ครม.เคาะสินเชื่อรายย่อยใช้จ่ายฉุกเฉิน แก้หนี้นอกระบบ

22 Feb 2017

ครม.เห็นชอบโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินวงเงิน 1 หมื่นลบ.ผ่านออมสิน-ธ.ก.ส. หวังแก้หนี้นอกระบบ

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินซึ่งเสนอโดยกระทรวงการคลัง โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการของแพ็คเกจใหญ่เพื่อทำให้หนี้นอกระบบหมดไปจากประเทศไทย วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อธนาคารออมสินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย สำหรับระยะเวลากู้ ภายใน 1 ปี กู้ยืมไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่เกิน 0.85% ต่อเดือน หรือประมาณปีละ 10% ต้องมีบุคคลค้ำประกันอย่างน้อย 1 คน หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยจะพิจารณาจากความฉุกเฉินและความจำเป็นในการใช้เงิน สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปภายในระยะเวลา 1 ปี

โดยรัฐบาลพร้อมชดเฉยค่าเสียหายหากเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLs โดยที่ 25%แรก จะชดเชย 100% ตั้งแต่ 25-37.5% รัฐจะชดเชย 70% และมากกว่า 37.5 แต่ไม่เกิน 50% รัฐจะชดเชยครึ่งหนึ่ง โดยรัฐจะรับความเสียหยายไม่เกินวงเงิน 4,000 ล้านบาท

โดยสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน จะช่วยให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ในกรณีมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน โดยไม่ต้องไปใช้บริการสินเชื่อนอกระบบ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สูง และบางกรณีมีการติดตามทวงถามหนี้ที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมตามมา

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนผุ้มีราไยด้น้อยและเกษตรกรรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการให้ดีขึ้นประมาณ 200,000 ราย

อนึ่ง เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 59 ได้มีการออกแพ็คเกจเกี่ยวกับหนี้นอกระบบออกมา หลักการของการจัดการหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลัง แบ่งเป็น 4 เรื่องใหญ่ ๆ คือ 1.การเพิ่มศักยภาพให้ความรู้ด้านการเงิน โดยการปลูกฝังความรู้และวินัยการเงิน ฝึกให้ทำบัญชีเป็น 2.การดำเนินการจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบ เช่น การออกพ.ร.บ.ไปแล้ว 2 ฉบับ ฉบับแรกคือพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 เพื่อโทษสำหรับผู้ที่เรียกอัตราดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และพ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2538 คือการห้ามข่มขู่ลูกหนี้ ถ้าฝ่าฝืนก็ติดคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และ3.การไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ โดยจัดให้เจ้าหนี้เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้ โดยมีกระทรวงการคลัง ตำรวจ และกระทรวงยุติธรรมเป็นคนกลาง 4. การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ และมีการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) โดยธนาคารออมสิน กับ ธ.ก.ส.

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles