หนุนเศรษฐกิจฟื้นโปรเจกต์รัฐขับเคลื่อนกำลังซื้อ

30 Jan 2017

เอสซีจี แจงผลงานปี59 กำไรเพิ่มขึ้น 24 % โดยกำไรหลักจากธุรกิจเคมีภัณฑ์และสินค้านวัตกรรมโตต่อเนื่อง เผยเชื่อมั่นภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี60มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนอาเซียนดีอย่างต่อเนื่อง ลั่นเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเดินหน้าลงทุนเจาะตลาดASEAN

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบของเอสซีจี ประจำปี 2559 มีรายได้จากการขาย 423,442ล้านบาท ลดลง4%จากปีก่อน แต่มีกำไรอยู่ที่ 56,084ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ เป็นช่วงวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ และผลประกอบการของบริษัทร่วมที่ปรับตัวดีขึ้นขณะที่ธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในปี 2559 มีรายได้จากการขายและกำไรลดลงซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันที่สูงขึ้น อีกทั้ง EBITDA ที่ลดลงและค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัทยังมีรายได้จากการส่งออก 112,549ล้านบาท คิดเป็น27%ของยอดขายรวม ทั้งนี้สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีมูลค่า539,688ล้านบาท

สำหรับธุรกิจของเอสซีจีในอาเซียน นั้น ในปี 2559 เอสซีจี มีรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียนและจากการส่งออกไปยังอาเซียน 97,669 ล้านบาท คิดเป็น23% ของรายได้รวม ลดลง 2% จากปีก่อน เนื่องจากมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าปรับตัวลง ทั้งนี้ เอสซีจี มีสินทรัพย์รวมในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย มูลค่า 126,055 ล้านบาท หรือประมาณ 23% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท

“เอสซีจีเชื่อมั่นว่า ภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนตามนโยบายของภาครัฐ รวมถึงการบริโภคในประเทศและการค้าขายระหว่างประเทศอาเซียนด้วยกัน ดังนั้นเอสซีจียังคงดำเนินการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนโดยมีกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์เอสซีจีให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น”

ทั้งนี้การลงทุนในอาเซียน ยังเดินหน้าตามแผน โดยโรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศเมียนมา มีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ 1.8 ล้านตันต่อปีและโรงงานกระดาษคราฟท์ในประเทศเวียดนามโรงงานแห่งที่สองกำลังการผลิต 243,000 ตันต่อปี ทำให้มีกำลังผลิตรวมเป็น 489,000 ตันต่อปีซึ่งทั้งโรงงานปูนซีเมนต์และโรงงานกระดาษคราฟท์ ได้ผลิตสินค้าออกสู่ตลาดแล้วในต้นปี2560 ขณะที่โรงงานปูนซีเมนต์ในสปป.ลาวอยู่ระหว่างการทดสอบการเดินเครื่องการผลิต

อย่างไรก็ตาม เอสซีจีได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ อาทิ การปรับตัวของราคาของวัตถุดิบเคมีภัณฑ์ และต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ มีคู่แข่งที่มีศักยภาพ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้เอสซีจีได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของสังคมได้อย่างรวดเร็ว

>>รวมโครงการใหม่<<

“สำหรับประเทศไทย อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2560 คาดการณ์ว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อีกทั้ง มีการผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเสริมสร้างความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ”

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

ดีเดย์เริ่มใช้ระบบตั๋วร่วม “บัตรแมงมุม” มิ.ย.นี้

อัพเดทความคืบหน้าระบบตั๋วร่วม “บัตรแมงมุม” ที่จะเชื่อมต่อการเดินทางส

Continue Reading29 Jan 2017