PACE ร่วมทุนรุกอสังหาฯผุดวิลล่าในญี่ปุ่น

21 Mar 2016

เพซฯ เล็งผุด 2 โครงการใหญ่ในไทยและญี่ปุ่น ตั้งงบ 1-2 พันล้านบาทซื้อที่ดิน เพิ่มพอร์ตรายได้ต่อเนื่องถึงปี’62

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “PACE” เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี2559 ว่า ในปีนี้ทางบริษัทมีแผนลงทุนโครงการใหม่อีก 1 แห่ง ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยย่านถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ในรูปแบบคอนโดมิเนียมใหม่สูง 40 ชั้น ขนาด 40 ยูนิตบวก/ลบ ขนาดพื้นที่ 400-500 ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท ราคาขายประมาณ 150,000-200,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นโครงการที่แตกต่างจากคอนโดเมืองทั่วไปที่ไม่เน้นติดรถไฟฟ้าแต่จะชูห้องขนาดใหญ่แทน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด นอกจากนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการที่เมืองตากอากาศนิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุน โดยคาดว่าจะใช้งบในการซื้อที่ดินประมาณ 500 – 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการในรูปแบบวิลล่า มูลค่าโครงการประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและโอกาสในการพัฒนา

PACE 04

ส่วนความคืบหน้าโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนานั้น ในส่วนของโครงการมหาสมุทร หัวหิน พัฒนาบนพื้นที่รวม 130 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 7,000 ล้านบาทประกอบด้วย “โครงการมหาสมุทร วิลล่า” ซึ่งเป็นไพรเวท ลักชัวรี่ วิลล่า จำนวน 80 หลัง มีให้เลือก 4 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 447-587 ตารางเมตร พื้นที่ดิน 161.9 ตาราวา ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 3 คัน เปิดขายด้วยกรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ ในราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายวิลล่าแล้ว 40% คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปีนี้ และอาจจะคาบเกี่ยวถึงปี 2560 ส่วนโครงการมหาสมุทร คันทรี่ คลับ” ไพรเวทคันทรี่ คลับ พื้นที่รวม 75 ไร่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560 ทั้งนี้ตั้งเป้าจำนวนสมาชิกเมมเบอร์ชิพ 10,000 ราย

PACE 03 (1)

อย่างไรก็ตาม PACE ยังมีโครงการที่พักอาศัยที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2 โครงการ ได้แก่ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในโครงการมหานคร ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้า90% คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้ และโครงการนิมิต หลังสวน ซึ่งมีปิดการขายไปเมื่อต้นปี2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอEIA ทั้งนี้จะเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายนนี้ โดยมีมูลค่าส่วนที่พักอาศัยของทั้งสามโครงการรวม 22,000 ล้านบาท ที่สามารถจะทยอยรับรู้รายได้ในอีก3ปีจากนี้(2559-2561) เฉลี่ยปีละ 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (backlog) มูลค่า 14,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าโครงการในมืออยู่ที่ 32,200 ล้านบาท จาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการมหานคร 18,000 ล้านบาท ,มหาสมุทร 7,000 ล้านบาท และนิมิต หลังสวน 7,200 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทจะเร่งโอนกรรมสิทธิ์เพื่อให้มีรายได้ที่ 10,000 ล้านบาท เพื่อจะนำบางส่วนไปชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดีเพื่อให้บริษัทมีรายได้ต่อเนื่องในปี 2562 ในปีนี้จึงวางงบซื้อที่ดิน1,000-2,000 ล้านบาทซึ่งจะเน้นพื้นที่ในกรุงเทพฯเป็นหลักสำหรับพัฒนาโครงการต่อเนื่อง

PACE 03 (2)

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

POST COMMENT

You may also like these articles

QH เปิดตัว“วรารมย์ พรีเมี่ยม แก้วนวรัฐ”จ.เชียงใหม่เริ่ม 2.99 ล้านบาท

ควอลิตี้เฮ้าส์ฯ บุกตลาดบ้านเชียงใหม่ ดึงกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ในพื้นที่

Continue Reading18 Mar 2016

MQDCจ่อเปิดขายคอนโดฯติดบีทีเอสตลาดพลูล็อตสุดท้าย26 มี.ค.นี้

MQDC ยิ้มหลังยอดขาย โครงการใหม่ “วิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา-ท่าพระ” ดีสวนกระแส

Continue Reading18 Mar 2016