กูรูสถาปนิกแนะเจ้าของโครงการอสังหาฯ ปลูกจิตสำนึกสร้างอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อม ชี้บ้านเก่าก็สามารถจัดให้เป็น “บ้านกรีน” ได้
จากการสัมมนาในเรื่องเกี่ยวกับกรีนบิวดิ้งล่าสุด ซึ่งจัดขึ้นในงาน “ซีดีซี เว้นส์เดย์ ทอล์ค” ณ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) โดยมีบรรดาสถาปนิกไทยชื่อดังมาร่วมแชร์ประสบการณ์และความรู้เรื่องการปรับตัวให้อยู่กับธรรมชาติที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างกลมกลืน
นายวิญญู วานิชศิริโรจน์ กรรมการและเลขานุการ สถาบันอาคารเขียวไทย ได้กล่าวรณรงค์ให้สถาปนิก รวมไปถึงเจ้าของบ้าน เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ รวมไปถึงโรงแรมและรีสอร์ทตระหนักในเรื่องของการสร้างอาคารโดยคำนึงถึงธรรมชาติว่าให้คิดว่าเหมือนกับการสร้างตึกให้คนพิการเข้าถึงได้ ซึ่งปัจจุบันต้องมีทุกที่
“งานสถาปัตยกรรมสีเขียวที่แท้จริงในเมืองไทยยังไม่สมบูรณ์ ขาดทั้งองค์ความรู้ของผู้เชี่ยงชาญ และวัสดุอุปกรณ์ ดังนั้นทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้องต้องเข้ามาช่วยกันผลักดัน ทั้ง สถาปนิกในฐานะนักออกแบบ ผู้คัดเลือกวัสดุ ต้องมีความรู้และพร้อมที่จะสู้กับข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคในของการนำ “กรีนคอนเซปต์” เข้าไปในงานก่อสร้าง นอกเหนือไปจากการสร้างสรรค์ความสวยงามของดีไซน์ ในขณะเดียวกัน เจ้าของบ้านหรือเจ้าของกิจการก็ควรให้ความสำคัญและร่วมมือที่จะนำเรื่องกรีนให้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านหรืออาคารด้วย” นายวิญญูกล่าว
ด้านนายรักศักดิ์ สุคนธะตามร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนดเวิล จำกัด และสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้านบ้านเขียว กล่าวว่า ในฐานะสถาปนิก ตนเองมักจะเจอคำถามจากคนที่สร้างบ้านใหม่ว่าออกแบบและเลือกวัสดุอย่างไรที่จะช่วยทำให้บ้านอยู่สบายไม่มีปัญหาโลกร้อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ไม่ได้วางแผนจะสร้างบ้านใหม่ ก็สามารถปรับเปลี่ยนบ้านเก่าให้เป็นบ้านกรีนได้ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร ลดค่าใช้จ่าย ประหยัดพลังงาน และช่วยโลกได้อีกทาง
“วิธีลดโลกร้อน และ ประหยัดพลังงาน แบบง่ายๆ ภายในบ้านเริ่มจาก จัดห้องใหม่ ให้รับลมธรรมชาติ เพื่อลดการใช้แอร์ ด้วยการเปิดบ้านรับลมทางทิศเหนือใต้ ให้มีทางลมเข้าและทางลมออก โดยย้ายตำแหน่งของหน้าต่างและประตู รวมถึงการ จัดเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้ขวางทางลม จัดให้ห้องโปร่งโล่ง ลมพัดผ่านได้สะดวก แต่ในวันที่อากาศร้อนจัดและจำเป็นต้องเปิดแอร์ก็ควรเปลี่ยนประตูหน้าต่างให้ปิดมิดชิดเพื่อลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ”
“นอกจากนี้ การใช้ชายคา แผงบังแดด ไม้ระแนงกันแดด หรือ ต้นไม้ เพื่อให้ร่มเงา โดยเฉพาะที่ผนังและหน้าต่างทางด้านทิศตะวันตกจะเป็นการช่วยลดความร้อนในบ้านและค่าไฟได้ด้วย” นายรักศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ สถาปนิกหนุ่มยังแนะวิธีในการทำสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำใช้เอง โดยการนำเอาขวดน้ำดื่มขนาดเล็กที่ใช้แล้วใส่น้ำแล้วนำลงไปวางในแทงค์น้ำของสุขภัณฑ์เพื่อแทนที่ปริมาตรความจุของน้ำในแทงค์ ซึ่งวิธีดังกล่าวจะช่วยประหยัดน้ำได้ถึงครั้งละ 1 ลิตร ส่วนการประหยัดไฟในห้องน้ำ สามารถทำได้โดยการเพิ่มช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟเวลาเข้าห้องน้ำตอนกลางวัน อีกทั้งช่วยให้อากาศถ่ายเทอย่างเพียงพอ ไม่อับชื้นและไม่มีเชื้อรา
“สำหรับพื้นคอนกรีตในบริเวณบ้าน ควรเปลี่ยนให้เป็นบล๊อกหญ้าเพื่อลดปริมาณพื้นผิวของพื้นคอนกรีต เนื่องจากลานคอนกรีตขนาดใหญ่ในบริเวณบ้านเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิของบ้านสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น และทำให้น้ำฝนซึมลงดินไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมอีกด้วย” นายรักศักดิ์ กล่าวปิดท้าย
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ