เปิดศึกทำเลสำโรง ชิงดีมานด์คอนโดฯติดรถไฟฟ้า

7 Jun 2017

ตลาดคอนโดมิเนียมยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้า ล่าสุด เครือว่องไววิทย์ ปั้นคอนโดฯ “เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์” ยึดพื้นที่ทำเลสำโรงชิงดีมานด์ลูกค้า ชี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว-สายสีเหลือง กลายเป็นอีกหนึ่งทำเลแห่งใหม่น่าจับตามอง

นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมโทร โพลิสพรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด บริษัทในเครือว่องไววิทย์ อุตสาหกรรมจักรกล จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 ปี 2560 ว่า ยังมีทิศทางเติบโตในบางเซกเม้นท์โดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้า เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มในแนวรถไฟฟ้าอยู่แล้ว บวกกับการเปิดการค้าเสรีอาเซียน ทำให้มีทุนต่างชาติและนักธุรกิจ รวมถึงคนทำงาน เข้ามาในเมืองไทยเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ทำเลได้รับปัจจัยบวกจากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในการอนุมัติส่วนต่อขยายรถ ไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเหลือง ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เมืองสมุทรปราการมีการปรับตัวครั้งใหญ่ ทำให้บริเวณถนนบางนา- ตราด และถนนเทพารักษ์กลายเป็นทำเลทองแห่งใหม่

merto 02

ดังนั้น ทางบริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องในย่านดังกล่าว โดยขณะนี้ มีที่ดินที่รอการพัฒนาจำนวนหลายแปลง หนึ่งในนั้นที่เลือกมาพัฒนาอยู่ใกล้สถานีสมุทรปราการ เนื้อที่ 15 ไร่ ซึ่งจะเป็นโครงการที่ใหญ่เป็น 2 เท่ากว่าโครงการแรก”The Metropolis Samrong Interchange” (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าโครงการแรก ”The Metropolis Samrong Interchange” (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 2 อาคาร A สูง 39 ชั้น รวม 1,056ยูนิต, อาคาร B สูง 30 ชั้น รวม 552 ยูนิต และ Low Rise อาคาร C สูง 7 ชั้น จำนวน144 ยูนิต รวมอาคารจอดรถ 5 ชั้น 1 อาคาร รวมที่จอดรถประมาณ 750 คัน (ไม่รวมซ้อนคันคิดเป็น 42 เปอร์เซ็นต์) สำหรับรูปแบบห้อง แบ่งเป็น Studio 28 ตารางเมตร, 1 Bedroom 35 – 45 ตารางเมตร , 2 Bedrooms 52 – 53,ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ด้วยจุดเด่นของคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ติดกับสถานีสำโรง ซึ่งในอนาคต สถานีสำโรงจะเป็นสถานี อินเตอร์เชนจ์ (Interchange) เชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (เทพารักษ์ – ลาดพร้าว) ปัจจุบันมียอดขายได้แล้วประมาณ 70% โดยล่าสุด ช่วงวันที่ 10 – 11 มิ.ยนี้ เตรียมเปิดขายเฟสใหม่ ตั้งอยู่หน้าสุดของโครงการฯ อาคาร B พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม สูง 30 ชั้น จำนวนทั้งหมด 552 ยูนิต

metro 01

คอนโดฯย่านแบริ่ง สำโรง มีศักยภาพขยายตัว

ด้านพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาคอนโดมิเนียมพักอาศัยในย่านสุขุมวิทตอนปลาย แบริ่ง สำโรง มีศักยภาพในการขยายตัวและเติบโตได้ ทั้งตอบสนองความต้องการของคนทำงานในเมืองและคนทำงานในย่านสมุทรปราการ โดยบริเวณดังกล่าวจะได้ประโยชน์จาก

1.ความได้เปรียบจากทำเลที่ตั้งและต้นทุนที่ดิน กล่าวคือ ได้ประโยชน์จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว บีทีเอส ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างไปถึงสมุทรปราการและถนนแพรกษา โดยสถานีสำโรงเปิดให้บริการแล้วในปัจจุบัน รถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งเชื่อมต่อกับศูนย์กลางธุรกิจสำคัญย่านสุขุมวิท เพลินจิต สีลม และย่านการค้าสยาม นั้นช่วยให้คนทำงานกลางเมืองเดินทางเข้าถึงแหล่งงานและแหล่งช้อปปิ้งสำคัญย่านทองหล่อและสยามได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพียง 16 – 30 นาทีจากสถานีสำโรง นอกจากนี้สถานีสำโรงยังเป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่สำคัญของกรุงเทพฯด้วย

2.เป็นย่านที่พัฒนาแล้ว มีสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะครบถ้วน มีโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์หลายโครงการ เช่น เป็นที่ตั้งของตลาดสำโรง ศูนย์การค้าอิมพีเรียลสำโรง ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค มีโครงการบางกอกมอลล์ซึ่งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่มาก พัฒนาโดยกลุ่มเดอะมอลล์ บนที่ดินกว่า 100 ไร่ และโครงการอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เป็นต้น

3.ใกล้แหล่งงานในพื้นที่ ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ถนนเทพารักษ์ และสมุทรปราการซึ่งเป็นย่านอุตสาหกรรมที่สำคัญ สำโรงจึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งเหมาะแก่การอยู่อาศัย

ซึ่งจากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทยระบุว่า ณ ไตรมาสแรกของปีนี้จำนวนอุปทานคอนโดมิเนียมในย่านถนนสุขุมวิท ช่วงสี่แยกบางนาถึงสมุทรปราการมีทั้งสิ้น 27,916 หน่วย โดยมีจำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมถูกขายไปได้ทั้งสิ้น 18,956 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 67.9 อัตราการขายปรับตัวขึ้นจากปีพ.ศ. 2558 ซึ่งอยู่ในอัตราร้อยละ 62.8 โดยอัตราการขายคอนโดมิเนียมบริเวณนี้พบว่ามีอัตราการขายต่อปี อยู่ที่ประมาณ 3,500 – 4,500 หน่วยต่อปี

การขยายตัวของตลาดคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ (บางนา-สมุทรปราการ) มีปริมาณอุปทานเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2557 และ 2558 (มีอุปทานใหม่เพิ่มสูงถึง 6,642 หน่วยและ 7,292 หน่วยตามลำดับ) ซึ่งปี 2556 เป็นปีที่เริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่งไปสมุทรปราการ ขณะที่ปี 2559 มีอุปทานใหม่เพียง 3,836 หน่วยและไตรมาสแรกของปี 2560 มีอุปทานใหม่เพียง 972 หน่วย ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะตลาดในภาพรวม ส่วนอุปสงค์นั้นมีอัตราการซื้อห้องชุดในบริเวณนี้ประมาณ 3,500 – 4,500 หน่วยต่อปี เมื่อพิจารณาแนวโน้มตลาดโดยรวมแล้ว ภาพรวมของตลาดยังถือว่าอยู่ในสภาพที่ดี อุปทานมีการปรับตัวสอดรับกับอุปสงค์ที่มีอยู่ในตลาด

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

POST COMMENT

You may also like these articles

เวนคืนที่ดินโซนกรุงเทพฯตะวันออก 1พันไร่ รับนํ้าทั่วกรุง

สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมออกพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) เวนคืนที่ด

Continue Reading6 Jun 2017

ตลาดสำนักงานเช่าระดับไพร์ม “กรุงเทพฯ”โตสุด

ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น หนุนตลาดสำนักงานไตรมาสแรกโต ดั

Continue Reading6 Jun 2017