การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับการสรรค์สร้างบ้าน ถือเป็นไอเดียที่มีประโยชน์อย่างมาก สะท้อนการปรับตัวของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ก้าวทันโลกและใส่ใจในความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ชอบเรียนรู้และเปิดรับนวัตกรรมทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาปรับใช้เสมือนเป็นฟังก์ชันหนึ่งของการดำรงชีวิตได้ ยิ่งจะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้อยู่อาศัยให้มีความสุขทั้งในเชิงกายภาพ และจิตใจได้เป็นอย่างดี
>>>เจาะลึกแนวโน้มที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ จากรายงาน DDproperty Property Index
โครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งถูกวางคอนเซปต์สู่การเป็น Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะยุคใหม่ โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาทำงานในระบบของบ้านอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกบ้าน เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบพลังงาน ระบบอุณหภูมิ ซึ่งอาศัยการควบคุมสั่งงานจากซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับอุปกรณ์ต่างๆ และโครงสร้างของตัวบ้านได้อย่างเฉพาะเจาะจง ผู้ใช้สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เพื่อตอบสนองได้ตามความต้องการ (User Control) หรือจะเป็นแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Rule-Based Control) ซึ่งระบบนี้จะทำงานด้วยตัวเองผ่านการวัดผลค่าต่างๆ และประเมินผล พร้อมปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบได้โดยอัตโนมัติ ช่วยสร้างความสะดวกสบายและทำให้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยง่ายขึ้นมาก
ด้วยเหตุนี้โครงการอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมแบบ Smart Home จึงได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีมูลค่าที่สูงอีกด้วย เพราะการซื้อบ้านในยุคปัจจุบันต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย แค่เรื่องการออกแบบ และ Facilities แบบเดิมๆ นั้นคงไม่พอ ลูกค้ายุคนี้ต่างกำลังมองหาความแตกต่างที่ช่วยยกระดับการอยู่อาศัยให้ดีขึ้น ซึ่งมองการณ์ไกลถึงอนาคตว่า “บ้าน” จะต้องเป็นมากกว่าแหล่งพักพิง ในขณะเดียวกันต้องเป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตเติบโต พร้อมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างทันโลกและสมบูรณ์แบบในทุกมิติ
ประกอบกับจากความนิยมซื้อและเช่าคอนโดมิเนียมของคนที่อาศัยในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดคอนโดมิเนียมสูงขึ้นตามไปด้วย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายจึงเริ่มสร้างกลยุทธ์ดึงดูดดีมานด์โดยให้น้ำหนักไปที่เรื่องของฟังก์ชันเทคโนโลยีมากขึ้น โดยนำมาปรับใช้ในระบบต่างๆ ของคอนโดมิเนียม ไม่ว่าจะภายในห้องชุดหรือส่วนกลางของโครงการ เช่น ระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Internet of Thing) เชื่อมต่อสัญญานแบบออนไลน์ในการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่ฝังไว้ในบางส่วนของห้อง สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็น Platform ใหม่ ที่เข้ามาอำนวยช่วยให้ชีวิตสมบูรณ์แบบมากขึ้น
>>>อ่านรีวิวโครงการบ้าน-คอนโดฯ ที่ใช้ระบบ Smart Home
ตัวอย่างคอนโดมิเนียมที่ใช้ Smart Platform ได้อย่างโดดเด่นและน่าสนใจ นั่นคือโครงการ Park Origin Phayathai จากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ด้วยการผสานแนวคิดทั้ง 3 มิติ อัน่ได้แก่ Nature, Community และ Technology ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะในส่วนของเทคโนโลยีได้มีการพัฒนา Home Automation เข้ามาใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องชุด โดยสามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน ไม่เพียงเท่านี้ยังมีนวัตกรรม Smart Living บน Smart Mirror แสดงผลข้อมูลต่างๆ บนกระจก เช่น แจ้งเตือนวันเวลา สภาพอากาศ อุณหภูมิ รวมถึงข่าวสารประจำวันและความบันเทิงที่หลากหลาย จนได้รับรางวัล Special Recognition for Smart Home Development จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards 2018
>>>รวมโครงการใหม่ของ Origin Property
อย่างไรก็ตาม เทรนด์ Smart Home ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าไปอยู่ในโครงการคอนโดมิเนียมหลากหลายแห่ง และคาดว่าจะสามารถก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืนในอนาคต หากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในของลูกค้า ผสานการอยู่อาศัยความทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี ยิ่งจะทำให้โครงการที่สรรค์สร้างขึ้นมานั้นมีความน่าสนใจ แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ทั่วไป และสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่าเดิมหลายเท่า
เพิ่มเติมความรู้ คู่มือซื้อ ขาย เช่าบ้าน-คอนโดฯ พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ และสามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน