดการติดเชื้อเอชพีวีที่ก่อมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90% และลดการเกิดรอยโรคก่อนมะเร็งได้ถึง 85%

เปรียบเทียบวัคซีนเอชพีวีไทยกับต่างประเทศ
ปัจจุบันวัคซีนเอชพีวี มีทั้งหมด 3 ชนิด คือ ชนิด 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ 16 และ 18 ชนิด 4 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18 ซึ่งสายพันธุ์ที่เพิ่มเข้ามาเป็นวัคซีนป้องกันโรคหูดหงอนไก่ และชนิด 9 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18 และเพิ่มมาอีก 5 สายพันธุ์เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากดลูก (จากไวรัสเอชพีวีมีเป็น 100 สายพันธุ์ ในจำนวนนี้มี 15 สายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก) ซึ่งในต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ได้มีการฉีดวัคซีนเอชพีวีเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกให้กับผู้หญิงซึ่งอยู่ในแผนวัคซีนแห่งชาติมาแล้วกว่า 10 ปี และมีบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ฉีดให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย นอกจากนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกามีการนำวัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ มาใช้แทนชนิด 4 สายพันธุ์ สำหรับประเทศไทยมีการใช้วัคซีนชนิด 2 และ 4 สายพันธุ์ มานานแล้วแต่มักใช้ในโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูง

HPV_03

ไทยเดินหน้า ฉีดวัคซีนฟรี ลดจำนวนผู้ป่วย 20-30 ปีข้างหน้า
ล่าสุดทางคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติเห็นชอบ และให้บรรจุวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว โดยจะเตรียมฉีดให้กับเด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กว่า 400,000 คน ทั่วประเทศ ฟรี ในเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนเอชพีวี จะฉีด 2 เข็มห่างกัน 6 เดือน โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคม 2560 เพื่อหวังผลป้องกันมะเร็งปากมดลูกในอีก 20-30 ปีข้างหน้า แม้จะต้องใช้เวลาในการเห็นผลนาน แต่เชื่อว่าจะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ได้ในอนาคต และจะถูกควบคุมป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรค เช่นเดียวกับโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ขอบคุณภาพ :Pixabay.com

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

‘รับสร้างบ้าน’ ลุ้นโตครึ่งปีหลัง เตือนผู้บริโภค ‘ถูกหลอกด้วยของถูก’

ตลาดรับสร้างบ้าน หรือบ้านสร้างเอง เป็นหนึ่งในธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย

Continue Reading26 Jun 2017