จับกระแสอสังหาฯจัดโปรฯ ลด-แลก-แจก-แถม ส่อเค้า ‘รุ่ง’ หรือ ‘ร่วง’

5 May 2017

Property Promotions

สังเกตได้ว่าช่วงนี้เหล่าดีเวลลอปเปอร์หลายราย เข็นโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม ผ่อน 0% หรืออยู่ฟรี ออกมามากมาย แม้มองเผิน ๆ จะเป็นการกระตุ้นยอดขายปกติ แต่ก็ส่งสัญญาณอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันให้เห็นได้ไม่น้อยเช่นกัน

ส่อเค้าซัพพลายล้น แข่งขันกันด้วยแคมเปญ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557-2559 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีภาวะหดตัวต่อเนื่อง เฉลี่ย 5-7% จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือน สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะฝั่งยุโรปที่หายไปกว่า 50% จากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ รวมทั้งมีโครงการที่ขายแล้วโอนไม่ได้อีกหลายโครงการ หลายบริษัทต้องนำกลับมาทำการตลาดใหม่ ทำให้ซัพพลายเหลือขายในตลาดมีอยู่เป็นจำนวนมาก

โดย ณ สิ้นปี 2559 มีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 445,000 ยูนิต และโครงการที่ยังทยอยก่อสร้างอีกประมาณ 127,000 ยูนิต และมีประมาณ 40,000 ยูนิต ที่มีกำหนดแล้วเสร็จและเตรียมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2560 ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างมาก จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายจึงกังวลว่าจะประสบปัญหาในการโอน โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมระดับล่างที่ต้องเหนื่อยในการผลักดันสต็อกเหลือขาย ประกอบกับในปีนี้ภาครัฐยังไม่มีมาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ออกมาเหมือนปี 2559 ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ทุกค่ายต้องอัดโปรโมชันพิเศษเต็มที่เพื่อกระตุ้นยอดขายกันเอง โดยเฉพาะในทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่ทุกค่ายต้องเข็นแคมเปญระบายสต๊อกออกมาทุกรูปแบบ บางรายลดสูงสุดถึงกว่า 20% เนื่องจากมีซัพพลายล้นตลาด โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในทำเลนี้มีคอนโดมิเนียมเหลือขายถึง 20,000 ยูนิต

ด้านสถาบันการเงินก็เพิ่มความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) สูงมาก แม้ว่าบางโครงการที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้ก่อนให้จอง แต่กลับมีอัตรา Reject Rate ถึง 30% ส่วนโครงการที่ไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้กู้ก่อน มีอัตรา Reject Rate สูงถึง 50% โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพอิสระ ไม่มีเงินเดินบัญชีชัดเจน ดีเวลลอปเปอร์จึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ด้วยการใช้วิธีให้เช่าก่อน 1-2 ปี โดยนำค่าเช่ามาเป็นเงินดาวน์ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

แม้ว่าช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะมีการเติบโตของสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยของระบบธนาคารพาณิชย์ โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าปริมาณยูนิตที่ได้รับสินเชื่อรวมขยายตัวที่ 14% แต่ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเมื่อแยกที่อยู่อาศัยตลาดล่าง ปริมาณยูนิตที่ได้รับสินเชื่อขยายตัวอยู่ที่ 7.7% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย ส่วนคอนโดมิเนียมขยายตัว 6.3% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยเช่นกัน

เหมือนจะมีแต่ข่าวไม่สู้ดีแต่การอัดแคมเปญดังกล่าวข้างต้นก็ใช่ว่าจะเป็นการขายผ้าเอาหน้ารอดในช่วงซัพพลายล้นตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องดี ๆ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นช่วง “นาทีทอง” ที่สถานการณ์เอื้อต่อการซื้อที่อยู่อาศัย

Bangkok condo pulse

 

คว้าสัญญาณบวก ดอกเบี้ยต่ำ หนี้ครัวเรือนลด จัดโปรฯ เร่งยอดขาย
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยปี 2559 มีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปรับตัวลงราว 1.3% จากปี 2558 มาอยู่ที่ระดับ 79.9% ต่อจีดีพี (ปี 2558 อยู่ที่ระดับ 81.2%) เป็นผลจากหนี้ครัวเรือนที่เติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าการขยายตัวของจีดีพี ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ จากการหดตัวของสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ปล่อยโดยกลุ่มนอนแบงก์ (ผู้ให้บริการด้านการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน) โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งทำให้หนี้ครัวเรือนปรับลดลงถึง 0.6% ต่อจีดีพี และจากการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังตามนโยบายเครดิตที่เข้มงวดขึ้นของสถาบันการเงินส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งมีสัดส่วนสูงสุดในหนี้ครัวเรือน (เกือบ 30% ของหนี้ครัวเรือน) ที่เติบโตชะลอลงตามยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ปรับลดลง ถือเป็นการปรับลดลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลต่อปัญหาหนี้สะสมของครัวเรือนและเสถียรภาพของระบบการเงินลงได้ในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากค่าครองชีพที่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น การปลดภาระหนี้ของผู้เข้าร่วมโครงการรถคันแรก และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงด้านอัตราดอกเบี้ย ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโต หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลต่อผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยการปรับดอกเบี้ยขึ้นทุก 1% จะมีผลทำให้ความต้องการลดลง 5-8% ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงทรงตัวในระดับต่ำ แต่ก็มีโอกาสจะปรับเพิ่มขึ้นในปีต่อไป

ถือเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากภาระในการผ่อนชำระค่างวดรายเดือนจะต่ำลง ทำให้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ดีเวลลอปเปอร์จึงอาศัยช่วงจังหวะนี้สร้างแคมเปญส่งเสริมการขายแบบต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายนั่นเอง

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะโต 5% จากปัจจัยการลงทุนโครงการของภาครัฐ และราคาพืชผลการเกษตรเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ปี 2560 จะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 3 ปี ซึ่งไม่ว่าโปรโมชั่นเหล่านี้จะมีมาด้วยสาเหตุอะไรก็ถือเป็นประโยชน์และกำไรสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้อย่างแน่นอน

 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

 

POST COMMENT

You may also like these articles

ภัยเงินกู้นอกระบบ ร้ายแรงกว่าที่คิด!

“เงินด่วน อนุมัติเร็วทันใจ เงื่อนไขน้อย ไม่ตรวจเครดิต กู้เงินสดไม่เช็

Continue Reading4 May 2017

ราคาคอนโดฯย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงพุ่งไม่หยุด

ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ตั้งแต่ต้นปีมานี้ สถาบันการเงินเริ่มคลายความกั

Continue Reading5 May 2017