เก็บภาษีเหล้า เบียร์ บุหรี่ เพิ่ม 2% สมทบกองทุนผู้สูงอายุ

2 Aug 2017

เก็บภาษีเหล้า เบียร์ บุหรี่ เพิ่ม 2% โปะกองทุนผู้สูงอายุ 4,000 ล้านบาท/ปี

 

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ โดยมีสาระสำคัญให้กองทุนผู้สูงอายุมีอำนาจจัดเก็บเงินบำรุงกองทุนจากผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตในส่วนสุรา เบียร์ และยาสูบ จำนวน 2% ต่อปี แต่ไม่เกินปีละ 4,000 ล้านบาท มาจัดสรรเงินเป็นรายได้แก่กองทุนผู้สูงอายุเพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อจำนวนผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

ภาษีสุรา เบียร์ และบุหรี่ ช่วยเพิ่มเบี้ยชราภาพ
ในปี 2559 รัฐบาลจัดเก็บภาษีสรรพสามิตส่วนสุรา เบียร์ และยาสูบ อยู่ที่ 5.5% จำนวน 213,569 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้กรมสรรพสามิตได้มอบเงินอุดหนุนให้แก่ 3 หน่วยงานประกอบด้วย
1. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ปีละ 2% ของรายได้ภาษีสรรพสามิต หรือประมาณ 4,271 ล้านบาท
2. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ TPBS ปีละ 1.5% ของรายได้ภาษีสรรพสามิต หรือไม่เกิน 2,000 ล้านบาท
3. กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 2% ของรายได้ภาษีสรรพสามิต หรือประมาณ 4,271 ล้านบาท
หากรวมกองทุนผู้สูงอายุเข้าไปอีก 2% จะทำให้ภาษีสุรา เบียร์ และยาสูบ เพิ่มขึ้นเป็น 7.5% โดยคาดว่าจะได้เงินสมทบกองทุนชราภาพเพิ่มขึ้นอีก 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่ใช้งบประมาณของภาครัฐ 60,000-70,000 ล้านบาท/ปี โดยเงินส่วนนี้จะนำไปเพิ่มเป็นเงินเบี้ยชราภาพให้สูงขึ้น

ภาษีสุรา เบียร์ และบุหรี่ ช่วยเพิ่มเบี้ยชราภาพ

ภาษีสุรา เบียร์ และบุหรี่ ช่วยเพิ่มเบี้ยชราภาพ

ผู้สูงอายุพุ่ง รับขั้นต่ำ 600 บาท/เดือน
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงอายุทั้งหมด 10.3 ล้านคน คิดเป็น 16% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้มีการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การให้เบี้ยชราภาพ มีผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยชราภาพประมาณ 8 ล้านคน โดยปัจจุบันมีการจ่ายเบี้ยตามขั้นบันไดของอายุ เช่น อายุ 60-70 ปี ได้รับเบี้ย 600 บาท/เดือน อายุ 70-80 ปี ได้รับเบี้ย 700 บาท/เดือน อายุ 80-90 ปี ได้รับเบี้ย 800 บาท/เดือน และอายุมากกว่า 90 ปี ได้รับเบี้ย 1,000 บาท/เดือน นอกจากนี้ยังมีเงินสงเคราะห์การยังชีพเพิ่มเติมรายละ 300 บาท ตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินของการสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 900-1,300 บาท

ใช้มาตรการคนรวยช่วยคนจน
นอกจากกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ทางรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังยังได้กำหนดแนวทางที่จะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 900-1,300 บาท/คน และขยายแหล่งเงินเข้าในกองทุนชราภาพที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะมาจากความสมัครใจของผู้สูงอายุที่มีฐานะดีสละสิทธิ์รับเบี้ยชราภาพ ซึ่งพบว่ามีจำนวนถึง 5 ล้านคน จากจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมด 8 ล้านคนที่รับเบี้ยชราภาพ โดยโอนสิทธิ์ตรงเข้ากองทุนเพื่อนำไปเพิ่มให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยทางกระทรวงการคลังจะมีเหรียญเชิดชูเกียรติให้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้เสียสละให้กับผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้เพิ่มเติมอีกปีละ 4,000 ล้านบาท ทำให้เมื่อรวมแล้วแต่ละปีจะมีเงินเข้ามาสมทบกองทุนชราภาพเพิ่มขึ้น 8,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นของทั้งสุรา เบียร์ และยาสูบ แน่นอนว่าผู้ประกอบการจะต้องผลักภาระไปยังผู้บริโภค ซึ่งทำให้สินค้าประเภทดังกล่าวมีราคาแพงขึ้น แต่กฎหมายฉบับนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ทันที คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกาภายในระยะเวลา 2-3 เดือน และใช้เวลาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีกประมาณ 2 เดือน จึงคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ประมาณต้นปี 2561

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

เริ่มตรวจ! วันนี้“แท็กซี่”ทุกคันห้ามสูบบุหรี่ ฝ่าฝืนโดนโทษปรับ

กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกรมควบคุมโรค และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบ

Continue Reading31 Aug 2016

โพสต์ปั๊บ จับปุ๊บ นักดื่มพึงระวังจับปรับ 5 แสน!

 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากที่ประชุมของสำนักงานคณะกรรมการควบ

Continue Reading21 Jul 2017