สรุปข่าวเด่นอสังหาฯ รอบสัปดาห์ 5-9 ธ.ค. 65

10 ธ.ค. 2565

ดัชนีครัวเรือนเพิ่มสูงสุดในรอบ 14 เดือน ค่าใช้จ่ายสิ้นปีเน้นสังสรรค์-ท่องเที่ยว

เจาะลึกดัชนีครัวเรือนเพิ่มสูงสุดในรอบ 14 เดือน ประเด็นใหญ่กระทบเศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ส่องแนวโน้มอสังหาฯ จีน 2023 และตลาดรถ EV ด้านค่าไฟฟ้าปีหน้ายังแพง DDproperty รวบรวมมาให้อัปเดตที่นี่

Subscription Banner for Article

1. ดัชนีครัวเรือนเพิ่มสูงสุดในรอบ 14 เดือน ค่าใช้จ่ายสิ้นปีเน้นสังสรรค์-ท่องเที่ยว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนเดือนพฤศจิกายน 2565 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือน ปัจจัยหนุนจากการจ้างงาน หลังภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19

ขณะที่ช่วงสิ้นปีครัวเรือน 38% มีแผนสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัว 23% ยังไม่มีแผนใด ๆ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่แล้ว และอีก 22% ยังไม่มีแผนเนื่องจากยังไม่ไว้วางใจต่อสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ พบว่า 55% ของครัวเรือนที่ระบุว่ามีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยว เป็นการท่องเที่ยวในจังหวัดอื่น ๆ ภายในประเทศ 78% ขณะที่อีก 22% คาดว่าจะท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยคาดว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี จะเพิ่มขึ้น 6.8%

สำหรับค่าใช้จ่ายของครัวเรือนช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2565 พบว่า 54% ของครัวเรือนคาดการณ์ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากเดือนก่อนหน้า โดยค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ได้แก่

  • ค่ากินเลี้ยงสังสรรค์ 38%
  • ค่าซื้อของขวัญจับฉลาก 26%
  • ค่าทำบุญ 18%
  • ค่าการเดินทางท่องเที่ยว 17%
  • อื่น ๆ อาทิ การให้เงิน 1%

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นก่อนช่วงสิ้นปี เช่น มาตรการลดหย่อนทางภาษี มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและท่องเที่ยว เป็นต้น

ลดหย่อนภาษี 2565 เอกสารยื่นภาษี 2565 ที่ต้องใช้ หักลดหย่อนอะไรได้บ้าง

ในปี 2566 การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนยังต้องเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะความผันผวนของราคาพลังงานซึ่งอาจส่งผลต่อขีดจำกัดของมาตรการอุดหนุนภาครัฐในระยะข้างหน้า แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยที่เริ่มเห็นภาพหดตัวในเดือนตุลาคม 2565 รวมถึงภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างจำกัด หรือน้อยกว่าที่คาดการณ์

อย่างไรก็ดี อาจมีปัจจัยบวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะกลับเข้ามาหากมีการเปิดประเทศ

สรุปข่าวจากประชาชาติธุรกิจ: ดัชนีชี้วัดการครองชีพครัวเรือนเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 14 เดือน

2. จับตา 2 ประเด็นใหญ่กระทบเศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุระบบการเงินโลกมีแนวโน้มที่จะเผชิญความเสี่ยงด้านเสถียรภาพเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ภาวะการเงินโลกที่ตึงตัวขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เร็วแรงและพร้อมเพรียงกันของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อดูแลเงินเฟ้อ หนี้ของทั้งภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้นมาก ราคาสินทรัพย์เสี่ยงที่มีความผันผวนสูง ทำให้อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในตลาดการเงินที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

สำหรับเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ระดับการก่อหนี้ของรัฐบาล ธนาคารพาณิชย์ และเอกชน อยู่ในระดับต่ำ เงินสำรองระหว่างประเทศของไทยอยู่ในระดับสูง ตลาดการเงินและระบบการเงินไทยในปัจจุบันยังมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามดูแลความเสี่ยงที่มีนัยต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทยใน 2 ประเด็น

1) จับตาความสามารถชำระหนี้ของครัวเรือนและเอสเอ็มอีบางกลุ่มที่อาจด้อยลง หากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ครัวเรือนไทยยังมีความเปราะบางจากหนี้ที่อยู่ในระดับสูงและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่เอสเอ็มอีมีความเสี่ยง โดยเฉพาะในกลุ่มที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เช่น ภาคท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงธุรกิจที่อ่อนไหวต่อต้นทุนที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เช่น การขนส่งสินค้า การค้า และวัสดุก่อสร้าง

โดยเห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องเร่งผลักดันมาตรการแก้หนี้ในลักษณะเฉพาะจุดให้ครอบคลุมและเข้าถึงลูกหนี้กลุ่มเปราะบางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้ที่ต้องติดตามคุณภาพอย่างใกล้ชิดของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและ non-bank

คลินิกแก้หนี้ เปิด 3 ช่องทางเข้าร่วมโครงการช่วยปลดหนี้ได้

2) จับตาความผันผวนของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดการเงินและต้นทุนการระดมทุนของภาคธุรกิจที่อาจปรับสูงขึ้นจากภาวะการเงินโลกที่ตึงตัว และสภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่ลดลง จนอาจกระทบผลการดำเนินงานของสถาบันการเงิน กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์และบริษัทประกันภัย รวมทั้งเสถียรภาพระบบการเงิน

หน่วยงานกำกับดูแลจึงต้องร่วมกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมดูแลให้ตลาดการเงินมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะทำหน้าที่ได้ตามปกติแม้ในภาวะวิกฤติ ขณะที่ภาคเอกชนควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงจากการระดมทุนระยะสั้นที่กระจุกตัว ความผันผวนของราคาสินทรัพย์ รวมถึงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

สรุปข่าวจากไทยรัฐ: หวั่นครัวเรือน-เอสเอ็มอีไทยล้มครืน กนง.-กนส.ห่วงการเงินโลกป่วน

ส่องแนวโน้มอสังหาฯ จีน 2566 ส่งสัญญาณดี มีปัจจัยบวก

3. ส่องแนวโน้มอสังหาฯ จีน 2566 ส่งสัญญาณดี มีปัจจัยบวก

Economic Intelligence Center หรือ EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยบทวิเคราะห์วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนว่า ผ่านไปกว่า 1 ปี ตั้งแต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนยักษ์ใหญ่ Evergrande เผชิญการขาดแคลนสภาพคล่องและผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ตลาดต่างประเทศ (Offshore bond) มูลค่าประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ตลาดการเงินโลกเกิดความวิตกกังวลไปช่วงหนึ่ง

เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ภาคอสังหาฯ จีนเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติ หลังเริ่มมีสัญญาณความเปราะบางมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 เมื่อรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการสามเส้นแดง และมาตรการจำกัดการปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาฯ เพื่อลดการเก็งกำไรในตลาดอสังหาฯ ที่ร้อนแรงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาและลดการก่อหนี้ของบริษัทอสังหาฯ จีนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอยู่แล้วจากการระบาดของ โควิด-19 ส่งผลให้บริษัทอสังหาฯ จีนไม่สามารถระดมทุนได้ ผลที่ตามมาคือราคาบ้านหดตัว การก่อสร้างหยุดชะงัก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง กระทบไปถึงสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อและการจัดเก็บรายได้จากการขายที่ดินของรัฐบาลท้องถิ่น

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีที่ดินว่างเปล่า ต้องจ่ายเท่าไหร่

แม้ว่าสถานการณ์ในภาคอสังหาฯ จีนอาจจะไม่ได้เป็นข่าวใหญ่ที่สุดในปีนี้เมื่อเทียบกับข่าวเศรษฐกิจโลกอื่น ๆ อาทิ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นทั่วโลก และความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

แต่ก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีหน้า โดยเฉพาะไทยที่มีความสัมพันธ์กับจีนสูงในด้านการค้าและการลงทุน เนื่องจากภาคอสังหาฯ และการก่อสร้างคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 15% ของเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้ แนวโน้มอสังหาฯ จีนในอนาคต คาดว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ในระยะต่อไป ภาพรวมในปี 2022 สะท้อนว่าภาคอสังหาฯ จีนยังคงซบเซา แต่หลังจากมีการประกาศ 16 มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ คาดว่าจะทำให้บริษัทอสังหาฯ จีนเข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้โครงการก่อสร้างดำเนินต่อไปได้ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวในที่สุด

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจจีนในภาพรวม มีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการ Zero COVID ในปี 2023 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคอสังหาฯ

สรุปข่าวจากฐานเศรษฐกิจ: ส่อง ‘อสังหาฯ’ จีน 1 ปี วิกฤติ กับ แนวโน้มปี 2566

4. ตลาดรถ EV คึกคัก เดินหน้าสร้างสถานีชาร์จ-เครื่องชาร์จสำหรับที่พักอาศัย

กระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยยังคงแรงต่อเนื่องและเติบโตแบบก้าวกระโดด เห็นได้ชัดจากยอดการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ถึง 156.86% หรือกว่า 14,000 คัน ทำให้การแข่งขันของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศค่อนข้างดุเดือด ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า สถานีชาร์จ และเครื่องชาร์จสำหรับที่พักอาศัย ซึ่งเหล่าผู้ประกอบการต่างยกทัพมาประชันกันในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 หรือ Motor Expo 2022

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งเครื่องเดินหน้าสร้างสถานีชาร์จ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้ว 87 สถานีทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายให้ได้ 120 สถานีภายในไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อให้ครอบคลุมทุกจังหวัดมากขึ้น

โดยแต่ละสถานีมีระยะห่างกันไม่เกิน 100 กิโลเมตร อาทิ แม่ฮ่องสอน น่าน บึงกาฬ ปัตตานี ระนอง และอาจเพิ่มจำนวนหัวชาร์จในบางจังหวัดที่มีปริมาณการชาร์จที่ค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ ในปัจจุบันการชาร์จ EV ที่บ้านยังถือเป็นการชาร์จหลัก 80% ของผู้ใช้ EV เครื่องชาร์จ EV จึงต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยทั้งต่อรถยนต์ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าของบ้าน

รถไฟฟ้า EV กับ 5 วิธีชาร์จไฟบ้านอย่างไรให้ประหยัดและปลอดภัย

พร้อมเร่งขยายธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งเครื่องชาร์จ EV ซึ่งมีฟีเจอร์ต่าง ๆ อาทิ การตั้งระยะเวลาการชาร์จ EV ในช่วงที่มีอัตราค่าไฟฟ้าต่ำ ยกระดับการใช้พลังงานสีเขียวภายในที่อยู่อาศัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากรองรับการทำงานร่วมกับพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์ รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัย กะทัดรัด และได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรปจึงเหมาะกับผู้ใช้ EV ทุกกลุ่มทั้งที่พักอาศัยและพื้นที่ธุรกิจ

สรุปข่าวจากผู้จัดการออนไลน์: ชวนคนไทยใช้อีวี กฟผ. การันตีกางแผนกระตุ้นความมั่นใจ

5. ค่าไฟแพงยันปีหน้า ในอัตราไม่สูงเกินกว่า 5 บาท/หน่วย

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ปี 2566 คาดการณ์แนวโน้มความต้องการใช้พลังงานขั้นต้นของประเทศจะเพิ่มขึ้น 2.7% อยู่ที่ 2,111 พันบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากความต้องการเดินทางที่มีแนวโน้มกลับมาเป็นปกติมากขึ้น ทั้งการเดินทางภายในประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศ รวมทั้งการขยายตัวของการลงทุนทั้งการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

โดยเป็นการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2% ก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.8% การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1% และการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.4%

จากการประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกยังคงผันผวน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ทำให้ปีหน้าคนไทยยังคงต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราที่แพงเช่นเดิม แต่คงจ่ายในอัตราที่ไม่สูงเกินกว่า 5 บาท/หน่วย ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คงจะเคาะ 3 แนวทางการปรับขึ้นชัดเจนเร็วๆ นี้ โดยยังมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ

ค่าไฟฟ้าแพง 4 เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ

นอกจากนี้ได้เตรียมเสนอแผนพลังงานชาติ (NEP) ให้กระทรวงพลังงาน รับทราบภายในเดือนธันวาคม 2565 และเปิดรับฟังความคิดเห็นในช่วงเดือนมกราคม 2566 หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา คาดว่าจะประกาศใช้แผนอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส 2/2566

โดยเบื้องต้นจะประกอบด้วยแผนพัฒนากำลังการผลิตพลังงาน (PDP 2022) ที่จะกำหนดสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 50% ก๊าซธรรมชาติ 40% ถ่านหิน 10% ที่เหลือจะเปิดโอกาสให้พลังงานไฮโดรเจนและนิวเคลียร์ เป็นต้น

สำหรับปี 2565 สนพ. ประเมินแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานขั้นต้นของประเทศอยู่ที่ 2,056 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.2% สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว

โดยคาดว่าการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 14.9% การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.1% ส่วนการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 14.7% ยกเว้นก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะลดลง 9.1% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการผลิตภายในประเทศที่ลดลง และผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากผลพวงของเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

สรุปข่าวจากข่าวสดออนไลน์: ทำใจปีหน้าค่าไฟแพง! – สนพ. คาดปี’66 ความต้องการใช้พลังงานโต 2.7% เด้งรับศก.ฟื้น

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ