กาลเวลาเปลี่ยนไป เทคโนโลยีต่างเข้ามาเปลี่ยนแปลง และแทรกซึมเข้าไปในทุกไลฟ์สไตล์ของมนุษย์เรา เหตุนี้เอง เหล่าผู้ประกอบการ หลากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะโรงแรม ได้สรรหาจุดเด่นเรื่องของความอัจริยะ ล้ำสมัย มาเอื้อประโยชน์การใช้สอยให้กับบรรดาลูกค้าผู้เข้าพักได้ตื่นตา ตื่นใจ ประหนึ่งเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของอนาคต เช่นเดียวกับ 10 โรงแรมสุดไฮเทคที่ DDproperty นำมาแชร์ในวันนี้
1. Yotel New York, สหรัฐอเมริกา
จุดเด่นของโรงแรม Yotel ในมหานครนิวยอร์ก คือการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Small but smart แม้ว่าจะเล็กแต่ไฮเทคทุกตารางเมตร สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักเดินทางจากทั่วโลก เริ่มตั้งแต่ระบบเช็คอินเข้า-ออก อัตโนมัติ ใช้หุ่นยนต์ Yobot ในการจัดเก็บกระเป๋าเดินทาง ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศด้วยระบบการตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้มาพัก และปิดท้ายด้วยห้องอาหาร DohYo ที่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำของโต๊ะรับประทานอาหารได้ตามใจชอบ ด้วยสวิตช์ (สนนราคาเริ่มต้น 169 เหรียญ หรือประมาณ 5,200 บาท / คืน)
ภาพ via yotel.com
2. Henn-na, ญี่ปุ่น
เหนือความคาดหมายอีกแล้วสำหรับประเทศญี่ปุ่น ในการรังสรรค์โรงแรม Henn-na (เมืองนางาซากิ) ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเมืองแห่งอนาคต เพราะที่นี่พนักงานเป็นหุ่นยนต์ถึง 90 % ของพนักงานทั้งหมด อีกทั้งในห้องพัก ยังมีระบบตรวจจับความร้อนของร่างกาย เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เหมาะสมกับผู้เข้าพัก โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และแผ่นโซลาร์เซลล์ เพื่อประหยัดพลังงาน (ราคาห้องพักสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 60 เหรียญ หรือประมาณ 1,800 บาท / คืน)
ภาพ via h-n-h.jp
3. Helix Hotel, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เกินคำว่าไฮเทคไปแล้ว สำหรับสถาปัตกรรมของ Helix Hotel ในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อสถาปนิกนามว่า Leeser ได้ตั้งใจออกแบบโรงแรมแห่งนี้ให้มีจุดเด่นกระแทกสายตานักท่องเที่ยว ตั้งแต่ภายนอกจนถึงการออกแบบตกแต่งด้านใน เป็นลักษณะคล้ายกับก้นหอย โดยได้จัดสรรความล้ำสมัยด้วยระบบควบคุมพลังงานจากแสงอาทิตย์และลม ที่สอดคล้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมรังสรรค์น้ำตกในห้องโถงที่ล้อมรอบด้วยกระจกบานใหญ่มหึมา อีกทั้งยังทำให้สามารถสัมผัสธรรมชาติของชายทะเลได้แบบเต็มปอด และใครที่อยากสัมผัสความทันสมัยของโรงแรมนี้ ต้องรอเวลาอีกสักหน่อย เพราะตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินก่อสร้าง
ภาพ via contemporist.com
4. Blow Up Hall 5050, โปแลนด์
ความน่าประหลาดใจของที่นี่ อยู่ตรงที่นักออกแบบ Rafael Lozano-Hemmer ได้ติดตั้งวีดีโอรอบโรงแรม (ยกเว้นในห้องพักและห้องน้ำนะ) พอลูกค้าเคลื่อนไหวไม่ว่าจะในอิริยาบทใด กล้องจะจับภาพพร้อมถ่ายทอดสดในล็อบบี้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่เข้ามาพักไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นหากใครเข้าพักที่นี่แล้วสงสัยว่ากุญแจห้องอยู่ที่ไหน ต้องขอให้หยุดความสงสัยไว้แค่นั้น เพราะที่นี่ เขาเปิด-ปิดผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หากใครมีโอกาสแวะเวียนไปประเทศโปแลนด์ สามารถเข้าไปใช้บริการได้ (ราคาห้องพัก เริ่มต้นที่ 1,050 เหรียญ หรือประมาณ 32,000 บาท / คืน)
ภาพ via worlddesignhotels.com
5. QT, ออสเตรเลีย
ใครที่ต้องการความบันเทิงเริงรมย์ ต้องขอแนะนำให้เข้าไปเช็คอินที่โรงแรม QT ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อจะได้แดนซ์กันให้ลิฟท์โยก เพราะคนออกแบบเขาได้ใช้เซนเซอร์ตรวจจับคนเข้าลิฟท์ พร้อมเลือกเพลงให้ เมื่อกดชั้นที่ตัวเองต้องการ สร้างความสนุก เร้าใจ ให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักอย่างมาก แถมความเก๋ไก๋ของที่นี่ยังมีแอพพลิเคชั่น QT ให้โหลดเพื่อจะได้เลือกใช้บริการต่างๆ ในโรงแรม ได้ง่าย สะดวก รวดเร็วดั่งใจต้องการ (ค่าที่พักเริ่มต้นที่ 420 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 11,000 บาท / คืน)
ภาพ via hotelchatter.com
6. Peninsula Tokyo, ญี่ปุ่น
การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของโรงแรมเพนนินซูล่า ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์โรงแรมแห่งนี้ไปแล้ว โดยเฉพาะในทำเลเมืองที่มีความล้ำสมัยอย่างโตเกียว ที่ภายในห้องพักนอกจากจะควบคุมอุณหภูมิได้แล้ว ยังสามารถปรับระดับความชื้น ทิศทางลม ความเร็วของเครื่องปรับอากาศ แสงไฟ ม่าน และยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถสั่งโหมดเสียงเงียบได้อัตโนมัติ เมื่อมีเสียง calling ดังขึ้น ที่นี่ถือเป็นโรงแรมแห่งแรกในกรุงโตเกียว ที่แจก iPod ให้ผู้พักอาศัยได้เพลิดเพลินกับโลกของเสียงเพลง (สนนราคาเริ่มต้นที่ 578 เหรียญ หรือประมาณ 17,900 บาท / คืน)
ภาพ via tokyo.peninsula.com
7. The Wit, สหรัฐอเมริกา
The Wit Hotel ในกรุงชิคาโก้ มหานครแห่งความเริงรมย์ ยังคงเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยู่ในเทรนด์ล้ำสมัย ด้วยการมีฟังก์ชั่นที่ตรวจจับเซ็นเซอร์อุณหภูมิร่างกายของผู้พักอาศัย แบบอัตโนมัติ พร้อมทั้งยังรองรับความสะดวกสบายในการใช้บริการด้วย แอพพลิเคชั่น The Wit ให้ผู้เข้าพักได้ดาวน์โหลดและใช้งานอย่างสะดวกสบาย (สนนราคาเริ่มต้นที่ 225 เหรียญ หรือประมาณ 6,900 บาท / คืน)
ภาพ via thewithotel.com
8. Moxy, อิตาลี
Moxy โรงแรมในเครือแมริออท ในมิลาน เมืองแห่งแฟชั่น โชว์จุดเด่นด้วยการนำเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต มาอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเช็คอิน โดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับสมาร์ททีวีได้ พร้อมเอาใจคนรุ่นใหม่กับช่อง USB ทั่วโรงแรม แม้กระทั่งโต๊ะกินข้าว ในห้องอาหาร ยังมีให้บริการ อีกทั้งบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ยังมีเครื่องพิมพ์บอร์ดดิ้งพาสเครื่องบิน ให้ใช้บริการก่อนทำการเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมได้อีกด้วย (สนนราคาเริ่มต้นที่ 109 ยูโร หรือประมาณ 4,300 บาท / คืน)
ภาพ via hotelprojectsworldwide.com
ภาพ via oneproject.cafecreate.com
9. A Loft Bangkok, ประเทศไทย
เมื่อพูดถึงความไฮเทค โรงแรมในเมืองไทยก็ไม่น้อยหน้าใคร เมื่อโรงแรม A Loft Bangkok ได้โชว์ศักยภาพด้วยการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องพักผ่านสมาร์ทโฟน และแอพพลิเคชั่น A Loft แถมยังใช้คียการ์ดแตะลิฟท์ก่อนทุกครั้งที่จะกดชั้นในลิฟท์ ซึ่งจะถือว่าเป็นเจ้าแรกในธุรกิจโรงแรมเลยก็ว่าได้ ที่บุกเบิกความล้ำสมัยนี้ (สนนราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 3,000 บาท / คืน)
ภาพ via aloftbangkoksukhumvit11.com
10. Banyan Tree, มาเก๊า
Galaxy Macau Complex รังสรรค์การตกแต่งโรงแรม Banyan Tree ในมาเก๊าให้ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว วิลล่าทุกหลังที่นี่จะมีสระคุมอุณหภูมิ ที่สามารถเติมน้ำได้อัตโนมัติ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำหรือผ่อนคลายได้
อย่างไร้กังวล (ราคาเริ่มต้นที่ 530 เหรียญ หรือประมาณ 16,000 บาท / คืน)
ภาพ via banyantree.com
ภาพหลัก via hotelchatter.com
อย่ามัวแต่มโนกับไฮเทค ล้ำๆ ภายในโรงแรม อย่างเดียว ลองเก็บตังค์ไปสัมผัสประสบการณ์จริง แล้วจะได้รู้ว่าไลฟ์สไตล์ในอนาคตนั้นทำให้การใช้ชีวิตของเรานั้นง่ายเพียงใด
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
