สนช.ทบทวนลดเพดานราคาบ้านจาก 50 ลบ.เหลือ 20 ลบ.ยกเว้นภาษี

1 Jun 2017

ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดกฏหมายภาษีที่ดินฯใหม่พร้อมบังคับใช้ได้ 1 ม.ค.62 ซึ่งจะทำให้การใช้ประโยชน์ที่ดินตรงกับมูลค่าที่ดินปัจจุบันและการจัดสรรที่ดินให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน

(วานนี้) ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดสัมมนาการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใต้กรอบพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เรื่อง “พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์” โดยนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ ฉบับใหม่จะทำให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินตรงกับมูลค่าที่ดินในปัจจุบันและการจัดสรรที่ดินให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน เนื่องจากการถือครองที่ดินยังกระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มน้อย โดยอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นจะสามารถแบ่งเป็น

1.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในเกษตรกรรม คิดอัตราภาษี 0.2% ของราคาประเมิน
2.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย คิดอัตราภาษี 0.5%
3.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นพาณิชยกรรม คิดอัตราภาษี 2%
4.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ คิดอัตราภาษีไม่เกิน 2% และจะเพิ่มอัตราภาษี 0.5% ทุก 3 ปี แต่อัตราภาษีรวมไม่เกิน 5%

ทั้งนี้ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะมีอำนาจจัดเก็บภาษี ซึ่งจะต้องรอพระราชกฤษฎีกาและข้อสรุปการกำหนดอัตราภาษีอีกครั้ง

สำหรับประเด็นที่ทางคณะกรรมาธิการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะทบทวนข้อสังเกตเพิ่มเติม ในเรื่องข้อยกเว้นราคาบ้านพักอาศัยหลังแรกไม่เกิน 50 ล้านบาท ปรับเพดานลดลงมาเป็น 20 ล้านบาทนั้น ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โดยจะต้องมีการเปรียบเทียบการจัดเก็บภาษีและการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมว่าบ้านพักอาศัยในระดับราคาต่างๆ เมื่อแบ่งออกมาแล้วมีกี่ยูนิต

ทั้งนี้ตามข้อมูลที่รวบรวมได้ในขณะนี้พบว่าบ้านราคาเกิน 50 ล้านบาท ทั่วประเทศมีประมาณ 11,000 ยูนิต และบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ทั่วประเทศมีสัดส่วนประมาณ 90%

house

โดยในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังสามารถเก็บภาษีบำรุงโรงเรือนและที่ดินได้ปีละประมาณ 27,000 ล้านบาท ภาษีบำรุงท้องที่ปีละประมาณ 980 ล้านบาท รวมเป็นปีละ 28,000 ล้านบาท ซึ่งการจัดทำ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีมากขึ้นได้ในหลักหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนการจัดเก็บภาษีพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม ทั้งนี้ในปัจจุบันร่างกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาของสนช. คาดว่าจะพิจารณาครบทุกวาระภายในปีนี้ และกฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1มกราคม 2562 เป็นต้นไป

ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคม นายกิติมศักดิ์และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรกล่าวเพิ่เมเติมเสริมว่า กรณีกรรมาธิการ สนช. ทบทวน ร่าง พ.ร.บ.ภาษีทีดินฯ ให้ปรับวงเงินจัดเก็บภาษีจากภาคเกษตรต่ำว่า 50 ล้านบาทได้รับยกเว้น และที่อยู่อาศัยลดลง 50 ล้านบาทต่อหลัง ลดเหลือ 10 ล้านบาทจึงได้รับการยกเว้น เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะบ้านอยู่อาศัยราคาต่ำ 10 ล้านบาท มีประมาณ 3-4 พันหลังต่อปี จึงควรปรับลดลงมาได้ เพราะมองว่าไม่ได้กระทบต่อผู้มีรายได้น้อยมากนัก

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

ตลาดสำนักงานเช่าระดับไพร์ม “กรุงเทพฯ”โตสุด

ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น หนุนตลาดสำนักงานไตรมาสแรกโต ดั

Continue Reading6 Jun 2017