จับกระแส Prop Tech ประเทศไทยพร้อมแล้วหรือยัง?

11 May 2017

ในยุคที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว และประเทศไทยประกาศจุดยืนเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ทุกภาคส่วนธุรกิจต่างปรับตัวกันอย่างแข็งขัน เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ เช่นเดียวกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างปรับหางเสือมุ่งสู่การนำนวัตกรรม Prop Tech (Property Technology) เข้ามาใช้ในกระบวนการบริหาร การก่อสร้าง การขายและการตลาด และการบริการหลังการขาย เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

ล่าสุด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งจับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน “สิริ เวนเจอร์” ได้ทำการวิจัยและลงทุนเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน Prop Tech อย่างเต็มรูปแบบเป็นรายแรกของไทย สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่น้อยด้วยการสร้างรูปแบบการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ แบบ Paperless and formless payment โดยใช้ SAMSUNG pay ชำระเงินจอง หรือค่าบริการต่าง ๆ โดยผ่านบัตรเครดิตที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟน และ SANSIRI Online Booking เปิดให้ลูกค้าเป็นเจ้าของยูนิตพิเศษผ่านระบบออนไลน์

ก่อนหน้านี้ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับ Prop Tech ได้พยายามสร้างปรากฏการณ์เมื่อปลายปีที่แล้วกับการจองคอนโดมิเนียมออนไลน์ แม้ระบบจะล่มและไม่สามารถให้บริการได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีผู้ให้ความสนใจและเชื่อมั่นในนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทางผู้ประกอบการพยายามจะนำมาใช้

ไทย 1 ในเจ้าแห่งการเชื่อมต่อด้านดิจิทัลของภูมิภาค
จากผลวิจัยของทาง Google และ Temasek องค์กรการลงทุนรายใหญ่ของสิงคโปร์พบว่า ประเทศไทยมีการเติบโตของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วมากถึง 9% ต่อปี โดยคาดว่าจะมีจำนวนถึง 59 ล้านคน ในปี 2020 เพิ่มจาก 38 ล้านคน ในปี 2015 ประกอบกับประเทศไทยมีศักยภาพการเติบโตทางด้านดิจิทัลสูง เนื่องจาก 58% ของประชากรมีอายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นคนในกลุ่ม Gen Y ที่มีความคล่องตัวด้านเทคโนโลยี และยังเป็นประเทศที่มีอัตราการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ในระดับสูงด้วยเช่นกัน โดย 57% ของประชากรเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่า 85 ล้านเลขหมาย ทั้งบนเครือข่าย 3G และ LTE รวมทั้งมีความเร็วการดาวน์โหลดอยู่ที่ 19.82 Mbps สูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์เท่านั้น

PropTech - info

Gen Y ตัวขับเคลื่อน Prop Tech ในไทย
ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่กล่าวไว้ในข้างต้นคือกลุ่มคน Gen Y ที่มีส่วนขับเคลื่อนProp Tech ในไทยได้ใน 2 บทบาท คือเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ด้านการเป็นผู้บริโภคนั้นคน Gen Y คือผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มักกำหนดเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งในปัจจุบันมีประมาณ 22 ล้านคน จากรายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) พบว่าคน Gen Y ในประเทศไทยมีรายได้ค่อนข้างสูงแม้จะยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ประมาณการว่า มีส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 5 ล้านล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 25% ของรายได้รวมของประเทศ หรือเฉลี่ยประมาณ 30,000 บาท/เดือน และมีรายจ่ายสูงถึงประมาณ 80% ของรายได้

นอกจากนี้ จากระดับการใช้งานอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ พบว่า 79% ของ Gen Y เลือกติดตามและรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์ และ 69% อ่านข่าวจากเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยในแต่ละวัน Gen Y ประมาณ 55% ใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมงในการเข้าใช้เว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ รวมทั้งยังมีปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าคน Gen Y มีความคล่องตัวด้านเทคโนโลยีมากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ เช่น ความถี่ของการใช้งานอินเทอร์เน็ต วิธีซื้อสินค้าและชำระเงินที่มักไม่ชอบใช้เงินสด ด้วยเหตุผลเหล่านี้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาใช้เทคโนโลยีในการเป็นช่องทางเข้าถึง ดึงดูดและตอบสนองความต้องการผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว

อีกด้านหนึ่งของคน Gen Y ในฐานะผู้ผลิต คือ คนกลุ่มนี้มีความต้องการทำธุรกิจของตัวเองหรือ Startup ซึ่งในปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ก็กำลังควานหากลุ่ม Startup ฝีมือดีที่จะมาช่วยต่อยอด PropTech ให้กับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเอสซี แอสเสท, อนันดา, แสนสิริ ฯลฯ

เทรนด์ Startup กับ Gen Y
จากการสำรวจของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD พบว่า ในปี 2558 คน Gen Y ต้องการจะเป็น Startup เมื่อเรียนจบ ถึง 38% ถือว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่มีสัดส่วนไม่ถึง 20% โดย Startup ที่กำลังมาแรงและคงจะอยู่ต่อไปอีกนานคือการเขียนโปรแกรมและซอฟท์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟนและโลกออนไลน์ โดยข้อมูลจากสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ พบว่า เมื่อปี 2558 มีผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจ Tech Startup (การนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับการทำธุรกิจ) ในประเทศไทยประมาณ 400-500 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นคน Gen Y โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาจบใหม่

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ธุรกิจของคน Gen Y จะประสบความสำเร็จนั้น OKMD ประเมินว่ามีเพียง 50% เท่านั้น โดยสาเหตุมาจากคนกลุ่มนี้ไม่มีข้อมูลและไม่ได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งแนวโน้ม โอกาสของตลาดและเทรนด์ของลูกค้าอย่างเพียงพอ และการที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อน รวมทั้งยังต้องเผชิญความท้าทายต่าง ๆ อีกมากมาย และการให้สิทธิประโยชน์ที่ไม่มากพอจากภาครัฐ ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันไปจดทะเบียนธุรกิจในต่างประเทศสูงถึง 40% อาทิ สิงคโปร์ ซึ่งมีมาตรการสนับสนุนของภาครัฐจำนวนมาก เช่น มีการใช้โมเดลสนับสนุนธุรกิจ Startup โดยเฉพาะการผลักดันให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ การให้เงินลงทุนจำนวนมากและต่อเนื่อง การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่นิติบุคคล

หากนับเฉพาะในฝั่งของผู้บริโภค คนไทยเชื่อมั่นและพร้อมแล้วสำหรับ Prop Tech แต่ในแง่ของผู้ผลิตนั้นส่วนใหญ่ Startup ไทยยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะขาดการสนับสนุนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่จากแนวโน้มที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เตรียมพร้อมจะผลักดันในด้านนี้ เชื่อว่าไทยจะเติบโตด้าน Prop Tech ได้เช่นเดียวกับต่างประเทศในอนาคตที่ไม่ไกลเกินรอ

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

ย้อนรอย Prop Tech ก่อนก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีเต็มตัว

“อันที่จริง การเกิดขึ้นของเว็บไซต์เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Pro

Continue Reading3 May 2017