3 ขั้นตอนจัดสนามหญ้าหน้าบ้าน เพิ่มความสดชื่น

3 Jul 2017

บ้านในฝันที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีคงไม่อาจจะสมบูรณ์ได้หากขาดสนามหญ้าหน้าบ้านช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เท่าทวี โดยเฉพาะช่วงก่อนฝนตกที่มีกลิ่นต้นหญ้าพัดผ่านตามสายลมให้สัมผัสธรรมชาติ หรือจะเป็นพื้นที่กิจกรรมสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างอบอุ่นในสวน

การเนรมิตสนามหญ้าหน้าบ้านไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ศึกษาทำความเข้าใจเล็กน้อย ก่อนมอบหน้าที่ให้คนสวนหรือจะเป็นผู้ดูแลรักษาสนามหญ้าด้วยตัวเองก็ย่อมได้ ด้วยวิธีการดังนี้

เลือกหญ้าที่ใช่
หญ้าหลากหลายสายพันธุ์มีความแตกต่างกันในหลายเรื่อง เช่น ความทนทาน การดูแลรักษา ควมสวยงาม และความเหมาะสมกับพื้นที่ โดยส่วนใหญ่ในประเทศไทยมีหญ้า 4 ชนิดที่ได้รับความนิยม ได้แก่ หญ้านวลน้อย หญ้าญี่ปุ่น หญ้ามาเลเซีย หญ้าเบอร์มิวด้า และหญ้าฟลอริด้า ซึ่งหญ้าแต่ละประเภทนั้นจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูกัน

– หญ้านวลน้อย หญ้าพื้นเมืองของไทย ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นหญ้าที่มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับการปูเป็นพื้นสนาม เนื่องจากชอบแสงแดดและสามารถขึ้นในพื้นที่กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี รวมถึงดูแลรักษาไม่ยาก แค่หมั่นรดน้ำในช่วงฤดูร้อน เพื่อไม่ให้ใบเหลืองจากแดดและอากาศร้อน

– หญ้าญี่ปุ่น มี 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดใบกว้าง จะมีใบประมาณ 4 มิลลิเมตร และชนิดใบกลม ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศไทย เนื่องจากใบเล็กและละเอียดกว่า โดยเฉพาะการนำมาใช้จัดสวนแบบญี่ปุ่น เนื่องจากเติบโตช้าอาจจะต้องใช้เวลาเดือนหรือเป็นปี จึงขึ้นเต็มสนาม แต่เมื่อขึ้นแล้วจะคลุมดินอย่างหนาแน่น จนวัชพืชไม่สามารถขึ้นได้ และทนต่อโรคหรือแมลงมากกว่าหญ้าชนิดอื่น รวมถึงทนต่อการเหยียบย่ำพอควร และไม่ค่อยยืดหยุ่นตัวเหมือนหญ้านวลน้อย เพียงแต่ต้องการน้ำมาก ถ้าขาดน้ำเป็นระยะเวลานานจะทำให้ใบเหลืองทันที และหากปล่อยไว้นานไม่ตัดแต่งจะขึ้นกระจุกตัวและลำบากในการตัดแต่งต่อไป

– หญ้ามาเลเซีย ในบางท้องที่อาจจะเรียกหญ้าเห็บหรือหญ้าไผ่ ส่วนใหญ่ปลูกในสวนยางพาราภาคใต้ติดกับประเทศมาเลเซีย ก่อนจะได้รับความนิยมนำมาปลูกในสวนหน้าบ้าน โดยเป็นหญ้าที่มีใบขนาดใหญ่ที่สุดประมาณ 2-2.5 มิลลิเมตร ชอบแดดแบบรำไร เช่น ร่มไม้หรือชายคาบ้าน เพียงแต่เป็นหญ้าที่ต้องการน้ำมาก ทำให้ต้องรดน้ำทุกวัน

– หญ้าเบอร์มิวด้า หรือหญ้าแพรก มีสีเขียวสดหากได้รับแสงแดดเต็มที่ ทนต่อความแห้งแล้งและความร้อนได้สูง แค่น้ำค้างก็สามารถเติบโตได้ ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการให้หญ้าคุณภาพดี เราควรหมั่นรดน้ำให้พอเพียง และอย่าปลูกในที่ร่มหรือตามชายคาบ้าน โดยใส่ปุ๋ยทิ้งระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน รวมถึงระวังการเจริญเติบโตไม่ให้กลายเป็นวัชพืชเข้าไปยังแปลงดอกไม้หรือถนนที่มีรอยแตกให้หญ้าแทรกตัวได้

– หญ้าฟลอริด้า หรือหญ้าทิฟกรีน ซึ่งมักใช้ในสนามกอล์ฟหรือปลูกในสวน เพราะทนต่อการเหยียบย่ำและฟื้นตัวได้เร็ว ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มเมื่อสัมผัส โดยสามารถเติบโตได้เร็ว และทนต่อความแห้งแล้ง หรือน้ำท่วมได้ดี เพียงแต่ต้องปลูกในที่แจ้ง ไม่สามารถปลูกในที่แสงน้อยหรือแดดรำไรได้ รวมถึงต้องหมั่นรดน้ำและระวังการเติบโตไม่ให้กลายเป็นวัชพืช

เทคนิคการปูหญ้า
หลังจากเลือกหญ้าที่เหมาะกับสวนและความต้องการของเราแล้ว อย่างไรก็ตาม การปลูกหญ้ามี 2 รูปแบบ หากไม่ต้องการวุ่นวายกับขั้นตอนการเพาะบ่มให้ต้นหญ้าเติบโตและค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาทั้งค่าปุ๋ยบำรุง และค่าน้ำที่ต้องเปิดทิ้งไว้เลี้ยงเมล็ดพันธุ์ให้ชุ่ม เราสามารถเลือกซื้อหญ้าแผ่นสำเร็จรูปปูให้เต็มสนามหญ้าแทนการหว่านเมล็ดพันธุ์

เริ่มจากการสำรวจพื้นที่และอาณาบริเวณที่ต้องการปูหญ้า พร้อมปรับสภาพดินให้เรียบร้อย โดยเพิ่มสารอาหารให้ดิน ด้วยดินขลุยไผ่ หรือโรยทรายขี้เป็ด ก่อนจะรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มทั่วบริเวณ หลังจากนั้นจึงนำพันธุ์หญ้าปูให้เต็มพื้นที่ ใช้จอบปรับแต่งดินและกดหญ้าให้ติดกับดิน รดน้ำบนหญ้าให้ชุ่มอีกครั้ง

ขณะที่ในบริเวณที่หน้าดินทรุดหรือน้ำเซาะเป็นแอ่งจนไม่สามารถปรับแต่งพื้นที่ให้เรียบเสมอกันได้ เราสามารถปลูกหญ้าได้ตามปกติ เนื่องจากต้นหญ้าสามารถเจริญเติบโตมายังพื้นที่ดังกล่าวได้ตามธรรมชาติ หรืออาจจะเร่งระยะเวลาการเติมเต็มพื้นที่ ด้วยการโรยเมล็ดหญ้าลงในบริเวณที่เว้าแหว่ง ก่อนจะใส่ปุ๋ยชีวภาพคลุมทับและรดน้ำจนชุ่มชื้น ต้นหญ้าจะใช้เวลาเติบโตเติมให้พื้นที่สมบูรณ์ประมาณ 2 สัปดาห์

ดูแลรักษาหญ้าให้เขียวขจี
หากช่วงที่ปูหญ้ามีแดดแรงหรืออากาศแห้ง เราควรรดน้ำให้ชุ่มทันทีต่อเนื่องประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อให้หญ้าตั้งตัว เนื่องจากหญ้าเป็นพืชที่ต้องการน้ำสำหรับการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ โดยเราอาจจะรดน้ำให้ชุ่มทุกเช้า และเว้นมาเป็นช่วงเย็น หรืออาจจะติดตั้งสปริงเกอร์พ่นน้ำชนิดตั้งเวลาได้ สำหรับรดน้ำเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน พร้อมทั้งบำรุงรักษาด้วยปุ๋ยออแกนิกส์ หรือปุ๋ยชีวภาพที่มีจุลินทรีย์อยู่ข้างใน ซึ่งไม่เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติ

นอกจากนั้น เราควรหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนถึงสิ่งผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นกับสนามหญ้าหน้าบ้านของเรา เช่น วัชพืช และศัตรูพืช โดยพยายามไม่ใช้สารเคมีรุนแรงและเลือกใช้ยาฆ่าแมลงที่มีส่วนประกอบของธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสมาชิกในครอบครัว

ที่สำคัญอย่าลืมหมั่นตัดหญ้าเป็นประจำ โดยพยายามตัดหญ้าไม่เกิน 1 ใน 3 ของความยาวต้นหญ้าทั้งหมด เนื่องจากหากตัดหญ้าสั้นเกินไปอาจจะกระทบทระเทือนถึงรากและทำให้ต้นหญ้าตายได้ แต่เน้นการเล็มหญ้าอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ พร้อมทั้งปล่อยให้หญ้าที่ตัดเล็มรวมกันบนสนาม เพื่อให้กลายเป็นปุ๋ยบำรุงหญ้าอีกครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่ตัดเล็มหญ้า ต้นหญ้าจะผลิตยอดอ่อนออกมาเขียวขจียิ่งขึ้น

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน  

POST COMMENT

You may also like these articles

ส่องโครงการบ้านและคอนโด จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางสำหรับครอบครัว

 วินาทีนี้กลุ่มคนที่คิดอยากสร้างครอบครัว มีลูก ต่างมองหาบ้านหรือคอน

Continue Reading1 Jul 2017