มิกส์ยูซ (Mixed-use) ที่ผสมผสานอสังหาฯ หลายรูปแบบที่ไม่ใช่เพียงที่พักอาศัยเข้าไว้ด้วยกัน ถือเป็นอสังหาฯ รูปแบบใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมที่อยู่อาศัยในปัจจุบันและอนาคต
ปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนโฉมที่อยู่อาศัยรูปแบบ “มิกซ์ยูส (Mixed-use)” คือราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง และทำเลใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้เกิดเทรนด์ในการพัฒนาโครงการรูปแบบมิกซ์ยูสขึ้น ซึ่งตอบรับทั้งฝั่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ในระยะยาว และตอบรับทางฝั่งผู้บริโภคที่ได้ไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยมากกว่าโครงการรูปแบบเดิม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- “ที่ดินแพง” ปัจจัยหนุนดีเวลลอปเปอร์พัฒนา “มิกซ์ยูส”
- “มิกซ์ยูส” เทรนด์อสังหาฯ มาแรงทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
3 จุดเด่นของโครงการมิกซ์ยูสที่เหนือกว่าโครงการรูปแบบอื่น
สำหรับจุดเด่นของโครงการมิกซ์ยูสมีอยู่แบ่งเป็น 3 ข้อใหญ่ ๆ ได้แก่
1.ทำเลศักยภาพ โครงการมิกซ์ยูสส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเดินทางที่สามารถเดินทางได้สะดวก และรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
2.สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ โครงการมิกซ์ยูสจะไม่ใช่โครงการที่มีเพียงที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่จะครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัย เรียกได้ว่าเพียงเดินออกจากบ้านก็สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่ายขึ้นกว่าโครงการรูปแบบอื่น
3.เพิ่มมูลค่าได้มากกว่าโครงการรูปแบบเดิม จากศักยภาพของทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ทำให้ที่อยู่อาศัยในรูปแบบมิกซ์ยูสสามารถเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าโครงการรูปแบบเดิม ๆ จึงเหมาะทั้งการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อ
โครงการมิกซ์ยูสส่วนใหญ่มักถูกพัฒนาในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์สังคมเมือง แต่ปัจจุบันเริ่มมีโครงการมิกซ์ยูสในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับพักผ่อนตากอากาศ และลงทุน ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของการพักผ่อนซึ่งมีทั้งที่พักอาศัย ที่กิน และที่เที่ยว
หนึ่งตัวอย่างโครงการที่พัฒนารูปแบบมิกซ์ยูสในจังหวัดท่องเที่ยวอย่างชะอำ-หัวหิน คือ โครงการทิวทะเลเอสเตท (Thew Talay Estate) ซึ่งเป็นโครงการการร่วมทุนกันระหว่าง บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อบริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
การันตีคุณภาพด้วยรางวัล “Best Mixed Use Development” จาก PropertyGuru Thailand Property Awards 2018 โครงการมิกซ์ยูสที่รวบรวมทั้งโครงการบ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียม โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ ห้องประชุม สถานที่จัดเลี้ยง บนเนื้อที่ประมาณ 110 ไร่ โดดเด่นด้วยพื้นที่หน้าหาดยาวถึง 160 เมตร พร้อมบริการแบบมืออาชีพภายใต้การบริหารจากศรีพันวา
ถือเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยในอนาคตที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถทำกำไรในระยะยาวที่คุ้มค่ากว่าไม่ควรมองข้าม
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ เวทีพร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ปี 2019 (PropertyGuru Thailand Property Awards 2019) กลับมาอีกครั้งแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิม ครอบคลุมโครงการทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุย หัวหิน เขาใหญ่ ชายฝั่งตะวันออก พังงา กระบี่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ของไทย
ประกอบด้วยรางวัลหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น ด้านการออกแบบ สถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน การออกแบบภูมิทัศน์ นอกจากนี้ ยังมีหมวดหมู่ที่เปิดกว้างสำหรับโรงแรม ภาคธุรกิจค้าปลีก และสำนักงานอีกด้วย รวมถึงรางวัลพิเศษเพื่อสังคม
โดยเตรียมจะมีงานกาลาดินเนอร์เพื่อแจกรางวัลในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เพลินจิต คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในงานอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดในเอเชีย
ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ทาง email: awards@propertyguru.com หรือ www.AsiaPropertyAwards.com
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า