งัดบ้านเก่าย่านพหล – อารีย์ ผุดคอนโดโลว์ไรส์ขายตรม.ละแสนกว่าบาท

24 Jun 2016

ดิเออเบิ้ลฯ หาสำนักงานเช่าในฮ่องกง ไดเรคตรงกลุ่มดีมานด์ลูกค้าต่างชาติ ล่าสุด งัดบ้านเก่า ผุดคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ “แซฟวี่ คอนโดมิเนียม” ปลื้มเปิดขายเดือนเดียว ทะลุเป้า 70% สิ้นปีปั้นโรงแรมบูทีค 4 ดาว จำนวน 60 ห้อง ปล่อยเช่าต่อคืน 3,500 – 5,000 บาท

นายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิเออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ดิ เออเบิ้ล เป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมายาวนานกว่า 10 ปี และเน้นทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาเป็นหลัก โดยมีโครงการในพัทยาถึง 7 โครงการ ซึ่งทุกๆ โครงการที่พัฒนาจะได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติในสัดส่วน 70% อีก 30% เป็นลูกค้าคนไทย แต่หลังจากที่พัทยาได้รับผลกระทบจากกลุ่มลูกค้ารัสเซียที่หายไป และปัญหาค่าเงินรูเบิลนั้น ทำให้ฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยเข้ามาแทนที่ในสัดส่วน 40% และลูกค้าต่างชาติ 60% ปัจจุบันมีจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในพัทยาราว 15,000 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างเยอะ และต้องอาศัยการระบายสต๊อคที่มีอยู่ราว 2-3 ปีถึงจะหมด

ดังนั้น ทางบริษัท จึงได้ขยายฐานการพัฒนาโครงการเข้ามาในกรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้พัฒนาคอนโดฯ ย่านแบริ่งมาก่อน อาทิ โครงการ The Gallery Condominium สุขุมวิท 107 ซึ่งปัจจุบันสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้วตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่วนโครงการ The Urban Attitude Bearing 14 ขณะนี้มียอดขายแล้ว 50%

สำหรับแผนดำเนินงานในปีนี้ ในส่วนของกรุงเทพฯนั้น อยู่ระหว่างการเปิดขายคอนโดมิเนียมใหม่ย่านพหลโยธินซอย 2 ในชื่อ “แซฟวี่ คอนโดมิเนียม” บนพื้นที่ 201.4 ตารางวา เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 66 ยูนิต ขนาดห้อง 23-69 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 2.49 – 10 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 1.25 – 1.4 แสนบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่ออยู่เองเป็นหลัก ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ก่อนสิ้นปี 2559 โดยที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการดังกล่าวแต่เดิมเป็นบ้านเก่าแก่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรื้อบ้าน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนตุลาคมนี้ และจะแล้วเสร็จในปี 2560

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพัฒนาโรงแรมบูทีคในเมืองพัทยา เป็นโรงแรม 4 ดาว ขนาดประมาณ 60 ห้อง คาดว่าอัตราค่าเช่าต่อคืนอยู่ที่ 3,500 – 5,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางเชนโรงแรม ซึ่งจะได้ข้อสรุปในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีที่ดินในพัทยารอการพัฒนาอีก 3 แปลงด้วยกัน ประกอบด้วยที่ดินในเมืองพัทยา 1 แปลงและติดชายหาด 2 แปลง ขณะนี้ที่ดินทั้ง 3 แปลงได้ถูกออกแบบเตรียมไว้แล้วตั้งแต่ 1 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในพัทยายังไม่เอื้อกับการเติมซัพพลายใหม่เข้าไปในตลาด จึงมองว่าจะเป็นที่ดินที่รองรับการพัฒนาในปีหน้า หรือ จังหวะที่เหมาะสม

โดยนโยบายการพัฒนาโครงการนั้น ตั้งเป้าพัฒนาโครงการแต่ละปี 1 – 2 โครงการขนาดไม่ใหญ่ บนที่ดิน 200 – 300 ตารางวา หรือถ้าเป็นมูลค่า ประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนงบในการซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ นั้น วางไว้ 200 ล้านบาท สามารถซื้อที่ดินได้ 1- 2 แปลง โดยจะเน้นทำเลย่านแนวรถไฟฟ้า หรือห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 1 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ทางบริษัทได้นำโครงการที่อยู่ระหว่างการขายออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศด้วย เบื้องต้นจะจัดตั้งสำนักงานขายที่ฮ่องกง โดยการเช่าพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพื้นที่ โดยจะใช้เวลาอีก 3 – 4 เดือนคาดว่าจะเปิดสำนักงานขายได้

ปัจจุบันมีโครงการที่สร้างเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ ประกอบด้วย เดอะ แกลลอรี่ คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 107 และแอคควา คอนโดมิเนียม จอมเทียน พัทยา ส่วนโครงการที่เปิดขายและอยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่ แอราส คอนโดมิเนียม ติดหาดจอมเทียน, แอดติจูด พัทยา และแอทติจูด แบริ่ง โดยในปี 2559 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 840 ล้านบาท จากยอดขายโครงการทั้งสิ้น 4 โครงการ ซึ่งปัจจุบันสามารถทำรายได้แล้ว 400 กว่าล้านบาท คาดว่าทั้งปีน่าจะเป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้ทั้งหมด

K.sompom

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

POST COMMENT

You may also like these articles